'ปธ.วิปรัฐบาล' บอก14ส.ค. ได้โหวตเลือกรองปธ.สภา แบะท่าต้องดูสัดส่วนสส.
"วิสุทธิ์" บอกให้ กก.บห.พรรคร่วมรัฐบาล เจรจา โควตารองปธ.สภาฯคนที่หนึ่ง มั่นใจ14ส.ค. โหวตได้ แบะท่าต้องดูสัดส่วน สส.
ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ว่า วันนี้ยังไม่กล้าตอบว่าพรรคใดจะมาเป็น แต่ในวันที่ 14 ส.ค. นี้จะได้เลือกและมีรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งแน่นอน ดังนั้นขอให้อดใจรอ ส่วนการเจรจาและพูดคุยนั้นให้เป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาล โดยมารยาทต้องมีการเจรจากันทุกพรรค ขณะที่ตำแหน่งกรรมาธิการที่อาจต้องปรับเปลี่ยนนั้นต้องพิจารณาตามสัดส่วนของพรรคและตามข้อบังคับสภาฯ
เมื่อถามว่าตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ต้องเป็นโควตาของพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่าวันนี้คงไม่ใช่เรื่องโควตาอย่างเดียว แต่ต้องมีองค์ประกอบทางการเมืองหลายอย่างทั้งสัดส่วนของ สส. แต่ละพรรค ย้ำว่าขอให้รอสัปดาห์หน้า เราจะได้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 คนใหม่ ที่อาจจะมีการเลือกตั้งแน่นอน
ถามต่อว่าต้องเป็นของรัฐบาลใช้หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้องเป็นฝ่ายรัฐบาล 100% เพราะเมื่อก่อนที่เลือกเช่นนั้นเพราะเหมือนอดีตพรรคก้าวไกลจะมาร่วมรัฐบาล แต่ขณะนี้เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องเป็นสัดส่วนของรัฐบาลที่จะต้องพูดคุยกัน
เมื่อถามย้ำว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคภูมิใจไทย จะแบ่งโควตาให้พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เป็นไปได้ทั้งหมด ให้เขาได้คุยกันก่อนจะได้ข้อสรุป แต่มั่นใจว่าไม่มีปัญหาในการที่พรรคร่วมรัฐบาลจะปรึกษาหารือกันเพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมขึ้นมาทำหน้าที่
เมื่อถามว่า ในมุมมองส่วนตัว มองว่ารองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้องเป็นการทางการเมือง แม่นข้อบังคับ ควบคุมการประชุมสภาฯ ให้เป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย ซึ่งสส.ของแต่ละพรรคมีคุณสมบัติพร้อม หลายคนอยู่สภาฯ มานาน ไม่กังวลเพราะคนที่ขึ้นมาทำหน้าที่ต้องทำตามข้อบังคับ
เมื่อถามว่า มีชื่อของนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยปรากฎออกมานั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า "นายภราดรก็เหมาะสม อยู่ในสภาฯ มาหลายสมัย และคุณพ่อเคยอยู่ในตำแหน่งนี้มาก่อน แต่วันนี้ตนยังไม่กล้าฟันธงว่าจะเป็นใคร"
เมื่อถามว่า กลัวคำครหาหรือไม่หากตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารมาจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด จะไม่สามารถตรวจสอบถ่วงดุลอะไรได้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ประธานและรองประธานมีหน้าที่ควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับ มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในสภาฯ เท่านั้น ไม่มีหน้าที่ไปวินิจฉัยเรื่องอื่นนอกจากวินิจฉัยเรื่องข้อบังคับฉะนั้น ตำแหน่งนี้ไม่ใช่เรื่องการตรวจสอบถ่วงดุลอะไร เพราะการตรวจสอบเป็นหน้าที่ของ สส.ทุกคนที่นั่งอยู่ด้านล่าง และเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า แสดงว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมาจากพรรคเพื่อไทย เหมือนยุคของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า "สัดส่วนตอนนั้นเราเป็นเสียงส่วนใหญ่ในการตั้งรัฐบาล แต่วันนี้ยังบอกไม่ได้ ขอให้ใจเย็นๆ วันพุธหน้าทราบผลแน่นอน".