‘พท.’ คึก ลุยแก้กับดัก สุมไฟ เซฟโซน ‘นายกฯอิ๊งค์’
การเปิดแนวรบทางการเมือง ของ “เพื่อไทย” คู่ขนาน แนวรบเศรษฐกิจ ยิ่งสร้างแรงกดดัน รุมเร้า “นายกฯ อิ๊งค์” ที่กำลังปรับตัวอย่างมโหฬารในตำแหน่งผู้นำ
KEY
POINTS
- เพื่อไทย พุ่งเป้าแก้มาตรฐานจริยธรรม ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ ทำเพื่อประโยชน์นักการเมืองล้วนๆ
- พรรคร่วมรัฐบาล มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เช่น พรรคหรือนักการเมืองที่มีความเชื่อมโยงลุงตู่
- จังหวะที่นายกฯอิ๊งค์ กำลังเรียนรู้งานแก้ปัญหา แนวรบเศรษฐกิจที่กดดันหนักอยู่แล้ว ยังเปิดแนวรบการเมืองเพิ่ม
- สถานการณ์เหมือนค่อยๆ ถูกสุมไฟ เพิ่มแรงกดดันมาที่ตัวผู้นำอย่างเลี่ยงไม่ได้
ยังไม่ทันที่นายกฯ อิ๊งค์ จะเข้าใจระบบระเบียบการบริหารราชการอย่างทะลุปรุโปร่ง
การเมืองก็ทำท่าร้อนระอุ กับประเด็นรื้อ โละ กับดักที่ฝังอยู่ตามบทบัญญัติกฎหมายต่างๆ
เมื่อรัฐบาล นำโดยเพื่อไทย ตั้งท่าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี60 โดยวางโรดแมปเดิน 2 ขยัก
ขยักแรก เล็งแก้รายมาตรา โละมาตรฐานจริยธรรม
ขยักสอง เกมยาวยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ผ่าน สสร.
หลายพรรคร่วมรัฐบาล ต่างเห็นดีเห็นงาม โดยเฉพาะกับขยักแรก ที่ต่างกลัวพลาดพลั้งในเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรม หากเกิดเรื่องไม่คาดฝัน มีแววหมดอนาคต หลังจากเห็นเศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งนายกฯ คาตา
พรรคร่วมฯ จึงเหมือนดันหลังพี่ใหญ่อย่างเพื่อไทย เดินลุยนำหน้าถางทางแก้กับดักทางการเมือง
เรื่องนี้หลายฝ่ายมองว่าสุ่มเสี่ยงจุดกระแสสังคมให้ต่อต้าน เพราะชัดเจนว่า เป็นเรื่องที่นักการเมืองต้องการแก้เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองโดยเฉพาะ
แต่รวมไทยสร้างชาติ โดยธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค ที่กล้าออกโรงเตือนรัฐบาล ให้ระวังจะโดนครหา หากรื้อมาตรฐานจริยธรรม เพื่อพวกพ้อง จะกลายเป็นเรื่องลุกลามไม่คาดคิด เลยอยากให้คงมาตรฐานเดิมไว้
ท่าทีของธนกร น่าสนใจ เป็นที่รู้กันดีว่า เดอะแด็ก เป็นเด็กในคาถาลุงตู่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การออกมาสะกิดเพื่อไทย แบบนี้ อาจจะต้องพึงระวังไว้บ้าง ไม่มากก็น้อย
เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 60 ที่ได้สมญานามว่าฉบับปราบโกง ก็เกิดในยุคลุงตู่เป็นนายกฯ เช่นเดียวกับมาตรฐานจริยธรรม เพื่อป้องกันนักการเมืองบางจำพวก
ยังไม่นับประเด็นริบดาบ ป.ป.ช. ตามที่ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุเตรียมยื่นแก้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ยกเลิกอำนาจ ป.ป.ช. ฟ้องคดีเอง หากอัยการสูงสุด และคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุด กับ ป.ป.ช. ยังเห็นไม่ตรงกัน
ไม่เว้นแม้แต่เผือกร้อนอย่างนิรโทษกรรม หลายฝ่ายก็จับตามองอย่างใกล้ชิด จะเอาถึงขนาดสุดซอย ปล่อยผีคดี ม.112 ด้วยหรือไม่
เรื่องนี้บรรดาพรรคร่วมฯ ต่างประกาศจุดยืนชัดเจน ว่าไม่เห็นด้วย
การเปิดเกมรุกของรัฐบาลนำโดยเพื่อไทย กำลังท้าทายอารมณ์สังคมพอสมควร
อาจจะด้วยความมั่นใจของผู้มีอำนาจตัวจริง ว่ากุมสภาพทุกอย่างได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือไม่ อย่างไร
หรือมองว่าเสียงรัฐบาลในสภาเหลือเฟือ โหวตอะไรก็ผ่าน แถมฝ่ายค้านหลักอย่างพรรคประชาชน เอาด้วยหลายเรื่อง
บทบาทของฝ่ายค้านที่ไม่เข้มแข็ง แรงต้านที่จุดกระแสจากในสภาฯ สู่แรงค้านนอกสภา แรงส่งดูจะไม่หนักหน่วง จนส่งผลให้รัฐบาลบอบช้ำ
แต่สถานการณ์ที่รัฐบาลต้องรับมือกับแนวรบเรื่องเศรษฐกิจ ที่ยังไม่สะเด็ดน้ำ ต้องกระตุ้นกันอีกหลายยก
คงต้องมีมาตรการที่เย้ายวนใจประชาชนมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดหวังของกลุ่มเป้าหมายเดิม หากต้องชวดได้เงินหมื่น
การเปิดแนวรบทางการเมืองคู่ขนาน แรงกดดันจึงน่าจะรุมเร้านายกฯ อิ๊งค์ ที่กำลังปรับตัวอย่างมโหฬารกับตำแหน่งผู้นำ
ไหนจะต้องเตรียมความพร้อม ทำความเข้าใจงานราชการ ความบ้านความเมือง และอื่นๆ อีกหลายส่วนที่ต้องเพิ่มความมั่นใจ
ทุกวันนี้ นายกฯหญิง เวลาเจอสื่อฯ นอกจากส่งยิ้มหวานและนิมิฮาร์ท การให้สัมภาษณ์ โดยเฉพาะประเด็นการเมืองแทบไม่มี
สะท้อนชัดว่าทั้งเจ้าตัวและกุนซือ เดินรัดกุมมากเพียงใด อาจเห็นบทเรียนก่อนหน้านี้ ยิ่งพูดเยอะ ก็ยิ่งพลาดเยอะ
แต่เมื่อถึงจังหวะที่การเมืองร้อน แรงกดดันต่างๆ อาจกระชากนายกฯอิ๊งค์ ออกจากเซฟโซน ก็เป็นไปได้สูง
หลายเรื่องที่กำลังตั้งเค้า ก็อาจคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะตามมาได้ในอนาคต
ถึงเวลา สังคมก็ต้องการคำตอบ และอยากทราบเจตจำนงทางการเมืองของผู้นำ การมัวแต่โยนให้ผู้ตามคอยตอบ คนดูจะสับสน และสงสัยถึงบทบาทเบอร์ 1 ฝ่ายบริหารเอาได้