เช็กขุมกำลัง สกัดรัฐประหาร ออร่าผบ.ทบ.ใหม่ เข้าตา‘ทักษิณ’

เช็กขุมกำลัง สกัดรัฐประหาร ออร่าผบ.ทบ.ใหม่ เข้าตา‘ทักษิณ’

แผงอำนาจกองทัพรองรับ "รัฐบาลแพทองธาร" กับสถานการณ์การเมืองที่ถูกประเมินว่ายังผกผัน และประเทศไทยจะเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ปี 2570

KEY

POINTS

 

  •  "โผทหาร" ถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) 9 ก.ย.นี้ เพื่อนำส่งให้ นายกฯ พิจารณาลงนามนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
  • "ภูมิธรรม"  เชิญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล รายงานความคืบหน้าและขั้นตอนดำเนินการจัดทำโผทหาร

หาก “รัฐบาลเพื่อไทย” วางยุทธศาสตร์อยู่ครบเทอม 4 ปี ให้ ทักษิณ ชินวัตร ขับเคลื่อนการเมือง ผ่าน “นายกฯอิ๊งค์” โดยปักหมุดไว้ที่การเลือกตั้งครั้งหน้า 

ดังนั้น บันไดการปรับย้ายทหารรอบนี้ จะเป็นการเซ็ตขุมกำลังฝ่ายของตัวเองไว้ เพื่อป้องกันรัฐประหาร ซึ่งจะต้องตีโจทย์ให้แตกว่า ปี 2570 ใครจะเป็น “ผบ.ทบ.” ที่ไว้วางใจได้ 1000%

แม้ปัจจุบัน แนวโน้มการทำรัฐประหาร ทำได้ยาก  แต่ก็ไม่มีใครรับประกันว่าจะไม่เกิด เหตุสถานการณ์บ้านเมืองยังวนลูป ความขัดแย้งเผชิญหน้าเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากมีการสร้างเงื่อนไขให้การเมืองไปสู่ทางตัน

ขณะที่  ร่างกฎหมายสกัดรัฐประหารฉบับของ สุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหม ที่ให้อำนาจ นายกฯ และ ครม.สั่งพักราชการคนที่คิดดำเนินการดังกล่าว แต่เป็นเพียงเชิงสัญลักษณ์ว่าทหารอยู่ภายใต้การเมือง

ย้อนไป 10 ส.ค.2567 “ทักษิณ” นัดพบ ตท.รุ่น 10 เพื่ออัปเดตความเคลื่อนไหวในกองทัพ ผ่านผองเพื่อนที่ยังเหลือลูกน้องในกองทัพ เช่น พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม พล.อ.ทวนชัย พันธุ์เพิ่มศิริ พล.อ.อ.พิธพร กลิ่นเฟื่อง

ต้องยอมรับว่า “ทักษิณ” ร้างเวทีนี้มาเกือบ 20 ปี น้องๆ เตรียมทหารเติบโตเข้ามากุมกำลังหลักในกองทัพ ระดับ ตท.รุ่น 24 ตท.25 และ ตท.26 นอกจากได้ข้อมูลเพื่อน ตท.รุ่น 10 แล้ว ยังต้องอาศัยทหารนอก-ในราชการปัจจุบันมาช่วย “ไกด์ไลน์”

ท่ามกลางกระแสข่าวเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ บ้างก็ลือกันว่า “ผบ.เหล่าทัพ” ตบเท้าเข้า บ้านจันทร์ส่องหล้า หรือผู้มีอำนาจในรัฐบาลเรียกดูตัว “แคนดิเดต”

แต่ยี่ห้อ ทักษิณ แม้ไม่เห็นตัว แต่ขอได้ดูโปรไฟล์ ไล่กันตั้งแต่เทือกเถาเหล่ากอ รวมถึงกลไกโครงสร้างกองทัพปัจจุบันซ้อนทับกันอยู่ 
“ผบ.ทบ.” ต้องนั่งเก้าอี้ ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ผบ.ฉก.ทม.รอ.904)ตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม

“บิ๊กหยอย” พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ (ตท.24 )ผู้ช่วย ผบ.ทบ. อาวุโสสูงสุด และเป็นทหารคอเขียวคนเดียว เติบโตมาจากสายบุ๋น กรมยุทธการทหารบก ขึ้นเป็นเจ้ากรมยุทธการทหารบก ขยับขึ้นมาเป็น เสธ.ทบ. ทำหน้าที่ฝ่ายอำนวยการ รอบรู้งานสายยุทธการ และสายต่างๆ เปรียบเป็นแม่บ้าน ทบ.


“บิ๊กหนุ่ย” พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ(ตท.24) ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ได้คืนความชอบธรรม หลังพลาดเก้าอี้แม่ทัพภาค 1(มทภ.1) ถูกโยกไปเป็น ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. ได้มาเป็นแคนดิเดต ผบ.ทบ.คอแดง อีกคน แต่ปูมหลังเคยเป็นทั้งผู้พัน ผู้การ ผบ.พล.ร.2 รอ. สายบูรพาพยัคฆ์ อาจถูกโยงกับสัมพันธ์กับคนบ้านป่าฯ

“บิ๊กปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) เสธ ทบ. ถูกจับตาตั้งแต่เป็น ผบ.กองพลสไตรเกอร์ ผบ.พล.ร.11 ก่อนขยับเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 จนมีชื่อไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดง และเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 

อีกทั้ง เป็นหัวหน้านักเรียน เป็นนายทหารที่มีความรู้ความสามารถ จบปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกา และมีความจงรักภักดีมาตั้งแต่รุ่น บิดา พล.อ.ปรีชา แคล้วปลอดทุกข์ อดีตเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ. และเคยรับราชการในกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ และปัจจุบันยังได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิบัติหน้าที่ราชองครักษ์เวรพิเศษ

ว่ากันว่า "ทักษิณ"ให้ความสนใจแคนดิเดต ผบ.ทบ.3 คนเป็นพิเศษ พร้อมเปรยว่า ในอนาคตหากมีโอกาส ก็อยากเห็นตัวเป็นๆ สักครั้ง เพราะคนหนึ่งกำลังก้าวเป็น ผบ.ทบ. ส่วนอีก 2 คนจะเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม และผบ.ทหารสูงสุดปี 2558

มีรายงานข่าวว่า วันที่ 9 ก.ย.นี้ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จะส่ง "โผทหาร"ไปให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)นำส่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เพื่อพิจารณาลงนามนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป

หลัง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เชิญ พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล รายงานความคืบหน้าและขั้นตอนดำเนินการจัดทำโผทหารเรียบร้อยแล้ว ตาม พรบ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 

จากกรณี “สุทิน" เป็นประธานประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายชั้นนายพล โดยมี พล.อ.สนิธชนก สังข์จันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.อ. พุฒิประสิทธิ์ จิระมะกร เจ้ากรมเสมียนตรา

โดยที้ประชุมเห็นชอบตามที่เหล่าทัพเสนอ
 “บิ๊กหยอย” พล.อ.พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ (ตท.24 ) ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ถูกส่งไปเป็น
 เป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหม จ่อขึ้นปลัดกระทรวงกลาโหมปี 2568  ส่วน“บิ๊กหนุ่ย” พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ(ตท.24) ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด จ่อขึ้นผบ.ทหารสูงสุด ปี 2568 เช่นเดียวกัน

กองทัพบก พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์( ตท.26 ) เป็น ผบ.ทบ. พล.อ.ณัฐวุฒิ นาคะนคร (ตท.24) รอง ผบ.ทบ พล.อ.วสุ เจียมสุ (ตท.25) ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ (ตท.26)ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.ท.ธงชัย รอดย้อย (ตท.25) เสธ.ทบ.

พล.ท. อมฤต บุญสุยา (ตท.27)แม่ทัพน้อยที่ 1 เป็น แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ท. บุญสิน พาดกลาง (ตท.26)แม่ทัพน้อยภาคที่ 2 เป็น มทภ.2 พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ (ตท.23) แม่ทัพน้อยที่ 3 เป็น แม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็น มทภ. 4

ทั้งหมดนี้คือแผงอำนาจกองทัพเพื่อรองรับ "รัฐบาลแพทองธาร" กับสถานการณ์การเมืองที่ถูกประเมินว่ายังผกผัน และประเทศไทยจะเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ปี 2570