'บิ๊กโจ๊ก' จ่อฟ้องนายกฯ - ก.ตร.สัปดาห์หน้า หลังยันคำสั่งให้ออกราชการ

'บิ๊กโจ๊ก' จ่อฟ้องนายกฯ - ก.ตร.สัปดาห์หน้า หลังยันคำสั่งให้ออกราชการ

บิ๊กโจ๊ก' จ่อฟ้องนายกฯ - ก.ตร.สัปดาห์หน้า หลังเห็นชอบคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน ลั่นไม่เป็นศัตรูกับใคร ขอต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. มีมติ 12 ต่อ 0 เห็นชอบตามคำสั่งคณะอนุกรรมการฯ ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ออกราชการไว้ก่อน โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  เป็นประธาน ก.ตร. เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2567

ที่โรงแรมรามาการ์เด้น ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย กรณี เลขาฯ ก.ตร. แถลงชี้แจง เลขาฯ ไม่ได้ระบุว่า มติที่ประชุม 12:0 แต่เลขาฯ ระบุว่า ก.ตร.ไม่มีอำนาจให้ไปฟัง คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.พ.ค.ตร. ยืนยัน ก.ตร. ไม่มีอำนาจในเรื่องใช้สิทธิร้องทุกข์ต่างๆ ต้องยื่นฟ้องศาลปกครอง แต่ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 ฉบับใหม่ ให้มี ก.พ.ค.ตร. เทียบเท่า ศาลปกครองชั้นต้น เพื่อให้ความเป็นธรรมกับตำรวจ ซึ่งตนยื่นไปตามขั้นตอน
 
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สมัยก่อนเราไม่มี ก.พ.ค.ตร. ต้องไปฟ้องศาลปกครอง เขาจะให้ตำรวจมายื่นกับ อนุ ก.ตร. ร้องทุกข์  ในเรื่องคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมเป็นเรื่องร้องทุกข์ ขณะที่ พ.ร.บ.ตำรวจใหม่ ไม่มีให้ยื่น เพราะเมื่อก่อนไปยื่น อนุ ก.ตร. ร้องทุกข์ , อนุ.ก.ตร.วินัย ไม่มีอำนาจพิจารณา โดย อนุ ก.ตร. เป็นตำรวจทั้งหมด ใครจะกล้าบอกว่า ผบ.ตร.ผิด

"ผมเป็นตำรวจผมรู้กลไก วันนี้เราไม่รู้เรื่องจริง เราต้องไปดูมติ เมื่อวานผมไม่รู้เรื่องจริง จึงฟังจากเลขาฯ ผมพูดตลอดว่า เดิมไม่มี ก.พ.ค.ตร. การที่ นายกฯ อยู่ในคณะกรรมการ ก.ตร. ตรงนี้มีนัย เริ่มแรกที่ถูกให้ออก ผมทำหนังสือหานายกฯ ว่า ไม่ถูกต้องขอให้สั่ง ผบ.ตร. ยกเลิกเพิกถอนคำสั่ง"
 

โดยต่อมา นายกฯ ส่งหนังสือลงนาม โดยรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คำสั่งชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาคณะกรรมการกฤษฎีกา ออกมาว่าไม่ชอบ และให้ข้อสังเกตคือ คำสั่งไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 120  

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวาน(26 มิ.ย.67) นายกฯ นั่งเป็นประธาน ก.ตร. ทำไมไม่คัดค้าน เมื่อคำสั่งไม่ถูกต้อง และนายกฯ ไม่นำความขึ้นกราบบังคมทูล  เมื่อนายกฯไปรับรองในที่ประชุม ก.ตร. ถือว่าความผิดสำเร็จ ผมจะดำเนินคดี รวมถึงคณะกรรมการ ก.ตร.ในสัปดาห์หน้า เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของ ก.พ.ค.ตร.

"ผมไม่ได้จะไปเป็นศัตรูกับใคร ผมเพียงแค่ทำให้ถูกต้อง เพราะวันนี้ผมโดนแบบนี้ ใครไม่เป็นผมไม่เข้าใจ ผมกำลังตามหาความยุติธรรมให้กับตัวเอง สัปดาห์หน้าจะดำเนินการฟ้อง ขอเวลาอ่านเอกสารก่อน"
 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณี พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีต  รองผบ.ตร. และหนึ่งใน ก.ตร. ออกมาต่อว่า กรณีตนไปยื่นฟ้องหมิ่นประมาท ท่านจะเอาเรื่องมาแฉ ก็แฉได้ ตนไม่ได้ว่าอะไร แต่ต้องเข้าใจประเด็นว่าเรื่องอะไร สุดท้าย ท่านไม่ใช่ศาลไม่มีสิทธิมาตัดสิน ตนอยากพูดให้สื่อฟังไปเลย แต่ต้องพูดให้ครบไม่ใช่ด้านเดียว วันนี้สำหรับตนอะไรก็ได้ แต่ให้มันถูกต้อง"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมชอบมีเรื่องกับผู้บังคับบัญชา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ต้องถามกลับว่าทำไมผมถูกรังแกมาทั้งชีวิต ตอนนี้ถ้าผมเหลือปีเดียวคงไม่มีใครมายุ่ง ตอนนี้เหลือหลายปี อาวุโสอันดับ 1 ประชาชนชอบ ชาวบ้านชอบ

"ตอนนี้ยังรอคำแก้อุทธรณ์จาก บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์. รอง ผบ.ตร. อดีต รรท.ผบ.ตร. อยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย วันนี้ไม่น่าจะช้า ยังมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม ยังไม่เห็นเรื่องที่หนักใจ"

เมื่อถามว่า ก.ตร. มีมติเช่นนี้ กดดันไหม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผมมองว่าไม่ได้กดดัน เชื่อมั่นว่าทุกอย่างยึดตามกฎหมาย มองว่าไม่มีประเด็นอะไรน่าหนักใจ 

ส่วนกรณีนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี บอกไม่ควรด่วนไปฟ้องนายกฯ  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า มองว่าเป็นการละเมิดซ้ำๆ ผมเสียสิทธิ เมื่อวานนายกฯ มานั่งเป็นประธาน ทั้งที่ไปปรึกษากฤษฎีกาแล้ว ว่ามีข้อสังเกต แต่การที่นายกฯ มารับรองถือว่าใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบ ท่านรู้อยู่แล้วว่าคำสั่งไม่ชอบ

เมื่อถามว่า ยืนยันจะเดินหน้าฟ้องนายกฯ ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผมแค่รักษาสิทธิของตัวเอง เพราะตอนนี้ผมพึ่งพาใครไม่ได้ ต้องต่อสู้เพื่อหาความยุติธรรมให้กับตัวเองแค่นั้นเอง

ขณะเดียวกันกรณีนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่าจะให้ความเป็นธรรม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า มองว่าเป็นวลี เป็นแค่วาทกรรม ถ้าให้ความเป็นธรรมทำไมไปรับรองในที่ประชุม ก.ตร. พูดว่าให้ความเป็นธรรมแต่การปฏิบัติไม่ใช่ ตอนนี้ ผมยังคาดหวังผล ก.พ.ค.ตร.อยู่

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์