'นายกฯ' ตอบกระทู้สดฝ่ายค้าน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลั่นสู้แรงค้านไร้อนาคต
"เศรษฐา" มาแล้ว ตอบกระทู้สดของฝ่ายค้าน วางเป้า24ก.ค. แถลงชัดดิจิทัลวอลเล็ต ระบุมีหลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หวังสร้างปัจจุบันที่ดีกว่า พร้อมสู้แรงค้านที่ไร้อนาคต
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุมช่วงกระทู้ถามสด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ได้ตอบกระทู้ถามสดของพรรคฝ่ายค้าน เป็นครั้งแรก ซึ่งตั้งถามโดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ต่อกรณีโครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยนายเศรษฐา ชี้แจงยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะมีการแถลงความชัดเจน ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ส่วนการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เช่น ประเภทของสินค้า นั้นแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลได้ฟังความเห็นของประชาชน ผู้ประกอบการ และฝ่ายค้าน เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยปรับปรุงแต่งให้โดนใจประชาชนและถูกจุดประสงค์ที่มีเป้าหมายหลัก คือ กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ คือ งบกลาง จำนวน 4.3หมื่นล้านบาท โดยจะพยายามเตรียมงบให้เต็มที่ และพินิจพิเคราะห์อย่างดี เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ซื่อสัตย์ ตามกติกาของการใช้งบที่ถูกต้อง
"โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายหลัก ใช้เงินหมื่นบาท โดยใช้ให้จำกัดพื้นที่เพื่อให้เกิดการพัฒนากระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดที่มีการพัฒนาต่ำ เช่น จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดมหาสารคามเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค” นายเศรษฐา ชี้แจง
นายกฯ ชี้แจงด้วยว่าสำหรับการใช้งบกลางไม่ใช่กันไว้เพื่อโครงการดังกล่าวเท่านั้น แต่ใช้เพื่อบรรเทาความทุกข์ของประชาชนด้วย สำหรับประเด็นที่ตั้งถามถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้านอื่นๆ หรือไม่นั้น รัฐบาลมีมาตรการเพื่อพยุงเศรษฐกิจ เช่น การกระตุ้นการท่องเที่ยว ยกเว้นวีซ่า สร้างความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมถึงอุตสาหกรรมรถอีวี เป็นต้น
“โครงการนี้จะทำให้มีเงินใหม่เข้ามาในระบบ 4.7แสนล้านบาท หรือ 5 แสนล้านบาท การกระตุ้นคือ ให้ผู้ประกอบการผลิตสินค้ามารองรับการซื้อของประชาชนในระบบ เกิดการผลิต การจ้างงาน ประชาชนมีความหวัง นอกจากนั้นแล้วยังต้องแก้ไขปัญหาสังคมที่ผูกโยงกับปัญหาเศรษฐกิจ เช่น ปัญหายาเสพติด ซึ่งผมได้ลงพื้นที่ และพูดคุยกับ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ทั้งนี้กอ.รมน. ไม่เห็นด้วยให้ยุบ เพราะ กอ.รมน. ยังมีบทบาทในมิติความมั่นคง รวมถึงการดูแลประชาชน ดูแลชายแดน” นายกฯ ชี้แจง
นายเศรฐา ชี้แจงต่อคำถามเกี่ยวกับมาตรการช่วยค่าครองชีพของประชาชน ว่า ทางแก้ทางหนึ่งคือ ความร่วมมือด้านความมั่นคงพลังงาน แหล่งพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลบริเวณไหล่ทวีประหว่างไทยและกัมพูชา หรือ โอซีเอ ซึ่งรรัฐบาลประกาศจะแก้ไข เท่าที่ฟังตัวเลขจากการประเมินในพื้นที่ทับซ้อนกัมพูชา ถึง 20 ล้านล้านบาท ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างทางพลังงาน ให้มีใช้ในประเทศไม่ต้องนำเข้า
ทั้งนี้ น.ส.ศิริกัญญา ตั้งคำถามด้วยว่า สิ่งที่นายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามที่ถาม ยืนยันว่าไม่มีมาตรการพยุงค่าครองชีพประชาชนระยะสั้นเฉพาะหน้า ไม่มีการแก้ปัญหาโรงงานปิดกิจการและเอสเอ็มดีล้ม วินิจฉัยโรคถูก แต่ทางออกมืดแปดด้านไม่มีรูปธรรม ไม่ต้องรอดิจิทัลวอลเล็ตหรือรอนักลงทุนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างไร หากงบประมาณไม่พอใช้ช่วยเหลือเยียวยา ค่าครองชีพ ก่อนรอถึงปลายปีนี้67 ตนมีข้อเสนอให้รัฐบาลสร้างแรงจูงใจท้องถิ่นนำเงินสะสมท้องถิ่น 2หมื่นล้านบาท ใช้เพื่อลงทุนขนาดเล็ก เกิดการจ้างงานในพื้นที่ชนบท ที่ผ่านมานายกฯ เน้นการช่วยเหลือกลุ่มทุน มีมาตรการช่วยเหลือเน้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และล่าสุดที่นายกฯ ให้ศึกษาเกี่ยวกับประเด็นทรัพย์อิงสิทธิ์ ให้ต่างชาติ 99 ปี ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นมากกว่าประชาชน
ทำให้นายเศรษฐา ชี้แจงยืนยันว่ารัฐบาลได้ดำเนินการมาตรการช่วยเหลือ ในกรณีของการศึกษาการให้ต่างชาติเช่าอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลา 99 ปี มีการเสนอให้ศึกษาเรื่องดังกล่าว เพราะมีฝ่ายต่างประเทศเรียกร้อง ให้ปรับจากจาก 30 ปีเป็น 99 ปี ดังนั้นต้องศึกษาว่าเหมาะสมหรือไม่ หากทำแล้ว จะส่งผลระยะยาวต่อเศรษฐกิจไทย การลงทุนระหว่างประเทศสูงขึ้นหรือไม่
“ไม่ใช่เรื่องขายชาติ แต่ต้องศึกษาและทำให้ซื่อสัตย์ ปลอดจากผลประโยชน์ทับซ้อน รัฐบาลภายใต้การนำของผมวิ่งสู้เพื่ออนาคตและทุกพรรคร่วมวิ่งสู้ต่อไปปัจจุบันที่ดีกว่า สู้กับแรงค้านที่ไร้อนาคต” นายเศรษฐา ชี้แจง.