'ปิยบุตร' ชี้ ปชน.เป็นได้แค่พรรคปฏิรูป กระตุก 'จักรภพ' ปี 52 ลี้ภัยเพราะอะไร
'ปิยบุตร' สวน 'จักรภพ' ยันศึกษาเรื่องการปฏิวัติมาทั้งชีวิต 'พรรคประชาชน' เป็นได้แค่พรรคปฏิรูป ปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่ให้ทันสมัย แต่ 'เพื่อไทย' คือพวกโฆษณาเกินจริง ไล่ย้อนไปตอนปี 52 ลี้ภัยเพราะอะไร ถ้าจะเป็นแบบนี้ในวันนี้ ไม่ต้องลี้ภัยก็ได้
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2567 จากกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตโฆษกรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาชนว่าเป็น "พรรคปฏิวัติ" ขณะที่พรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้คือ "พรรคปฏิรูป" นั้น
ล่าสุด นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีนี้ ระบุว่า กรณีความเห็นของนายจักรภพ เพ็ญแข ตนชอบ ศึกษา สนใจ เรื่องการปฏิวัติในที่ต่างๆ ทั้งในแง่ทฤษฎี และประวัติศาสตร์ จนวันนี้ ก็ยังคงอ่าน ค้น เขียน อยู่ตลอด ใครกล่าวหาว่า เราเป็น “นักปฏิวัติ” ก็คือ คำชม เป็นเกียรติ แต่จะรู้สึกว่าชมกันเกินจริง เพราะ นักปฏิวัติ การปฏิวัติ ไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ ไม่ใช่นึกอยากอุปโลกน์เป็นก็เป็น ไม่ใช่ใส่หมวก ใส่ชุด ใส่พร็อพ ก็เป็นกันง่าย ๆ และด้วยภาววิสัย/อัตวิสัย เราอาจไปไม่ถึงเช่นนั้น
นายปิยบุตร ระบุว่า แต่ถ้าคนที่ช่วงเวลาหนึ่ง คิดเรื่อง “ถอนรากถอนโคน” จนลี้ภัยไป และได้กลับมา ใข้ชีวิตปกติ มีโอกาสกลับมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองเช่นนี้ แต่กลับมาจัดประเภทคนอื่นๆ ว่า คนนี้ “ปฏิวัติ” คนนี้ “ปฏิรูป” อันนี้ น่าสนใจ พิจารณา พี่เอก จักรภพ ใช้ความคิดวิชาการ นิยามคนนั้นคนนี้ว่า เป็นปฏิรูป เป็นปฏิวัติ เรื่องนั้น เรื่องเล็ก ดีเบตกันได้
"แต่ที่ผมติดใจมากกว่านั้น คือ พี่เอก จักรภพ เคยนิยามตัวเองและขบวน ช่วงที่ลี้ภัยตอนปี 52 จนกลับมาประเทศไทยหรือไม่ว่า ช่วงนั้น เป็นอะไร คิดอ่านอะไร วันนี้ คิดอ่านอะไร เปลี่ยนไปหรือไม่ เพราะอะไร" นายปิยบุตร ระบุ
นายปิยบุตร ระบุอีกว่า ไม่คิดว่าการมาฟื้นฝอยหาตะเข็บ 20 ปี ไล่เรียงมาจนถึงปัจจุบัน จะเป็นประโยชน์อะไร แต่อยากให้นายจักรภพ คิดดูเสียบ้างว่า สมัยหนึ่งนายจักรภพแค่พูดภาษาอังกฤษ คำว่า ระบบอุปถัมภ์ จนโดนฝ่ายตรงข้ามในเวลานั้นไล่ล่าว่าเป็นพวกล้มเจ้า หัวรุนแรง จนต้องลาออกจาก รมต. จนไปเป็นแกนนำ ปราศรัย เขียนบทความในนิตยสาร จำนวนมาก จนต้องลี้ภัย จนนายสมยศ (พฤกษาเกษมสุข) ในฐานะบรรณาธิการ ต้องติดคุก 112 แบบนี้ จะมาเที่ยวนิยาม แปะป้าย คนอื่นๆ ในบริบท สถานการณ์แบบนี้เพื่ออะไร
"ผมเข้าใจเรื่องข้อจำกัดแต่ละบุคคล เรื่องการตัดสินใจในชีวิต แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่วันนี้ รอดแล้ว จะมาแปะป้ายคนอื่น เพื่อให้ตนเองและพวกรอดจากคมหอกคมดาบของระบบ ถ้าวันนี้ ไม่คิดถึงสิ่งที่ตนเองแสดงออกมาในอดีต ก็คิดถึงวีรชน บูรพาจารย์ที่เราเคารพนับถือและฝากความหวังไว้กับพี่เอกในอดีตบ้าง ถ้าพี่จะเป็นแบบนี้ในวันนี้ พี่ไม่ต้องลี้ภัย ไม่ต้องแสดงออกเป็นตัวแทนความก้าวหน้าก็ได้ สยบยอมตั้งแต่วันนั้น ดีกว่าครับ" นายปิยบุตร ระบุ
เลขาธิการคณะก้าวหน้า ระบุอีกว่า ตนศึกษาเรื่องการปฏิวัติมาเกือบครึ่งชีวิต การบอกว่า พรรคอนาคตใหม่- ก้าวไกล-ประชาชน เป็น “พรรคปฏิวัติ” น่าจะให้ราคาพวกเขามากเกินความเป็นจริงไปเสียหน่อย พวกเขาไปได้ไกลที่สุด ก็คือ พรรคที่ต้องการปฏิรูป รักษาสิ่งที่มีอยู่ พัฒนา ปรับปรุงให้เท่าทันยุคสมัย พร้อมเผชิญหน้าความท้าทายใหม่ ๆ
เช่นกัน การบอกว่าพรรคเพื่อไทย คือ พรรคปฏิรูป ก็เป็นการโฆษณาเกินจริง เพราะจนถึงวันนี้ สิ่งที่คนจำนวนมากเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยกล้าหาญปฏิรูป ตั้งแต่ 2554 ตั้งแต่ ปฏิรูปกองทัพ ลบล้างผลพวงรัฐประหาร การกระจายอำนาจ ทลายทุนผูกขาด ปฏิรูปที่ดินทำกิน หรือ การเอาคนฆ่าประชาชนมารับผิด ก็ยังไม่เกิดขึ้นเลย เพราะพรรคเพื่อไทยมีข้ออ้างที่ทำให้พวกเราหลงเชื่อ ตั้งแต่ปี 2554 ว่า ยังไม่ถึงเวลา ยังทำไม่ได้ กินข้าวทีละคำ ต้องค่อยเป็นค่อยไป ฯลฯ
"การแปะป้ายว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคปฏิรูป เพื่อจะอ้างว่า วันนี้ กูไม่ทำ เพราะกูต้องเคลียร์เรื่องอื่นก่อน จึงเป็นการโฆษณาเกินจริง การบอกว่า พรรคประชาชนเป็นพวกปฏิวัติ คือ การโฆษณาให้เครดิตเกินจริง พอๆ กับบอกว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคปฏิรูป" นายปิยบุตร ระบุ
เลขาธิการคณะก้าวหน้า ระบุด้วยว่า ถ้าหากบอกว่า ข้อเสนอที่กดดันไปที่พรรคเพื่อไทย คือปฏิวัติ นั่นก็หมายความว่า พรรคเพื่อไทยทำอะไรไม่ได้นอกจากรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มก้อนชนชั้นนำทั้งระบบถ้าเป็นเช่นนี้ อย่าใช้คำว่า “ปฏิรูป” มาทำให้คำว่า “ปฏิรูป” เสียหาย สู้ยอมรับไปเลย โดยไม่ต้อง “ประดิษฐ์วาทกรรม” (คำของ พี่อ้วน ภูมิธรรม) ว่า พรรคเพื่อไทยจะทำเท่านี้
ภาพและข้อความจากเฟซบุ๊ก: Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล