หลาดาธานี ‘ชาดา’เบ็ดเสร็จ  นอมินี ระบอบบ้านใหญ่

หลาดาธานี ‘ชาดา’เบ็ดเสร็จ  นอมินี ระบอบบ้านใหญ่

40 ปีการเมืองอุทัยธานี หนีไม่พ้นแดนสนธยา ตระกูลไทยเศรษฐ์กินรวบ “ชาดา” ดันลูกสาว “ซาบีดา” นั่ง มท.3 ส่วนท้องถิ่นส่งสัญญาณน้องสาว “มนัญญา”ถอย เปิดทาง“เผด็จ นุ้ยปรี” ยึด อบจ.อุทัยฯ สมัยที่ 5  

KEY

POINTS

  • อุทัยธานี จังหวัดเล็กๆ มี สส. 2 คน มาตั้งแต่ปี 2522 จนถึงปัจจุบัน มีพัฒนาการเมืองค่อนข้างแปลก จากยุค “เสธ.พล” ตัวแทนระบอบเปรมาธิปไตย สู่ “ชาดา” แห่งระบอบบ้านใหญ่

  • ปี 2550 ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้รับเลือกเป็น สส.อุทัยธานี สมัยแรก และเริ่มรวบรวมซุ้มการเมืองท้องถิ่นให้เป็นหนึ่งในนาม “กลุ่มคุณธรรม”  

  • เมื่อชื่อ“ชาดา”ไม่ผ่านด่าน ครม.อุ๊งอิ๊ง จึงจำเป็นต้องใช้สูตรนอมินี ส่งลูกสาวไปนั่ง รมช.มหาดไทย ไม่ต่างกับยุครัฐบาลลุงตู่ ก็เคยส่งน้องสาวไปนั่งรมช.เกษตรฯ   

อุทัยธานี จังหวัดเล็กๆ มี สส. 2 คน มาตั้งแต่ปี 2522 จนถึงปัจจุบัน มีพัฒนาการเมืองค่อนข้างแปลก จากยุค “เสธ.พล” ตัวแทนระบอบเปรมาธิปไตย สู่ “ชาดา” แห่งระบอบบ้านใหญ่

ดังนั้น ปรากฏการณ์นักการเมืองซุ้มเดียวกัน จะลงแข่งกันเองในสนามนายก อบจ.อุทัยธานี จึงไม่ใช่เรื่องแปลก

คู่ขัดแย้งต่างก็เป็นคนในเครือข่าย “หลาดา” ชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย ฝ่ายหนึ่งเป็นคนสนิท และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นน้องสาว

ล่าสุด “เบแหม่ม” มนัญญา ไทยเศรษฐ์อดีต รมช.เกษตรฯ แจ้งข่าวกับคนใกล้ชิดว่า จะถอนตัว และชาดา ก็ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรักน้องที่สุดในโลกอยู่แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่เขาตัดสินใจ แค่นั้นเป็นสิทธิ์ของเขาแค่นั้นเอง”  

ขณะเดียวกัน ชาดา ได้แจ้งถอนชื่อออกจากการเสนอชื่อเป็น รมช.มหาดไทย ใน ครม.อุ๊งอิ๊ง โดยมอบให้ลูกสาวคนกลาง "ซาบีดา ไทยเศรษฐ์" คณะทำงาน รมช.มหาดไทย นั่งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย แทน  

หลาดาธานี ‘ชาดา’เบ็ดเสร็จ  นอมินี ระบอบบ้านใหญ่

อย่างไรก็ตาม วันที่ 3 ก.ย.2567 เผด็จ นุ้ยปรี ได้เดินทางมาสมัครนายก อบจ. และเป็นผู้สมัครลำดับที่ 1 ในนามกลุ่มคุณธรรรม แบบไร้คู่แข่งขัน เหมือนสมัยที่แล้ว  

อนึ่ง ปลายปี 2563 การเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศ มีสนามเลือกตั้ง อบจ. 3 จังหวัดคือ กระบี่ เพชรบุรี และอุทัยธานี มีผู้สมัครนายก อบจ.เพียงรายเดียว

40 ปีที่แล้ว คำว่า บ้านใหญ่อุทัยฯ หมายถึงบ้านทรงไทย ริมแม่น้ำสะแกกรัง ซึ่งเป็นสำนักงาน สส. ของ “เสธ.พล” พ.อ.พล เริงประเสริฐวิทย์ อดีต สส.อุทัยธานี 6 สมัย  

ยุคเปรมาธิปไตย พ.อ.พล อดีตนายทหารคนสนิทของ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา เป็นคนเมืองอุทัยฯ ที่ตัดสินใจตั้งพรรคสยามประชาธิปไตย สนับสนุนป๋าเปรมเป็นนายกฯ และลงสมัคร สส.มาแต่ปี 2522  

เวลานั้น ซุ้มนักการเมืองท้องถิ่นลุ่มน้ำสะแกกรัง ต่างก็ขึ้นต่อบ้านทรงไทย เนื่องจาก “เสธ.พล” เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลเปรม  

นับแต่สิ้นยุค “เสธ.พล” ก็มาถึงยุคคนขายเนื้อชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่เปิดฉากเล่นการเมืองท้องถิ่นกับตระกูล “เหลืองบริบูรณ์” ก่อตั้ง “กลุ่มคุณธรรม” นำทีมลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองอุทัยธานี ในปี 2539 เมื่อกลุ่มคุณธรรมชนะเลือกตั้ง ชาดาจึงเป็นนายกเทศมนตรี  

ปี 2550 ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้รับเลือกเป็น สส.อุทัยธานี สมัยแรก และเริ่มรวบรวมซุ้มการเมืองท้องถิ่นให้เป็นหนึ่งในนาม “กลุ่มคุณธรรม”  

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุทัยฯ ปี 2552 ชาดา กระโดดมาหนุน เผด็จ นุ้ยปรี ลุยสนามนายก อบจ.สมัยที่ 3 และมีการจัดทัพท้องถิ่นใหม่ ไล่มาตั้งแต่ อบจ. เทศบาล และ อบต. ภายใต้ร่มธงบ้านใหญ่ไทยเศรษฐ์  

เผด็จ นุ้ยปรี เป็นนักการเมืองท้องถิ่นมานาน และเป็นผู้กุมฐานคะแนนให้พี่ชาย ศิลป์ชัย นุ้ยปรี อดีต สส.อุทัยธานี 4 สมัย มาแต่สมัยวัยรุ่น เพราะพี่ชายเป็น สส.สมัยแรกปี 2519  

ก่อนปี 2544 เผด็จ นุ้ยปรี ในฐานะ สจ.อุทัยฯ เขต อ.หนองฉาง ได้รับเลือกทางอ้อมเป็นนายก อบจ.สมัยแรก  

ด้วยความเป็นนักการเมืองสไตล์นักเลงลูกทุ่ง เผด็จ จึงผนึกตระกูลการเมือง 4-5 ตระกูล ให้มาสนับสนุนตัวเอง จนได้เป็นนายก อบจ.ต่อเนื่องมา 4 สมัย  

เมื่อชาดา ขยับเป็น สส.อุทัยฯ ได้เปิดการเจรจาดึงกลุ่ม สจ.ของเผด็จ มาร่วมมือกันภายใต้ร่มธงกลุ่มคุณธรรม  

วันที่ 3 ก.ย.นี้ เผด็จได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้เคลียร์ใจกับมนัญญาแล้ว เพราะชาดาอยากให้การเมืองของ จ.อุทัยธานีนั้น เป็นหนึ่งเดียวกัน  

“จังหวัดอุทัยธานีนั้น ถือเป็นจังหวัดที่การเมืองนิ่งมาตลอด ไม่ว่าจะตั้งแต่ระดับองค์การบริหารส่วนตำบล มาจนองค์การบริหารส่วนจังหวัด ไปจนถึงระดับ สส. ซึ่งถ้าหากว่าเกิดความแตกแยกมาตั้งแต่ระดับตำบล ก็จะทำให้เกิดปัญหาในพื้นที่”  

นั่นเป็นภาพการเมืองอุทัยฯในสายตาของ เผด็จ นุ้ยปรี อดีตนายก อบจ. พันธมิตรของบ้านใหญ่ไทยเศรษฐ์

ส่วนการเมืองใหญ่ เมื่อชื่อ“ชาดา”ไม่ผ่านด่าน ครม.อุ๊งอิ๊ง จึงจำเป็นต้องใช้สูตรนอมินี ส่งลูกสาวไปนั่ง รมช.มหาดไทย ไม่ต่างกับยุครัฐบาลลุงตู่ ก็เคยส่งน้องสาวไปนั่งรมช.เกษตรฯ