'ปิยบุตร' เชื่อก้าวไกล เตรียมพร้อมปมยุบพรรค เตือน'สส.งูเห่า' คิดถึงอนาคต
"ปิยบุตร" เชื่อก้าวไกล เตรียมพร้อมทุกฉากทัศน์คดียุบพรรค หวังศาลรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสต่อสู้เต็มที่พร้อม เตือน"สส.งูเห่า" คิดตีจาก คิดถึงอนาคต
ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์การต่อสู้ยุบพรรคก้าวไกลซึ่งล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาครั้งต่อไปในวันที่17ก.ค.ว่า จากที่ได้ฟังนายนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญแถลง ท่านก็ยืนยันว่าการยุบพรรคจะเกิดขึ้นภายในเดือนก.ย. ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีเวลาอีกกว่า1เดือนที่จะรับฟังข้อมูลทั้ง2ฝ่ายทั้งพรรคก้าวไกล และฝั่งผู้ร้อง มีโอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่
คดีนี้เป็นคดีใหญ่มีการยุบพรรคที่ประชาชนเลือกมากว่า14ล้านเสียงแน่นอนว่า ประชาชาชนต้องจับตา การเปิดให้มีการไต่สวนหรือต่อสู้อย่างเต็มที่อย่างน้อยก็เป็นหลักประกันว่าศาลได้เปิดโอกาสอย่างเต็มที่แล้ว
นายปิยบุตร ยังกล่าวว่า ส่วนผลที่จะเกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกลเท่าที่ติดตามคิดว่าพรรคน่าจะเคยมีประสบการณ์ในกรณีการยุบพรรคอนาคตใหม่มาแล้ว ครั้งนี้คงสู้คดีเต็มที่ ในทางการเมืองไม่ว่าจะถูกยุบหรือไม่ถูกยุบเขาคงเตรียมพร้อมไว้อย่างเต็มที่
ขณะนี้เห็นว่าสมาชิกทุคนยังคงตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกรณีที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปรัฐบาลระบุว่าจะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมนี้
ส่วนการตั้งพรรคสำรองคิดว่าเป็นธรรมดา ที่ผ่านมาก็มีการยุบพรรคไปแล้วหลายพรรค แต่ละพรรคการเมืองก็คงต้องเตรียมตัวไว้ ส่วนตัวในฐานะที่เคยอยู่พรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบ แน่นอนว่าต้องสู้คดีอย่างเต็มที่ในทางกฎหมาย แต่ในทางการเมืองที่ต้องมีการตระเตรียมในอนาคต ก็คงเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวในการดึงตัวสส. เลขาธิการคณะก้าวหน้ากล่าวว่า คิดว่าบริบทการเมืองรอบนี้กับรอบที่แล้วต่างกัน รอบที่แล้วเสียงฝ่ายค้านและรัฐบาลก้ำกึ่งมาก การดึงสส.จึงมีความสำคัญ แต่รอบนี้เสียงทิ้งห่างกันฝ่ายรัฐบาลก็คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดึงสส.ของพรรคก้าวไกล
นายปิยบุตร ยังกล่าวว่า บริบทการเมืองขณะนี้ต่างกับปี2562 ตรงที่ขณะนี้กระแสของพรรคก้าวไกลขึ้นสูงมากสะท้อนจากผลโพลต่างๆ คาดว่าปลายปีนี้จะขึ้นสูงเกิน50%
ฉะนั้นสส.ที่คิดจะย้ายพรรคก็ต้องคิดให้ดีถ้าย้ายก็อาจจะสอบตกในการเลือกตั้งรอบหน้าได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่า ต่อให้ไม่สบายใจหรือมีใครมายื่นข้อเสนอต้องคิดถึงอนาคตเป็นสำคัญ
ส่วนประเด็นการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 อยู่ที่กรรมการบริหารพรรคที่ต้องรอดูว่าความจำเป็นของการแก้ไขยังมีอยู่หรือไม่ พิจารณาเทียบกับความแนวความคิดของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะทำอะไรได้บ้าง