'บิ๊กทิน'ไม่ยอมตายเดี่ยว เข็น ‘เรือดำน้ำ-เครื่องบินรบ’ เข้าวิน
ไฮไลต์ต้องจับตา การแถลงข่าวคัดเลือกเครื่องบินรบฝูงใหม่ของ ทอ.ที่ว่ากันว่า ฝ่ายการเมืองมีข้อสรุปแล้ว ส่วน ทร.ปัญหาเรือดำน้ำ ที่เหมือนจะจบ แต่ก็ยังไม่ลงตัวเสียที
KEY
POINTS
- การจัดซื้อเรือดำน้ำ เกิดในยุครัฐบาล คสช. เข้าตำรา เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ
- โจทย์ใหญ่ของนายกฯพิจารณา เลือกเครื่องบินรบฝูงใหม่ ระหว่าง F-16 Block 70/72 สหรัฐอเมริกา และ Gripen E/F สวีเดน
- ผบ.ทอ.ยอมรับGripen สวีเดน มีคะแนนนำ F-16 ชองสหรัฐ
ผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ของกระทรวงกลาโหม จำนวน 200,293 ล้านบาท วาระแรก
คงต้องตามกันต่อในวาระ 2 และวาระ 3 ว่าปีนี้ "กลาโหม" จะเป็นกระทรวงที่ถูกปรับลดงบประมาณลงจากวาระแรกมากที่สุด ซ้ำรอยปีที่แล้วหรือไม่ โดยเฉพาะการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ 3 เหล่าทัพ โครงการใดเข้าวิน หรือถูกตีตก
สำหรับ“กองทัพอากาศ” โครงการใหญ่ มีเพียงจัดซื้อเครื่องบินรบฝูงใหม่ วงเงิน 19,500 ล้านบาท ทดแทนเครื่องบินเอฟ 16 ที่ทยอยปลดประจำการในปี 2571 ถึง 2575 จำนวน 3 ฝูงบิน คือ F-16 กองบิน 1 กองบิน 31 และ กองบิน 23 ด้วยสภาพเศรษฐกิจ และข้อจำกัดด้านงบประมาณ จึงจัดหาได้เพียง 1 ฝูง
โดย กองทัพอากาศพิจารณาจากเครื่องบิน 20 แบบ จนได้ F-16 Block 70/72 สหรัฐอเมริกา และ Gripen E/F สวีเดน โดยมีเกณฑ์ชี้วัดคือ กองทัพอากาศจะได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยี เช่น การให้ฐานข้อมูลทางปัญญา เพื่อจะนำมาพัฒนาต่อยอดในระบบต่างๆ นับเป็นหัวใจสำคัญและมีมูลค่าสูง ตลอดจนสามารถปฏิบัติภารกิจร่วมกับเหล่าทัพได้ และการค้าต่างตอบแทน
ล่าสุด พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. ได้ยอมรับว่า ได้นำข้อมูลเครื่องบินรบทั้ง 2 แบบส่งให้ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นำเสนอ เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ พิจารณา โดย Gripen E/F สวีเดน มีคะแนนนำ F-16 Block 70/72 สหรัฐฯ
นับเป็นโจทย์ใหญ่ของนายกฯ ต้องตัดสินใจ เพราะต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านี้ทูตสหรัฐฯ ส่งหนังสือเสนอขาย F-16 Block 70/72 สหรัฐ ให้รัฐบาลไทย พร้อมโปรโมชั่นให้กู้เงิน ดอกเบี้ย 4-5% ดอลลาร์จนจบโครงการ
คาดการณ์กันว่า เครื่องบินรบฝูงใหม่ของกองทัพอากาศไม่น่าจะมีปัญหา หลังนายกฯพิจารณาเรียบร้อย ทอ.จะจัดแถลงข่าวครั้งใหญ่ ชี้แจงเหตุผล จำแนกเครื่องบินรบทั้ง 2 แบบว่ามีจุดดี จุดเด่นอย่างไรเพื่อให้สังคมรับทราบข้อมูล เพราะเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณสูง
นอกจากนั้น ยังมีการจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศร่วม 1 ระบบ พร้อมอะไหล่การฝึกอบรม จัดหาเครื่องแอนตี้โดรน จัดหาเรดาร์ตรวจอากาศ 1 ระบบ จัดหาเครื่องบินฝึก นักบินขับไล่ขั้นต้น T-50 ปรับระบบการฝึกสำรองอะไหล่ และ
โครงการก่อสร้างอาคารใหม่ โรงพยาบาลจันทรุเบกษา โรงเรียนการบิน
ส่วน"กองทัพเรือ"ไม่มีโครงการใหญ่ แม้ในระหว่างการชี้แจงงบฯ 2568 "สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ" สส.ก้าวไกล บ่นเสียดายว่าไม่มีรายการจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ที่เตรียมผลักดันเต็มที่ หลังถูกตีตกในชั้นอนุกรรมธิการในงบฯ 2567 โดยส่วนใหญ่เป็น สส.พรรคเพื่อไทยโหวตคว่ำ
รอบนี้ ทร.มีเพียงการจัดหาเครื่องบินลำเลียง การจัดหาเรือน้ำมัน การจัดหาเรดาร์ตรวจการทางอากาศ การจัดหาระบบควบคุมเครื่องจักร และระบบจัดการแบบรวมการของเรือหลวงจักรีนฤเบศร การเสริมอาวุธยุทโธปกรณ์เรือหลวงช้าง
แต่ที่ยังต้องลุ้นคือ"เรือดำน้ำ" จะนำเข้าวาระครม.เพื่อขออนุมัติ แก้ไขข้อตกลง 2 ประเด็น คือ 1.กองทัพเรือขอแก้ไขข้อตกลง ปัญหา โดยการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ดีเซล ขับเคลื่อนกำเนิดไฟฟ้า จากรุ่น MTU 396 เป็นเครื่องยนต์เรือดำน้ำจีน CHD620
2.ขอขยายระยะเวลาการส่งมอบเรือดำน้ำตามโครงการออกไป เป็น 1,217 วัน และหากมีการเปลี่ยนแปลงอะไรต่างๆหลังจากนี้ ขอให้มอบอำนาจกองทัพเรือสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ และมอบอำนาจให้ผู้บัญชาการทหารเรือลงนามในการแก้ไขข้อตกลง
ปัจจุบัน "เศรษฐา-สุทิน" กำลังเล่นเกม ชักเย่อกันอยู่ สุทินไม่ยอมลงนาม รอให้ นายกฯนำเข้า ครม.รับทราบและอนุมัติก่อนจรดปากกา ส่วนนายกฯ รอให้สุทิน ลงนามก่อนนำเข้าครม.
เพราะโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ เกิดในยุครัฐบาล คสช. เข้าตำรา เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ หากจะเดินหน้า "สุทิน" ไม่ยอมตายเดี่ยว หากในอนาคต มีปัญหาจากการเปลี่ยนเครื่องยนต์ จนนำไปสู่การฟ้องร้อง ก็ควรรับผิดชอบร่วมกันทั้ง ครม.
ในขณะที่ พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผบ.ทร.กำลังนับถอยหลัง เตรียมเกษียณอายุราชการอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ คาดหวังให้เรือดำน้ำจบโดยเร็วที่สุด
สำหรับ“กองทัพบก”ไม่มีอะไรหวือหวา มีโครงการใหม่ เช่น จัดหายานเกราะล้อยาง VN-1 เพิ่มเติม การจัดหาอากาศยานไร้นักบิน หรือโดรน สำหรับลาดตระเวนหาข่าว โครงการจัดหาระบบต่อต้านอากาศยานไร้นักบินหรือ Anti Drone
ดังนั้นไฮไลต์ต้องจับตา การแถลงข่าวคัดเลือกเครื่องบินรบฝูงใหม่ของ ทอ.ที่ว่ากันว่า ฝ่ายการเมืองมีข้อสรุปแล้ว ส่วน ทร.ปัญหาเรือดำน้ำ ที่เหมือนจะจบ แต่ก็ยังไม่ลงตัวเสียที