'สภาเอกฉันท์' รับหลักการ คืนดาบ 'กมธ.' มีอำนาจเรียก รมต.-ขรก.แจง

'สภาเอกฉันท์' รับหลักการ คืนดาบ 'กมธ.' มีอำนาจเรียก รมต.-ขรก.แจง

"สภา" ลงมติรับหลักการ421เสียง ฟื้น กม.คำสั่งเรียกของกมธ. หวังคืนอำนาจ "กมธ." ให้เรียก รมต.-ข้าราชการ-เอกสาร แจงต่อกมธ. หลังถูกริบตามคำวินิจฉัยศาลรธน.ปี63

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุมได้พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) อำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.... ซึ่งเสนอโดย นายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และ ร่างพ.ร.บ.ที่มีเนื้อหาในทำนองเดียวกันอีก 2 ฉบับ ซึ่งเสนอโดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ น.ส.ทิสรัตน์ เลาหพล สส.กทม. พรรคก้าวไกล

ทั้งนี้ในการอภิปรายของ สส. ทั้งในส่วนของพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย มีความเห็นไปในทางเดียวกัน คือ สนับสนุนให้รับหลักการของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว โดยมีสาระเพื่อต้องการคืนอำนาจให้กับ กรรมาธิการ ในการทำงานตรวจสอบประเด็นความไม่โปร่งใสที่เกิดจากการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งจากฝ่ายบริหาร รัฐมนตรี และข้าราชการ หลังจากที่อำนาจเรียกบุคคลหรือเอกสารมาตรวจสอบในกมธ.จากข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐตามอำนาจที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 ไม่สามารถนำมาใช้ได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 17/2563 เมื่อ 7 ต.ค.2563 ว่ามีความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2560

เนื่องจากกำหนดบทลงโทษทางอาญานั้นถือเป็นบทบัญญัติที่ขัดกับมาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญ จึงทำให้เป็นปัญหาต่อการทำงาน เพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ที่กรรมาธิการเชิญให้มาประชุมหรือชี้แจงรายละเอียด

และหลังจากการอภิปรายแล้วเสร็จที่ประชุมได้ลงมติรวมกันในคราวเดียว โดยมีมติเอกฉันท์ 421 เสียง รับหลักการของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว และได้ตั้งกมธ. 31 คนพิจารณาเนื้อหา