หนังคนละม้วน! ป.ป.ช.ปัดฟัน 'มงคลกิตติ์' ลาสภาฯไปดู 4 Kings ชี้ไม่ร้ายแรง
หนังคนละม้วน! ป.ป.ช.เผยไม่ได้ชี้มูล 'เต้ มงคลกิตติ์' ปมลาสภาฯไปดูหนัง '4 Kings' แม้จะมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม กระเทือนภาพลักษณ์ สส. แต่ถือว่าไม่ร้ายแรง
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กรณีลาประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปชมภาพยนตร์เรื่อง "4 KINGS อาชีวะ ยุค 90" เมื่อปี 2564 นั้น
สำนักงาน ป.ป.ช. ขอชี้แจงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส.พรรคไทยศรีวิไลย์ ทำแบบแจ้งลาการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 15 ธันวาคม 2564 โดยระบุเหตุว่าเนื่องจากภารกิจกับประชาชน (พานักศึกษาไปดูภาพยนตร์เรื่อง 4 KINGS) และได้นำรูปภาพแบบแจ้งลาการประชุมดังกล่าวไปโพสต์เผยแพร่ต่อประชาชนแล้ว
คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า การลาประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปชมภาพยนตร์เรื่อง "4 KINGS อาชีวะ ยุค 90" นั้น นายมงคลกิตติ์ได้ยื่นหนังสือลาตามระเบียบสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยการลงชื่อมาประชุมและการลาการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 แล้ว ซึ่งถือเป็นเหตุจำเป็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่อาจก้าวล่วงได้
แต่พฤติการณ์การออกจากที่ประชุมสภา และโพสต์พฤติการณ์การกระทำดังกล่าวเผยแพร่ในขณะที่มีการประชุมสภา เป็นการกระทำที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ และกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือความศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ในการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 17 และตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ข้อ 10
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาพฤติการณ์ดังกล่าวประกอบเจตนาและความเสียหายแล้วเห็นว่ามีลักษณะไม่ร้ายแรง จึงมีมติว่า ไม่เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ประกอบกับปัจจุบันนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อดำเนินการตามหน้าที่ตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ต่อไป จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน