'กมธ.งบฯ68' ติง 'สลน.' เสนอของบเน้นอบรม-สัมมนา แนะให้เปลี่ยน
“กมธ.งบ68 “ติง งบ “สลน.”ควรเปลี่ยนเนื้องานให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ หลังพบเน้นแต่จัดอบรมสัมมนา แนะก.พ.เพิ่มบุคลากรด้านสธ.รองรับโอนถ่ายรพ.สต.ให้ท้องถิ่น
ที่รัฐสภา นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 สภาฯ แถลงผลการประชุมกมธ.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณามาตรา 7 สำนักนายกรัฐมนตรี รวม 21 หน่วยงาน 3 กองทุน โดยพิจารณาไปแล้ว 14 หน่วยงาน 1 กองทุน โดยกมธ.ได้ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับงบสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ซึ่งมีโครงการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในระดับพื้นที่ด้านสิ่งแวดล้อม แต่เนื้องานตามที่ขอรับจัดสรรงบประมาณกลับให้ความสำคัญกับการจัดอบรมสัมมนาในโรงแรม จึงควรเปลี่ยนเนื้องานให้มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ควรพิจารณาเพิ่มจำนวนบุคลากรสายวิชาชีพให้มากขึ้นเพื่มเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ทยอยรับกิจการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) แต่ไม่มีการถ่ายโอนบุคลากรด้านสาธารณสุขเข้าไปทำงาน ดังนั้นก.พ.ควรหาแนวทางการสร้างตำแหน่งใหม่เพื่อลดการขาดแคลนบุคลากรในพื้นที่
โฆษกกมธ.งบฯ กล่าวอีกว่า ในร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี 68 เป็นครั้งแรกที่เทศบาลตำบลจะเป็นหน่วยรับงบประมาณโดยตรงทั้ง จำนวน 2,247 หน่วยจ ที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณ และฝ่ายเลขานุการกมธ.ฯ ร่วมกันกำหนดแนวทางการพิจารณาให้มีประสิทธิภาพ โดยจะใช้การประชุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือซูม เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดและสะดวกในการประชุมร่วมกัน หากให้ทั้งหมดมาเข้าร่วมประชุมในห้องก็อาจจะเกิดความล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพ
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า จากการพิจารณาของที่ประชุม ขณะนี้ยังไม่มีการปรับลดงบประมาณเพราะเป็นการพิจารณาภาพรวม ส่วนการปรับลดจะเป็นหน้าที่ของอนุกมธ.ที่จะมีการตั้งขึ้นต่อไป ซึ่งคงต้องพิจารณาไประยะหนึ่ง จากนั้นจะกำหนดกลุ่มว่าจะมีการตั้งอนุกมธ.อย่างไรและมีกี่อนุกมธ. เพื่อให้ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพ คู่ขนานไปกับการประชุมในห้องใหญ่.