'สรวงศ์' มั่นใจรัฐบาลไร้สุญญกาศ 'แพทองธาร-ชัยเกษม' พร้อมนั่งนายกฯ จ่อถกพรรคร่วม

ที่รัฐสภานายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ5ต่อ4เสียงวินิจฉัยให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งกรณีแต่างตั้งนายพิชิต ชื่นบาน อดีตรมต.สำนักนายกรัฐมนตรีว่า พรรคมีแคนดิเดตนายกฯเหลืออีก2คนคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ  เบื้องต้นต้องขอไปดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยละเอียดก่อน ซึ่งหากศาลวินิจฉัยว่านายเศรษฐาไม่สามารถกลับมาเป็นแคนดิเดตนายกได้อีกการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกของพรรคก็มีความเป็นไปได้ทั้งสองคน

นอกจากนี้ยังมีพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ก็คงจะต้องมีการหารือกัน เพื่อเสนอรายชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป

เมื่อถามว่าถึงอย่างไรจะต้องเป็นคนของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ขอคุยกับพรรคร่วมด้วยทั้งอยากจะขอดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างละเอียดอีกครั้ง
 

ถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยจะต้องยืนยันในหลักการคือการเสนอคนของตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องยืนยันอย่างนั้น แต่อย่างที่เรียนให้ทราบคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือแคนดิเดตของพรรคที่เหลืออยู่สองคนก็พร้อมที่จะดำรงตำแหน่ง ทั้งนี้แคนดิเดตนายกของพรรคทั้งสองคนจะเป็นใครนั้นขอให้มีการประชุมพรรคก่อนเรื่องนี้กรรมการบริหารพรรคต้องมีการเรียกประชุมด่วนในเรื่องนี้

นายสรวงศ์ ย้ำว่า ต้องขอรอดูคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่จะออกมาก่อนพร้อมฝากผ่านไปไปยังสื่อมวลชนให้กำลังใจนายกรัฐมนตรียืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะทำงานอย่างเต็มที่ไม่ใช่ครั้งแรกไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักไทยเกิดกรณีเช่นนี้ขอยืนหยัดที่จะต่อสู้เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชนต่อไป 

ทั้งนี้ผลคำวินิจฉัยที่ออกมา จริงๆเรามั่นใจในตัวท่านนายกเรามั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของนายกอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกรณีที่เกิดขึ้นก็ได้ผ่านไปแล้ววันนี้ขอปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองต่อไป

เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไรภายในพรรคร่วมรัฐบาลหลังจากนี้คงมีการเชิญเข้ามาพูดคุยกันถึงทิศทางต่อไปยังยืนยันที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน โดยการทำหน้าที่ฝ่าย นิติบัญญัติอย่างมั่นคงในการทำหน้าที่ในสภาตราบใดที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมาพวกเรายินดีที่จะน้อมรับในการดำเนินการต่อไป

ย้ำว่าไม่ต้องมีสัญญาใจอะไรขอให้เวลาผ่านไปนิดหนึ่งแล้วควรมีการพูดคุยกัน

ขณะเดียวกันนายสรวงศ์ ยังยืนยันว่าโครงการวอลเล็ต 10,000 บาทที่เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย จะยังคงเดินหน้าต่อไป  ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยหารือประสานกับพรรคร่วมรัฐบาล และคิดว่าการทำงานร่วมกันก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่น่าจะมีการเชิญพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาพูดคุยกันถึงทิศทางต่อไป 

เมื่อถามถึงกรณีการเสนอชื่อรองประธานสภาคนที่หนึ่งหลังจากที่พรรคภูมิใจไทยมีมติเตรียมเสนอชื่อนายภราดร ปริศนานันทกุลกุล ส.ส. อ่างทองและรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายสรวงศ์ กล่าวว่า เชื่อว่าคงไม่ไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากพรรคภูมิใจไทยได้มีมติเสนอชื่อไปแล้วคิดว่าไม่น่าจะกระทบกระบวนการหลังจากนี้