'สว.' เริ่มถกร่างกม.งบฯ68 ติงให้เร่งสางหนี้-สร้างรายได้เพิ่ม

'สว.' เริ่มถกร่างกม.งบฯ68 ติงให้เร่งสางหนี้-สร้างรายได้เพิ่ม

"วุฒิสภา" เริ่มถก ร่างกม.งบฯ68 แล้ว กมธ.ฯ นำเสนอรายงาน ติงให้เร่งสางหนี้ สร้างรายได้เพิ่ม ด้าน "สว." ห่วงใช้งบเพื่อแจกไม่ยั่งยืน

ที่วุฒิสภา มีการประชุมวุฒิสภา วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานที่ประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการอภิปรายของ สว. เป็นการนำเสนอรายงานการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ68 ที่มี นายชีวะภาพ ชีวะธรรม สว. เป็นประธานกมธ.  โดยได้ตั้งข้อสังเกตของการทำงบฯ68 ไว้ว่า การจัดทำงบประมาณสุ่มเสี่ยงการจัดเก็บรายได้ไม่ตามเป้า เพราะตามสถิติการจัดเก็บรายได้ย้อนหลังพบว่าต่ำกว่าประมาณการต่อเนื่อง ส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ไม่เกิน 70% แต่หากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้งบเพิ่มขึ้นจากการกู้เงินอาจเกิดความเสี่ยงต่อการทำผิดกรอบวินัยการเงินการคลัง ดังนั้นรัฐบาลควรจัดสรรงบชำระคืนต้นเงินกู้ให้เพิ่มขึ้น 2.5%-4% เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด

“เพื่อให้เกิดรายได้ที่เพียงพอหรือใกล้เคียงกับรายจ่าย ควรลดการกู้เงิน และรัฐบาลต้องเร่งขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว แก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร และกลุ่มเอสเอ็มอี ลดภาระค่าใช้จ่ายและปรับเปลี่ยนโครงสร้างด้านพลังงาน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว  นอกจากนั้นรัฐบาลควรหลีกเลี่ยงนโยบายหรือโครงการที่จะต้องทำให้กู้เงินเพิ่มขึ้น” นายชีวะภาพ กล่าว

นายชีวะภาพ กล่าวด้วยว่าในปีงบฯ67 พบว่ามีการเบิกจ่ายงบลงทุน เพียง 3.34 แสนล้านบาทจากงบทั้งสิ้น  7.21 แสนล้านบาท  คิดเป็น 47% ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 75% และมีงบที่ยังรอเบิกจ่าย 3.77 แสนล้านบาท หรือ 52% ดังนั้นควรรเร่งรัดการเบิกจ่ายเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินลงทุนของรัฐ

ขณะที่ สว.ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณโดยมีสาระที่น่าสนใจ อาทิ นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. อภิปรายว่า ตามร่างพ.ร.บ.งบฯ68 พบการจัดสรรเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายลงทุน วงเงิน 908,244 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 187,700 ล้านบาท ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีการเน้นการลงทุนระยะสั้น เน้นการแจกเงิน แทนการทำโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชนระยะยาว ทั้งนี้ในการใช้งบประมาณกับรายการต่างๆ นั้นควรปรับปรุงอย่ามุ่งหวังผลแค่คะแนนนิยมทางการเมืองเท่านั้น