กมธ.แรงงาน จ่อถก'ประกันสังคม' ปมนำเงินลงทุนตลาดหุ้น-ร.พ.มงกุฎวัฒนะถอนตัว
”สามารถ“เผย กมธ.เตรียมเรียก”ประกันสังคม“แจงปมนำเงินลงทุนในตลาดหุ้นช่วงขาลง หวั่นหากขาดทุนจะกระทบผู้ประกันตนกว่า 25 ล้านคน พร้อมหารือปมร.พ.มงกุฎวัฒนะถอนตัว
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ที่ปรึกษาประจำคณะ กมธ.การแรงงาน ในฐานะโฆษกกรรมาธิการการแรงงาน แถลงข่าวถึงความห่วงใยของคณะ กมธ.การแรงงานถึงกรณีกองทุนประกันสังคม
โดยคณะ กมธ.ได้ตั้งคณะ อนุ กมธ.เพื่อพิจารณาศึกษาดูแลเรื่องการทำงานของกองทุนประกันสังคม ที่มีผู้ใช้แรงงานส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคม ตามมาตรา 33 มาตรา 34 9 และมาตรา 40 ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2567 มีผู้ส่งประกันจำนวน 24,633,583 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก แต่การใช้เงินของกองทุนมีการไปลงทุนในหลายส่วน เช่น การไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ในช่วงขาลง หากขาดทุนมันจะกระทบต่อผู้ที่ส่งเงินประกันสังคมเกือบ 25 ล้านคน
“เรื่องนี้คณะกรรมาธิการให้ความสำคัญเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะคณะ กมธ. มีความห่วงใยว่าจะมีผลกระทบต่อแรงงานที่ส่งเงินเข้ากองทุน โดยในสัปดาห์หน้า คณะ กมธ.จะเชิญผู้บริหารกองทุนประกันสังคม เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงเรื่องการบริหารและการลงทุนของกองทุน เพราะวานนี้ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ประกาศเตรียมถอนตัวจากการเป็นคู่สัญญาประกันสังคม ซึ่งผู้ประกันตนจำนวนมากกว่า 100,000 คนที่ขึ้นทะเบียนกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ทางกรรมาธิการจึงไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็จะมีการนำประเด็นนี้เข้าหารือในคณะอนุ กมธ.ในวันพุธหน้า เวลา 10.00 น.“นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า กมธ.ได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานการพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา วันนี้แรงงานไทยที่ได้รับใบอนุญาตไปทำงานที่ต่างประเทศถดถอยลง เพราะเมื่อปี 2562 เรามีคนหางานที่ได้รับอนุญาตไปทำงานที่ต่างประเทศ 59,561 คน แต่ในปี 2567 มีเพียง 35,406 คนเท่านั้น หมายความว่า คนไทยที่ได้อนุญาตไปทำงานที่ต่างประเทศน้อยลง ก็เพราะการพัฒนาฝีมือของเราถดถอย ปัญหาแรงงานผีน้อยที่เกิดขึ้นก็เพราะไม่สามารถไปทำงานตามช่องทางได้ เนื่องจากคุณสมบัติไม่ผ่าน
นายสามารถ ยังกล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นประธาน กมธ.จึงมีความห่วงใย และเมื่อได้ลงไปดูศูนย์พัฒนาฝืมือแรงงาน จ.สมุทรปราการ ก็พบว่า หากย้อนไป 30 ปีที่แล้วศูนย์นี้ก็คงจะทันสทัย แต่ปัจจุบันเครื่องมือ และเครื่องจักร ล้าหลังมาก เนื่องจากงบประมาณที่จัดสรรให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานน้อยมาก ถ้าเทียบกับกรมอื่น ๆ ในกระทรวงแรงงาน กมธ.จึงกังวลกับงบประมาณดังกล่าวที่จะนำมาใช้พัฒนาฝีมือให้คนไทย ซึ่งวันนี้เราพยายามจะเร่งให้แรงงานไทยมีรายได้ที่สูงขึ้น และไม่ใช่แค่รายได้ในประเทศเท่านนั้น แต่รวมถึงรายได้จากต่างประเทศด้วย ถ้าเราสามารถส่งคนไทยไปทำงานต่างประเทศได้ และมีรายได้กลับมาในประเทศไทย อันนี้คือกำไร ที่จะเพิ่มรายได้ให้กับประเทศได้