‘ภูมิธรรม’ ชี้สังคมต้องเปลี่ยนมายด์เซตปราบโกง รัฐบาลไม่เมินปัญหาทุจริต
‘ภูมิธรรม’ ชี้ปราบทุจริตในสังคมไทยได้ ต้องเปลี่ยน ‘มายด์เซต’ ทุกภาคส่วน กาง 4 ข้อแก้ไข โลกเปลี่ยนโกงซับซ้อน-ต้องสร้างจิตสำนึก-เท่าทันเครื่องมือต่าง ๆ-ดึง ปชช.มีส่วนร่วม ลั่นรัฐบาลนี้ไม่เมินเฉยต่อการคอร์รัปชัน
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) รุ่นที่ 15 จัดกิจกรรมสัมมนาสาธารณะหัวข้อ “นวัตกรรมในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนไทยไม่โกง ในยุค Digital Disruption” โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า จากดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ “CPI” ภาพลักษณ์ไทยยังตกต่ำ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เราอยู่อันดับ 108 จาก 180 ประเทศ เป็นคะแนนที่ต่ำกว่าเป้าหมายค่อนข้างมาก
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในสังคมไทย เรารู้ เราอยากแก้ แต่ยังแก้ไม่ได้ เป็นปัญหาสะสมในสังคมไทยมายาวนาน เราคงไม่ปฏิเสธว่าเป็นปัญหาที่สำคัญ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของประเทศในด้านต่าง ๆ ค่อนข้างมาก รัฐบาลมีนโยบายในการให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน โดยเฉพาะยุคดิจิทัล ดิสรัปชั่น ในโลกยุคใหม่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เทคโนโลยีมากมาย เห็นการทุจริตสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีมีทั้งคุณและโทษ บางครั้งถูกนำไปใช้ ทำให้แก้ปัญหาได้ยากขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญขณะนี้คือการแก้ไขการคอร์รัปชัน ต้องดูหลายเรื่องให้สัมพันธ์กัน ต้องค้นคว้าอย่างจริงจังว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับอะไร ต้นตอการแก้ไขปัญหาทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจ และหาช่องทางแก้ไขให้มากขึ้น
“การทุจริตคอร์รัปชันขณะนี้ เราจะต้องใช้กลไก กระบวนการ และวิธีการต่าง ๆ ในการแก้ไข คิดว่าหัวใจสำคัญที่เราควรต้องทำให้เกิดในสังคมไทยคือเรื่องมายด์เซต ในการที่ประชาชนผู้มีโอกาสบริหารราชการแผ่นดิน ต้องเข้าใจ ข้าราชการระดับสูงต้องเข้าใจ ประชาชนในประเทศต้องเข้าใจ รวมถึงเอกชน ทุกภาคส่วนต้องเข้าใจ” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ถ้าเราไม่สามารถเปลี่ยนมายด์เซตของข้าราชการ ผู้บริหารระดับสูงในราชการและเอกชน คิดว่าเรื่องนี้แก้ไขยาก ถ้ายังมีมายด์เซตไม่คำนึงถึงการไม่รักษาผลประโยชน์ชาติ ไม่รู้สึกถึงความรู้สึกด้านจริยธรรม จนเกิดปัญหาซ้ำซากยาวนานในการแก้ปัญหานี้ให้ลุล่วง ทำให้ปัญหานี้ติดลึกในสังคมไทย และอันตรายมาก สิ่งจำเป็นคือต้องสร้างสำนึกให้เกิดขึ้นให้ได้ จริง ๆ ป.ป.ช.พยายามทำหลายเรื่อง แต่ทางแก้ไขปัญหาลุล่วงไปบ้าง ดีขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้คลี่คลายจนเราสบายใจ การสร้างสำนึก การสร้างความตั้งใจ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหามีความสำคัญ อยู่กับฝ่ายนโยบายได้ อยู่กับฝ่ายปฏิบัติได้ จะสำเร็จได้
“วันนี้ไม่ใช่แค่การสร้างสำนึกอย่างเดียว การเรียนรู้เท่าทันสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นปัญหา คิดว่าเราไม่อาจแก้ไขอะไรได้ด้วยความรู้สึก หรือความต้องการอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือต้องเรียนรู้ หาองค์ความรู้มาแก้ไขปัญหาตรงนี้ อยากให้ทุกคนรับรู้ว่า โลกเปลี่ยนแปลงไป เราต้องใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ของโลกในการแก้ไขจุดนี้ด้วย” นายภูมิธรรม กล่าว
รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ประเด็นต่าง ๆ สำคัญคือ 1.โลกเปลี่ยนแปลง การทุจริตซับซ้อนขึ้น ต้องเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป 2.การแก้ ต้องใช้มายด์เซตที่เข้าใจ นึกถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก สร้างจิตสำนึกให้เกิดขึ้น 3.การเท่าทัน ใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่ทันสมัยมาใช้ในกิจการต่าง ๆ และ 4.ดึงการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน
“การมีส่วนร่วมสำคัญ หน่วยราชการในประสบการณ์ของผม ผมเป็นกรรมการหลายอย่าง แต่การบูรณาการของหน่วยราชการ รวมถึงเอกชนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เรามาชนกัน ไม่ได้บูรณาการ ต่างฝ่ายต่างพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด หรืออยากทำ จัดสรรงบประมาณบูรณาการมา ต่างฝ่ายต่างพูดถึงในมุมตัวเอง อย่างนี้มันไม่ใช่ บูรณาการคือการคิดตรงกัน มองเป้าหมายตรงกันทั้งระยะสั้น และระยะยาว มีความเข้าใจว่าทุกอย่างทำงานมีผลกระทบ ต้องทำงานร่วมกัน เป็นพลังเข้มแข็งขึ้น ทำงานได้มากขึ้น การบูรณาการถ้าทำไม่ได้ การแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนเกิดขึ้นยาก” รองนายกฯ กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า เวลานี้เราใช้การมีส่วนร่วมของประชาชนมาเกี่ยว ได้ความเข้าใจ หรือได้การพัฒนาอีกระดับ แต่อยากให้ใช้กลไกในสังคมไทยให้มากขึ้นกว่านี้ ยกตัวอย่างหลายสิบปีก่อน สังคมไทยจะเห็นว่ามีกระดาษ มีก้นบุหรี่ เต็มไปหมดตามถนน บางคนสมัยก่อนสูบบุหรี่ ดีดทิ้งพื้น แต่วันนี้สังคมไทยดีขึ้น ชื่นชมการใช้เด็กมาทำให้บ้านเมืองสะอาด ยกตัวอย่าง กรณี “ตาวิเศษเห็นนะ” อันนี้เห็นผลมาก เป็นการแก้ไขระยะยาว ทำให้วันนี้แทบไม่เห็นแล้วการสูบบุหรี่ แล้วทิ้งพื้น ส่วนใหญ่จะไปเก็บในที่ถูกต้องถูกทาง เวลานี้โลกเปลี่ยนแปลงไป มีเครื่องมือต่าง ๆ มากมาย ส่งได้ทันที ถึงแต่ละกลุ่มเป้าหมาย การคิดค้นการหาตัวที่จะเป็นผู้เสนอความคิด การหาเครื่องมือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ป.ป.ช.ทำมาพอสมควร แต่คิดว่าต้องทำอีก และทำให้มากขึ้น
“แนวทางการพัฒนานวัตกรรมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนไทยไม่โกงในยุคดิจิทัล ดิสรัปชั่น พวกท่านทั้งหลายที่รวบรวม อบรม และเสนอวันนี้ จะเป็นทางเลือก ให้ความมั่นใจกับทุกท่านว่า เป็นทางเลือกเชิงนโยบายที่สำคัญ รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐจะไปประยุกต์ใช้กับสังคมไทย ให้ซื่อสัตย์สุจริต ไม่เมินเฉยทุจริต อันเป็นการป้องกันการทุจริตในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายภูมิธรรม กล่าว