'ชวน'กรีด 'เศรษฐา'โวลงพื้นที่ภาคใต้ เป็นนายกฯอย่าทวงบุญคุณ เหน็บ'เสดสา'

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ญัตติอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152  นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์  อภิปรายถึงการแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะยางพาราว่า  วันนี้ราคายางที่มีราคาขยับสูงขึ้นเป็นเรื่งที่น่าดีใจและน่าพอใจ และทุกคนได้ช่วยสนับสนุน  กรณีนี้เป็นเรื่องเศรษฐกิจเบื้องต้นที่ทุกคนต้องรู้ในเรื่องอุปสงค์-อุปทาน เป็นตัวกำหนดราคาพื้นผลทุกชนิด 

ทั้งนี้การที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงต่อสภาหลังราคายางมีราคาขึ้นเกิดจากการปราบปรามยางเถื่อน

ฉะนั้นถ้าประชาชนเชื่อว่าการปราบยางเถื่อนทำให้ราคายางขึ้น โดยไม่เชื่อเรื่องอุปสงค์-อุปทาน เป็นตัวกำหนดถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะในโลกความเป็นจริงวันหนึ่งเหตุการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปผลผลิตเพิ่มขึ้นไม่อยากให้เราหลงทางในเรื่องนี้ และขอให้รัฐบาลดำเนินการเรื่องนี้อย่างรอบคอบและถี่ถ้วน 

ขอตั้งคำถามตามมาตรา152ว่า  1.ท่านคิดว่ายางจะราคาดีอย่างนี้ต่อไปใช่หรือไม่ โดยไม่เกี่ยวข้องกับอุปสงค์-อุปทานในอนาคต

2.โดยความเชื่อส่วนตัวเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นคืออุปสงค์-อุปทาน ในวันข้างหน้าหากมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องผลผลิตและความต้องการที่ทำให้ยางพาราตกลงรัฐบาลมีแนวป้องกันหรือไม่ว่าจะให้ชาวบ้านอยู่ด้วยราคายางไม่ต่ำกว่าเท่าไหร่
 

ขณะที่นโยบายภาคใต้ ตนเคยทักท้วงในการแถลงนโยบายรัฐบาลว่าไม่เคยเขียนนโยบายในเรื่องนี้ไว้เลย  ความผิดพลาดจากนโยบายในอดีตทำให้เรามีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบตั้งแต่วันที่2547  จำนวน7,520 คน จนถึงวันที่ตนอภิปรายในเดือนส.ค.2566  ขณะที่ตัวเลข ณ เดือนก.พ.2567 เพิ่มเป็น7,574 คน เพิ่มขึ้น57คน

นายชวน ยังกล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากนโยบาย8เม.ย.2544 ที่แก้ปัญหาด้วยการจัดการเสียเดือนละ10คน 2เดือนก็หมดง่ายๆด้วยการฆ่าทิ้งวันนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ต้องหยิบนโยบายพร้อมพิจารณาว่า เราจะมีมาตรการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร 

ก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ความไม่สงบว่า22มี.ค. โดยระบุว่า รับทราบแต่เหตุการณ์ดีขึ้นพร้อมต้อสายถึง นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตนขอถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุในประเทศหรือเหตุระหว่างประเทศและนายอันวาร์ให้ข้อแนะนำอย่างไร  

ขอเตือนว่าความผิดพลาดด้วยความไม่รอบคอบอาจเป็นผลยาวไกล เรื่องความมั่นคงเราทดลองไม่ได้ ถ้าพลาดเราเอาคืนยาก จึงขอฝากความหวังไว้กับรัฐบาลว่าอย่าดูดายในเรื่องนี้ 
 

นายชวน ยังกล่าวอีกว่า กรณีนายเศรษฐา ไปบรรยายกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ในโอกาสการสร้างธุรกิจในการการมีส่วนร่วมประเทศ โดยระบุว่า "เป็นนายกฯคนแรกที่ลงพื้นที่ภาคใต้3วัน2คืน ไม่เห็นมีใครใส่เสื้อเกราะหรือรถทหารตามมาเพราะมั่นใจว่ามีเจตนาที่ดีแม้เพื่อไทยไม่มีสส.ขออย่าไปเชื่อวาทกรรมที่ระบุว่าไม่ให้ความสำคัญกับภาคใต้ สนามบินภูเก็ตพรรคเพื่อไทยไม่มีสส.แต่ลงทุนไปหลายหมื่นล้าน"

นายชวน อธิบายว่า  "เมื่อเป็นนายกฯอย่าไปคิดว่ามีสส.หรือไม่ หน้าที่ท่านต้องไปไปนิดเดียวอย่าทวงบุญคุณนั่นคือหน้าที่อยู่แล้ว ท่านไปภูเก็ตเข้าใจ ความจริงท่านไปก่อนแล้ว เพราะมีบริษัทของท่านทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่นั่น"

นายชวน ยังกล่าวว่า วันนี้นายเศรษฐาไม่ได้เป็นนายกอีกแอบแต่เป็นนายกฯเกือบปีแล้ว "เศรษฐา" ภาษาใต้เขาเรียกว่า "เสดสา" แปลว่า ลำบาก ยืนยันว่าตนไม่เคยพูดว่านายกฯบางคนไม่ให้ความสำคัญกับภาคใต้ แต่ภาคใต้ถูกเรื่องปฏิบัติ เรื่องนี้คนที่ที่พูดคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ขณะที่อีกคนที่พูด ภูเก็ตขอหอประชุมไม่ให้จนกว่าจะเลือกพรรคเรา แต่กรณีดังกล่าวมีการขอโทษตนในสภา 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงช่วงนี้ ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมว.คลังใช้สิทธิประท้วงในฐานะสส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ขอให้นายชวนปฏิบัติตามข้อบังคับข้อที่69 ในเรื่องการพูดถึงบุคคลภายนอก ทำให้นายชวน ระบุว่า จะเอ่ยเพียงอดีตนายกฯเท่านั้น

นายชวน ยังกล่าวว่า รัฐบาลประกาศว่าจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพและโปร่งใส แต่ในทางปฏบัติจริงๆ6เดือนกว่า จริงอยู่ว่าบางนโยบายต้องใช้เวลา แต่สิ่งที่ทำได้ทันทีคือ การรักษาหลักนิติธรรม

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือกรณีนักโทษ การที่คนป่วย หายป่วยเป็นเรื่องนี้ เพื่อจะมีชีวิตเป็นขวัญใจให้ลูกหลานและมีชีวิตเพื่อรับกรรมในสิ่งที่ไม่ดีต่อไป  

มีข้อถกเถียงว่ากฎกระทรวงออกในรัฐบาลที่ตนเป็นนายกฯ ในความเห็นตนเห็นว่าเป็นเรื่องดีแต่ปัญหาคือแต่ละข้อได้มีการปฏิบัติหรือไม่  ความจริงอยู่ที่รัฐบาลทำให้หลักเหล่านั้นถูกปล่อยปะละเลยไม่ให้กฎกติกา ความถูกต้องยุติธรรมเกิดขึ้น คำถามคือ

สิ่งที่เกิดขึ้นรัฐบาลจำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เราจะให้ประชาธิปไตยไปได้ดีไม่ว่าฝ่ายไหน ต้องเคารพกฎหมายบ้านเมืองโดยไม่เลือกปฏิติ