เบื้องหลังปชป.โหวตนายกฯ 'ชวน' แฉดีลล่วงหน้า'ร่วมรัฐบาล' คาใจกปปส.นั่งรมต.

เบื้องหลังปชป.โหวตนายกฯ 'ชวน' แฉดีลล่วงหน้า'ร่วมรัฐบาล' คาใจกปปส.นั่งรมต.

เปิดเบื้องหลังพรรคประชาธิปัตย์ โหวต"แพทองธาร" -"ชวน" แฉดีลล่วงหน้า"ร่วมรัฐบาล" คาใจโผครม.กปปส.นั่งรัฐมนตรี

ท่ามกลางการจับตาไปที่การเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ทว่ามีความเห็นมาจากอีกหนึ่ง "ขั้วสีฟ้า" ที่ยืนยันจุดยืนคัดค้านพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล 

เช่นนี้ต้องจับตา พรรคประชาธิปัตย์เวลานี้ไม่ต่างอะไรกับสภาวะ “ปลาสองน้ำ” ตัวอย่างมีให้เห็นในมาแล้วในยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคประชาธิปัตย์มีมติร่วมรัฐบาล แต่กลับมีสส.ในกลุ่มอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บางส่วนที่ทำตัวเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล

ล่าสุดนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการคมชัดลึก ออกอากาศทางเนชั่นทีวี 22 ถึงเบื้องหลังการมีมติพรรคประชาธิปัตย์ "งดออกเสียง" เลือกน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่16ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ในการประชุมสส.พรรคก็เป็นคนเดิมคือ พล.ต.ต. สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (เคยเสนอโหวตงดออกเสียงนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ) แต่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ เสนอว่า ไม่ควรลงมติเช่นนี้แต่ควรหารือพรรคร่วมฝ่ายค้านคือพรรคประชาชนก่อนแต่เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยตนจึงลุกขึ้นเพื่อสนับสนุนความเห็นนายบัญญัติ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่รับ กระทั่งที่ประชุมมีการเสนอให้ลงมติว่าจะไม่รับด้วยวิธีไหน

นายชวน ยังกล่าวว่า  นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค เสนอให้มีการลงมติงดออกเสียงหรือไม่ ก่อนที่นายนายประมวล พงศ์ถาวราเดชสส.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะผู้อำนวยการพรรคได้เปิดให้มีการลงมติ ตามที่เลขาธิการพรรคเสนอปรากฎว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วยตามที่นายเดชอิศม์เสนอ  มีเพียงตน นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา ที่ไม่ยกมือ  ฉะนั้นมติที่ออกมาถือว่าไม่เป็นเอกฉันท์ แต่ก็เคารพมติพรรคด้วยการงดออกเสียง 
 

วันนั้นได้มีการพูดต่อครั้งที่แล้วที่พรรคมีมติงดออกเสียงแล้วเหตุใดจึงมีคนลงมติเห็นชอบ แต่ไม่มีใครตอบ เพราะเป็นเรื่องจริง นายบัญญัติได้ถามอีกครั้งก็ไม่มีใครตอบ ผมเป็นคนซื่อตรงต่อประชาชน ไม่ซื้อเสียงทั้งต่อหน้าและลับหลังอยู่ในพรรคมาต้องถือว่าเป็นหนี้บุญคุณพรรค

นายชวนย้ำว่า  ในวันที่พูดคุยว่าจะโหวตน.ส.แพทองธารอย่างไรยังไม่มีการพูดคุยเรื่องร่วมรัฐบาล

"คนที่เสนอว่าเมื่อเราไม่ร่วมรัฐบาล ใช้คำนี้เลยนะครับ เมื่อเราไม่ร่วมรัฐบาลเราก็ต้องลงมติไม่เห็นชอบคือ พล.ต.ต. สุรินทร์ ปาลาเร่ คือฝ่ายโน้นที่เป็นคนเสนอซึ่งที่ประชุมไม่มีใครคัดค้าน " 

 ที่ผ่านมาเมื่อพรรคมีมติเช่นงบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่ลงมติว่าไม่รับก็ลงมติว่าไม่รับ แต่กลับมีคนหายไปกว่า10คนกลุ่มนี้พยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจรัฐบาลไม่ให้ขัดใจแม้กระทั่งยึดมติของตนเองก็ละเมิดเพื่อเอาใจเหตุผลคืออยากไปร่วมรัฐบาล

"ไม่ใช่เขาเชิญหรอก แต่ฝ่ายนี้พยายามที่จะไปประสานติดต่อขอเข้าร่วมตั้งแต่ก่อนรัฐบาลชุดเดิมจะพ้นด้วยซ้ำไปมีความพยายามติดต่ออยู่แต่ว่าไม่เกิดอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมา แต่พอมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีขึ้นมาถือว่าเป็นช่วงจังหวะที่เข้าไปภายใน แต่เมื่อไม่ได้เป็นกรรมการบริหารก็ไม่ทราบว่าเขาไปพูดคุยกันอย่างไร" 

นายชวน ยังยืนยันว่า หากที่สุดพรรคประชาธิปัตย์มีมติไปร่วมรัฐบาล เชื่อว่าจะไม่เป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล เราไม่ได้ค้านทุกเรื่องอะไรที่เป็นประโยชน์โดยเฉพาะกฎหมายก็พร้อมที่จะสนับสนุน

 ส่วนที่มีคนบอกว่าประชาธิปัตย์ถึงคราวจบสิ้นคิดว่าคงไม่จบเพราะยังไงพรรคก็ยังอยู่แต่อยากให้ประชาชนแยกให้ออกว่าเป็นพฤติกรรมของคณะกรรมการบริหารชุดนี้ที่พรรคเลือกขึ้นมาเอง แต่คนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมตรงนี้ยังเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นความหวังของประเทศ

"เรื่องนี้ไปโทษเพื่อไทยทั้งหมดคงไม่ได้ ถ้าพวกเราไม่ดิ้นรนไปเป็น เขาไม่ได้อยากได้แต่เราติดต่อเข้าไปเป็นมากกว่าก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคนั้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ปัจจุบันคือสมาชิกพรรคเพื่อไทยก่อนเคยสู้กับประชาธิปัตย์และแพ้ประชาธิปัตย์มาโดยตลอด ตอนหลังก็ลาลออกมาคิดว่าอันนี้ก็เป็นเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวก็ต้องดูต่อไป"

แต่ในนามสมาชิกตนหนึ่งของพรรคอยากจะสื่อสารว่าในฐานะมีส่วนร่วมและปกป้องพรรคมาอย่างยาวนานเมื่อไม่มีออกมาเพื่อปกป้องเกียรติภูมิพรรคก็สมควรมีส่วนออกมาปกป้อง

นายชวนยังเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังคงอยู่ต่อไป แต่คนที่จะอยู่ไม่ได้คือคนที่ไม่ซื่อตรงต่อพรรค ย้ำว่าเราไม่ได้เป็นศัตรูต่อสู้แต่เราสู้เพื่อความชอบธรรม

ขณะที่รายชื่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)แพทองธาร1ซึ่งมีคนที่เคยเป็นคู่ต่อสู้กันเข้าไปเป็นรัฐมนตรี นายชวนกล่าวว่า อาจเป็นเพราะว่าตนเป็นคนรุ่นก่อนคือคำไหนคำนั้นต่อสู้กันตามวิถีทาง

ที่แปลกใจคือกปปส.ที่ไปชุมนุมขับไล่นายทักษิณ ชินวัตร เขาด่าหัวหน้าพรรคตนเองในสภาก็ยังไม่สู้ ก็คงจะเป็นปรากฎการณ์ของคนรุ่นหนึ่ง เป็นเรื่องของแต่ละคน