'กก.ประชามติ' ชี้ 'ก้าวไกล' หวังแทรกแซงฝ่ายบริหาร ปมรื้อคำถามประชามติ
"นิกร" มอง "ก้าวไกล" ยื่นญัตติตั้งคำถามประชามติแก้รธน.ไร้เงื่อนไข ส่อแทรกแซงฝ่ายบริหาร หลัง "ครม." มีมติเห็นชอบ ตั้งคำถามถึงเจตนาที่แท้จริง
ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง กรรมการและโฆษกคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 กล่าวถึงกรณีที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยื่นญัตติด่วนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พิจารณาเห็นชอบต่อคำถามเพื่อนำไปออกเสียงประชามมติแก้รัฐธรรมนูญแบบไม่มีเงื่อนไข ว่า เป็นการแทรกแซงฝ่ายบริหาร อย่างไม่ทราบเจตนา ทั้งนี้ก่อนหน้านั้น พรรคก้าวไกล เคยยื่นญัตติขอให้สภาฯ ทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งในครั้งนั้นที่ประชุมลงมติไม่เห็นชอบด้วย 262 เสียง เห็นชอบด้วยเพียง 162 เสียง และงดออกเสียง 6 เสียง ทำให้ญัตติดังกล่าวจึงตกไป และการกลับมายื่นอีกครั้ง เพื่อให้มีผลเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีของฝ่ายบริหาร ไม่ทราบว่าวัตถุประสงค์ที่แท้จริงอะไร
"ก่อนเป็นข้อสรุปในการตั้งคำถามประชามติของรัฐบาล ได้รับฟังความเห็นของประชาชนทุกภาคส่วนโดยประมวลความเห็นส่วนใหญ่ได้ว่าสมควรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ ยกเว้นหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ที่ต้องคงไว้ตามเดิม สำหรับการตั้งเงื่อนไขนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองหรือที่ร้ายแรงกว่าคืออาจเกิดเป็นวิกฤตรัฐธรรมนูญ" นายนิกร กล่าว
นายนิกร กล่าวว่าการยื่นญัตติดังกล่าวถือว่าก้าวก่ายหน้าที่และอำนาจ ของฝ่ายบริหาร ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 มาตรา 9 และเป็นการยื่นที่ผิดเวลาเพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขพ.ร.บ.ประชามติ
"ผมเชื่อว่าประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติไม่เห็นชอบกับญัตติดังกล่าวเหมือนกับที่เคยมีมติในญัติทำนองเดียวกันนี้มาก่อนแล้ว"นายนิกร กล่าว