วัดใจ ‘นายกฯ อิ๊งค์’ โละมรดก 3 ป. รื้อมาตรฐานจริยธรรม

ได้ฤกษ์เข้าร่วมประชุมรัฐสภา นัดแรกสำหรับ นายกฯ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร กับคิวแถลงนโยบายรัฐบาล 12-13 ก.ย.นี้

ตัวนโยบายที่นายกฯ จะอ่านตาม ถูกปล่อยให้สังคมได้รับทราบกันถ้วนหน้า ก่อนเวลาแถลงจะมาถึง

ทั้งนโยบายเร่งด่วนที่จะทำทันที เน้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต เพิ่มแหล่งทุนให้ชุมชนหมู่บ้าน มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโน เป็นหัวใจสำคัญ ส่วนนโยบายระยะกลางและระยะยาว ที่น่าสนใจมีเรื่องเกี่ยวกับการเมืองรวมอยู่ด้วย

ในเอกสารนโยบายของนายกฯ ระบุไว้ถึงปัญหาทางการเมืองของประเทศไทยที่เผชิญความไร้เสถียรภาพและความขัดแย้ง แบ่งขั้วอุดมการณ์ที่รุนแรงมาอย่างยาวนาน

พิมพ์เขียวพัฒนาการเมืองของรัฐบาล ให้ระบอบประชาธิปไตยเข้มแข็ง มีเสถียรภาพมีนิติธรรม ความโปร่งใส จะเร่งจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยเร็วที่สุด ยึดโยงกับประชาชนและหลักการของประชาธิปไตย

พร้อมกับประกาศว่า รัฐบาลจะยึดมั่นและฟื้นฟูหลักนิติธรรม ความโปร่งใส ใช้งบประมาณของรัฐน้อยที่สุด แต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการสร้างรายได้และสร้างโอกาสแก่ประเทศ

ความพยามยามเน้นย้ำมอตโต้ เพื่อสร้างความจดจำให้กับตัวนายกฯ อิ๊งค์ ที่คนไทยได้ยินวรรคทองมาตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้ง

“พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ประเทศไทยเปลี่ยนทันที ปิดสวิตซ์ สว. ปิดสวิตซ์ 3 ป. คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆกัน“ อิ๊งค์ประกาศคอเป็นเอ็น ในวันที่มีสถานะเป็นแคนดิเดตนายกฯ จนโดนอินฟลูเอนเซอร์ และบรรดาคนในโซเชียลมีเดียล้อกันเป็นแถว เพราะย้อนแย้งความเป็นจริง ที่ข้ามขั้วจับมือตั้งรัฐบาลกับเครือข่ายลุง

มาวันนี้ อิ๊งค์ อัพเลเวลไปอีกขั้น กับตำแหน่งนายกฯ คนที่31 และในวันแถลงนโยบาย วรรคทองบางตอนที่จะออกจากปากผู้นำหญิง ก็แทบถอดแบบจากตอนหาเสียง

จะต่างก็แค่เพิ่มประเด็นเรื่องการสร้างโอกาสให้คนไทย และตัดคำว่าปิดสวิตซ์ สว. ปิดสวิตซ์ 3 ป.

“เพื่อสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ทำให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เพื่อนำพาความภาคภูมิใจกลับมาสู่คนไทย และประเทศไทย เพื่อสร้างความหวังและอนาคตที่ดีกว่าให้ประเทศไทย จากวันนี้ไปถึงอนาคต” เนื้อหาบางตอนในเอกสารนโยบายที่นายกฯ จะแถลง

ก่อนหน้านี้ ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ถูกคาดหมายว่าจะรับผิดชอบงานด้านกฎหมาย เคยพูดถึงรูปแบบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผ่าน สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) พร้อมกับระบุถึงปมร้อน มาตรฐานทางจริยธรรม ที่มองว่ามีปัญหาความไม่ชัดเจนในการตีความ

“เป็นปัญหาของการเขียนรัฐธรรมนูญ และที่วิตก หากตีความกันอย่างกว้างขวางอาจจะทำให้การบริหารประเทศเป็นไปไม่ได้ ผมมองว่าเรื่องนี้ต้องทำอย่างไรให้เป็นมาตรฐาน ไม่ต้องตีความอะไรมากมาย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเขียนกฎหมาย” ชูศักดิ์ ระบุ

ดูแนวโน้มรัฐบาลทำท่าจะเอาแน่ กับการโละมาตรฐานทางจริยธรรม ที่เกิดในยุค 3 ป. เรืองอำนาจ ที่สอยนักการเมืองมาแล้วหลายต่อหลายคนจนหมดอนาคตบนสังเวียนนี้

ล่าสุด ก็คือเศรษฐา ทวีสิน ที่ตกสวรรค์ หลุดเก้าอี้นายกฯ จากกรณีตั้ง พิชิต ชื่นบาน ทนายถุงขนม เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ

การขึ้นมาของนายกฯ อิ๊งค์ เป็นเดิมพันสำคัญของ ทักษิณ ชินวัตร และพจมาน ดามาพงศ์ ที่ต้องปกป้องลูกสาวคนเล็ก อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม

มาตรฐานทางจริยธรรม หนึ่งในกลไกที่เป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญ 60 ที่ถูกขนานนามว่าเป็นฉบับปราบโกง เริ่มแผลงฤทธิ์ จนผู้มีอำนาจหวั่นใจ

หากปล่อยให้บทบัญญัตินี้ ยังคงมีอิทธิฤทธิ์ คงไม่แคล้วที่เรื่องนี้จะแว้งกลับมาส่งผลกระทบอย่างคาดไม่ถึงต่อตัวนายกฯ ลูกนายใหญ่

การที่รัฐบาลแพทองธาร จะรื้อมาตรฐานทางจริยธรรม ที่ถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ให้นักการเมือง สุ่มเสี่ยงเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว จุดไฟเรียกแขกให้รัฐบาล เหมือนตอนดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไม่แน่

ท่ามกลางจุดเสี่ยงของรัฐบาลที่รายล้อม เต็มไปด้วยฝ่ายแค้น ที่กำลังรอปัจจัยเข้าทาง

การปล่อยให้มาตรฐานทางจริยธรรมบังคับใช้ต่อไป อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงในตำแหน่งของนายกฯอิ๊งค์ และนักการเมืองหลายคน สถานการณ์เลยกดดันให้ต้องคิดแก้กับดัก จนอาจกลายเป็นเกมเสี่ยง สร้างแรงต้านอย่างคาดไม่ถึงก็ได้