ทรัพย์สิน 'เศรษฐา' พ้น รมว.คลัง 1,080 ล้าน หนี้หาย 10 ล้าน

ทรัพย์สิน 'เศรษฐา' พ้น รมว.คลัง 1,080 ล้าน หนี้หาย 10 ล้าน

โชว์ทรัพย์สิน 'เศรษฐา' หลังพ้นเก้าอี้ รมว.คลัง ยังรวย 1,080 ล้านบาท รายได้ 23 ล้านบาท ลดลงจากวันเข้ารับตำแหน่งปี 66 แค่ 1.7 ล้านบาท แต่หนี้หาย 10 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณี นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่ง รมว.คลัง เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2567 

โดยนายเศรษฐา และนางพักตร์พิไล ทวีสิน คู่สมรม แจ้งมีทรัพย์สินรวม 1,018,719,225 บาท มีหนี้สิน 71,887 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี 

แบ่งเป็นของนายเศรษฐา 659,205,182 บาท มีเงินสด 1 ล้านบาท เงินฝาก 47 บัญชี 133,543,486 บาท เงินลงทุน 1,424,761 บาท ที่ดินในเขตคลองเตย และพระโขนง กรุงเทพฯ 158,400,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นห้องชุดที่ ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และบ้าน 3 ชั้น ที่คลองเตย กรุงเทพฯ รวม 156,423,120 บาท ยานพาหนะ เป็นรถยนต์ยี่ห้อ Aston Martin รุ่น DB5 มูลค่า 50 ล้าน สิทธิและสัมปทาน 22,673,114 บาท และทรัพย์สินอื่นรวมมูลค่า 135,740,700 บาท ได้แก่ นาฬิกา 38 เรือน มูลค่า 127,953,100 บาท พระเครื่อง-ตระกุด 6 องค์ มูลค่า 1,622,600 บาท , สร้อยคอทองคำ 1 เส้น มูลค่า 165,000 บาท หีบหลุยส์ วิตตองxสุพรีม 1 ใบ มูลค่า 6 ล้านบาท

มีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 23,358,016 บาท เป็นเงินเดือนและโบนัส 1,507,080 บาท เงินบำนาญชราภาพ 49,848 บาท ดอกเบี้ย 450,849 บาท ผลตอบแทนถือครองโทเคนดิจิทัล 139 บาท บุตรให้รายปี 20 ล้านบาท เงินคืนค่าธรรมเนียมศาล 650,100 บาท เงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต 700,000 บาท มีรายจ่ายต่อปี 15,553,679 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 7,290,000 บาท ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 1,635,000 บาท ภาษีที่ดิน 4,679 บาท เงินบริจาค 1,624,000 บาท ค่าอุปการะมารดา 5,000,000 บาท

ส่วนนางพักตร์พิไล มีทรัพย์สิน รวม 359,514,043 บาท เป็นเงินสด 1,800,000 บาท เงินฝาก 41,171,313 บาท เงินลงทุน 55,425,723 บาท ยานพาหนะ 2,050,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 748,107 บาท และทรัพย์สินอื่น 258,318,900 บาท ได้แก่ นาฬิกา 32 เรือน มูลค่า 86,932,900 บาท กระเป๋า 48 ใบ มูลค่า 37,010,500 บาท พระเครื่อง 2 องค์ ประเมินมูลค่าไม่ได้ มีเสื้อผ้า 5 ชุด มูลค่า 2,820,000 บาท เข็มกลัดมุก 3 อัน มูลค่า 1 แสนบาท สร้อยเพชร ไข่มุก กำไลตะปูฝังเพชร 31 ชุด มูลค่า 52,317,000 บาท ต่างหูเพชร ทับทิม มรกต ไข่มุก ต่างหูหนีบ 58 ชุด มูลค่า 31,865,600 บาท แหวนเพชร ไพลิน ทับทิม มรกต 37 ชุด มูลค่า 46,872,900 บาท และจี้ทองฝังพลอย จี้เพชร 2 ชุด มูลค่า 235,000 บาท

มีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 24,707,591 บาท เป็นเงินบำนาญชราภาพ 52,200 บาท เบี้ยประชุมและค่าวิทยากร 528,716 บาท เงินได้จากวิชาชีพอิสระ (แพทย์) 2,201,126 บาท ดอกเบี้ย 711,561 บาท เงินปันผลกองทุนรวม 16,527 บาท เงินได้จากการขายรถ Tesla รุ่น Model Y Standard 1,000,000 บาท เงินรายจ่ายที่บุตรอุปการะจ่ายให้ 20,000,000 บาท เงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต 170,400 บาท เงินปันผลกรมธรรม์ประกันชีวิต 27,060 บาท และมีรายจ่ายต่อปี 20,200,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 7,000,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 13,000,000 บาท เงินบริจาค 300,000 บาท 

สำหรับการเปิดบัญชีทรัพย์สินของนายเศรษฐา กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2566 และมีการยื่นทรัพย์สินพิ่มเติมเป็นโทเคนดิจิทัล ขณะนั้นมีนายเศรษฐาและคู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 1,020,468,727 บาท มีหนี้สิน 10,182,549 บาท ถือว่ามีทรัพย์สินลดลง 1,749,502 บาท และหนี้สินลดลง 10,110,662 บาท