'วันนอร์' ยังไม่เห็นหมายศาล ขอตัว “พิศาล” ขึ้นศาลคดีตากใบ
'วันนอร์' ยังไม่เห็นหมายศาล ขอตัว “พิศาล” ขึ้นศาลคดีตากใบ ย้ำกรอบรธน.ม. 125 ศาลเดินหน้าได้ หากไม่เกิดผลเสียกับการประชุม ด้าน “เลขาสภาฯ” ย้ำเป็นเรื่องของ ปธ.สภาฯ บรรจุวาระขอตัวสส.ดำเนินคดี
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลนราธิวาส มีหนังสือด่วนที่สุดถึงประธานสภาฯ เพื่อขอให้ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาค4 ฐานะจำเลยที่ 1ในคดีตากใบ สละสิทธิความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ 125 หลังจากที่ศาลมีหนังสือขออนุญาตจับกุมไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้สภายังไม่ได้รับหนังสือขอตัวจากศาล แต่หากมีหนังสือขอมาแล้วจะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 วรรคสองหรือวรรคสามหรือไม่ ซึ่งต้องรีบพิจารณาโดยเร็ว
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยว่า ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 นั้น ยังมีวรรคสี่ ที่กำหนดให้ศาลพิจารราคดีในระหว่างสมัยประชุมได้ แต่ต้องไม่เป็นการขัดขวางหรือต้องไม่เกิดความเสียหายต่อการที่สมาชิกจะมาประชุม ดังนั้นศาลจึงดำเนินคดีสมมาชิกในสมัยประชุมหรือนอกสมัยประชุมก็ได้ เพื่อให้เห็นว่าอำนาจนิติบัญญัติและตุลาการแยกปฏิบัติได้ ดังนั้นการปฏิบัติแล้วแต่ศาลจะปฏิบัติอย่างไร
“มีตัวอย่างคดีการล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา พบว่านายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ศาลได้ดำเนินคดีระหว่างสมัยประชุม แต่ไม่ได้ดำเนินคดีหรือจับกุม และนายอดิศรส่งทนายไปแทน ดังนั้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ซึ่งศาลหากศาลขอตัวกับสภาฯ ในสมัยประชุม ต้องบรรจุวาระพิจารณา ทั้งนี้ตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญ 2560 ศาลยังไม่เคยขอตัวมา” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าาวต้องฟังนโยบายจากพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลหรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า ไม่มีนโยบายจากไหน สภาต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และเรื่องนี้อยู่ในรัฐธรรมนูญและข้อบัคับสภา ระบุว่าหากศาลส่งมาต้องบรรจุในวาระและพิจารณา ซึ่งข้อบังคับเป็นของเก่า แต่รัฐธรมนูญ วรรคท้ายบอกว่าศาลทำได้ รวมถึงการจับกุมด้วย
เมื่อถามถึงการลาประชุมของ พล.อ.พิศาล ที่พบว่ามีจำนวนบ่อยครั้ง ประธานสภาฯ กล่าวว่า หนังสือจะส่งแค่สำนักงาน แต่ยังไม่มาถึงตน หากมีเหตุผลสามารถลาไปได้ เป็นสิทธิของ สส. ส่วนจำนวนกี่ครั้งนั้นต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ลาอย่างไร ลาป่วย ลากิจ ลาภารกิจได้กี่วัน
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาฯ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในกรณีที่จะดำเนินคดีในสมัยประชุมศาลต้องขออนุญาตสภา เพราะเป็นไปตามหลักความคุ้มกันของ สส. และเมื่อมีหนังสือเป็นหมายเรียกสำนักประชุมจะกราบเรียนประธานสภาฯ เพื่อบรรจุวาระขออนุญาตดำเนินคดีกับ สส. ส่วนการอนุญาตหือไม่เป็นดุลยพินิจของสภา ทั้งนี้ที่ผ่านมามีกรณี ที่สส.แสดงความบริสุทธิ์ไม่ประสงค์ใช้ความคุ้มกัน แต่ปกติสภาจะไม่อนุญาต เพราะมองในภาพรวมของสถาบันนิติบัญญัติ ที่ต้องมีหลักประกันในการปฎิบัติหน้าที่ เรียนกว่าหลักความคุ้มกัน จะไม่อนุญาต แม้จะสละสิทธิ
“รัฐธรรมนูญ มาตา 125 ระบุว่าในระหว่างสมัยประชุม ต้องขออนุญาต และบรรจุวาระ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ประชุมจะเลื่อนวาระมาพิจารณาหรือไม่ ส่วนกรณีที่ปิดสมัยประชุมไปแล้ว ไม่ต้องขออนุญาตเพราะหลักการคุ้มกันกำหนดให้ทำในระหว่างสมัยประชุม หากทำหนังสือมาช่วงสมัยประชุมแต่ปิดสมัยประชุมไปแล้วนั้นจะบรรจุว่าไม่มีความจำเป็นต้องบรรจุ เพราะปิดสัยประชุม จากนั้นจะแจ้งศาลให้ทำหมายเรียกไปยังตัวบุคคลโดยตรง” ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงสิทธิการลาประชุม เลขาธิการสภาฯ กล่าวว่า สส.ขาดประชุมหรือลา ต้องมีหนังสือแบบฟอร์มระบุเหตุผล การอนุญาตนั้น ประธานสภาฯจะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจว่ามีเหตุผลสมควรจะอนุญาต ปกติใช้หลักความยืดหยุ่น หากวันประชุมแต่ไม่ได้มา มาแจ้งภายหลังได้ โดยปกติแล้วสำนักงานจะมีรายละเอียดการลาของ สส.แจ้งให้ประธานสภาฯ ทราบตามกรอบเวลา ส่วนพล.อ.พิศาล ทำหนังสือลามากครั้งหรือไม่ เรื่องอยู่ที่สำนักงานบริหารงานกลาง.