'นายกฯ' น้อมรับผลโพลสำรวจคะแนนนิยมการเมืองเป็นรอง

'นายกฯ' น้อมรับผลโพลสำรวจคะแนนนิยมการเมืองเป็นรอง

"นายกฯ" บอกพร้อมปรับยุทธศาสตร์ หลังนิด้าโพล เผยคะแนนนิยมการเมืองเป็นรอง ระบุน้อมรับ มีเรื่องยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ ยืนยันพรรคร่วมไร้ปัญหา

ที่จังหวัดสุรินทร์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ให้สัมภาษณ์ต่อกรณี นิด้าโพล ระบุว่า ความนิยมนายกฯ เป็นรองนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะแคนดิเดตนายกฯ จะทำให้ต้องปรับยุทธศาสตร์หรือไม่ ว่า เรื่องยุทธศาสตร์ปรับตลอดเวลา แม้มีโพลหรือไม่มีก็ตาม เพราะการลงพื้นที่แต่ละครั้งถือว่าไม่สมบูรณ์ เพราะมีข้อร้องเรียน ข้อเรียกร้อง ระยะเวลา และความลึกของการลงพื้นที่ รวมถึงระยะเวลาที่ให้กับพ่อแม่พี่น้อง มีหลายๆ ปัญหาที่ยังไม่ถูกนำมาพูดถึง แต่ทุกครั้งในการลงพื้นที่เวลากลับไปจะมีการพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่ใช่แค่ลงพื้นที่อย่างเดียว นโยบายต่างๆ หรือการที่จะมีการปรับโครงสร้าง และการดูแลประชาชนในหลายๆ ด้าน ดังนั้นคงมีการปรับตัว ส่วนโพลเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนผลตอบกลับเรา

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากคะแนนนิยมจากโพล มองว่าตัวเองยังขาดอะไรอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวยอมรับว่า

ยังไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำ ส่วนนโยบายหลักยังไม่คลอด ขณะที่ผลโพลเราน้อมรับ ส่วนการจะไปถามครอบคลุมทุกภาคส่วนหรือไม่สื่อมวลชนต้องดู ว่าเข้ามาสำรวจในจังหวัดสุรินทร์ หรือในพื้นที่รอบๆ ครบหรือเปล่า หรือถามแต่จังหวัดใหญ่ๆ

เมื่อถามว่า ตั้งเป้าตัวเลขของนักลงทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในไทย  นายเศรษฐากล่าวว่า จริงๆ แล้วตั้งแต่ก่อนไตรมาส 4 ก็เข้ามาเยอะขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่พอดีตัวเลขเยอะเหลือเกินตนจำไม่ได้ แต่ละช่วงไตรมาสเพิ่มขึ้นมาตลอดเวลา ดังนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นระยะยาว เม็ดเงินที่ลงมาก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เม็ดเงินบางส่วนที่ลงมาก็เป็นเพียงเม็ดเงินเบื้องต้น เช่น ถ้ามาสร้างโรงงานเม็ดเงินที่มาก็เป็นการซื้อที่ แต่เมื่อสร้างโรงงานมีการจ้างงาน มีการซื้อสินค้าแล้ว เชื่อว่าประโยชน์ก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ 

เมื่อถามว่าการลงทุนถือเป็นการขับเคลื่อนที่ดี แต่การลงพื้นที่นายกรัฐมนตรีประกาศว่าในไตรมาส 4 เงินดิจิทัลได้แน่ ขณะที่สภายังแขวนเรื่องนี้ไว้ในวาระ 2 ชั้นกรรมาธิการ จะสะดุดอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเชื่อว่าเป็นนโยบายหลัก ที่ประชาชนให้ความสนใจ และ ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนต้องซักถามให้ละเอียด หากจะใช้คำว่าแขวนอยู่ก็ตามที รัฐบาลก็ต้องนำไปพิจารณาว่าเราทำอะไรที่ไม่สมบูรณ์หรือเปล่า และต้องกลับไปตอบคำถามเขาให้ได้ เมื่อถามว่ารัฐบาลเตรียมแผนไว้แล้วใช่หรือไม่หากในวาระ 3 เกิดสะดุด สมาชิกส่งตีความให้เกิดความชัดเจน นายเศรษฐากล่าวว่า “ความตั้งใจเราอยากให้ผ่านวาระ 3 ครับ”

เมื่อถามว่า วันนี้รัฐบาลยังเป็นปึกแผ่นใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.  การลงพื้นที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็มา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็มา ตนก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร และตนเห็นส.ส.จากพรรคภูมิใจไทยมาด้วย จึงไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไร

"การลงพื้นที่ตนก็ไม่ได้เลือกแจกงบไปที่จังหวัด อำเภอ หรือเขตที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตนคำนึงถึงพี่น้องประชาชนเป็นหลักมากกว่า และเชื่อว่าทีมงานจากสำนักนายกรัฐมนตรีที่ยืนอยู่ตรงนี้ คำนึงถึงปัญหาพี่น้องประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดคือเสียงของพี่น้องประชาชน" นายเศรษฐา กล่าว.