‘ชินวัตร-เพื่อไทย’ เท ‘ชาญ’ บ้านใหญ่ปทุมฯ ถอยทัพ ชนวนพ่าย

‘ชินวัตร-เพื่อไทย’ เท ‘ชาญ’ บ้านใหญ่ปทุมฯ ถอยทัพ ชนวนพ่าย

ต้องจับตาเกมของ “ชินวัตร-เพื่อไทย” เพราะการพ่ายศึกครั้งนี้ ตอกย้ำแค้นให้เจ็บปวดมากกว่าเก่า แถมรู้กันดีว่า “บิ๊กสีน้ำเงิน” เป็นคนวางเกม-วางหมาก จนต้องมีการจัดเลือกตั้งซ่อม ด้วยการมัดมือชก เปลี่ยนผู้สมัครไม่ได้จนต้องแพ้น็อกคาเวที

KEY

POINTS

  • ความพ่ายแพ้ของ "ชาญ พวงเพ็ชร" ในศึกชิง นายก อบจ. ปทุมธานี ไม่เหนือความคาดหมาย พิษใบเหลืองของ กกต. ทำให้ "เพื่อไทย" ไม่สามารถเปลี่ยนตัวผู้สมัครได้
  • หากลงทุน-ลงแรง ช่วย "ลุงชาญ" อีกคำรบ ก็อาจจะเจอด่านคดีแจกถุงยังชีพ ซึ่ง ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไว้ก่อนหน้านี้
  • ทำให้ "ชินวัตร-เพื่อไทย" ต้องถอยทัพ "บ้านใหญ่เมืองปทุมฯ" ต้องถอนตัว ทำให้ "คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง" เข้าวินแบบนอนมา

ผลการเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ. ปทุมธานี ไม่เหนือความคาดหมาย ภายหลัง “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง คว่ำ “ลุงชาญ” ชาญ พวงเพ็ชร์ แม้ศึกยกแรก “คำรณวิทย์” จะพ่ายแพ้ก็ตาม

การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นผลมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบเหลือง “ชาญ” จากกรณีมีการจัดเลี้ยงงานบวช “สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์” หลานชายของ “นายกเบี้ยว” กฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2567 ก่อนจะมีการเลือกตั้ง นายก อบจ. ปทุมธานี ในวันที่ 30 มิ.ย. 2567

โดย กกต. มองว่าเป็นการจัดเลี้ยงและมหรสพเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ตัวเองนั้น เป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม

ผลการเลือกตั้ง 30 มิ.ย. 2567 “ชาญ” ผนึก “บ้านใหญ่ปทุมธานี” ทำได้แค่ เฉือนเอาชนะ “คำรณวิทย์” ไปได้เพียง 1,969 คะแนน โดย “ชาญ” ได้ 203,010 คะแนน “คำรณวิทย์” ได้ 201,041 คะแนน

การเลือกตั้งซ่อม เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา “คำรณวิทย์” ได้ 187,975 คะแนน “ชาญ” ได้ 120,007 คะแนน โดยมีคำแนนห่างกันถึง 67,968 คะแนน

ต้องยอมรับว่า การเลือกตั้งครั้งแรก “ชาญ” ได้รับการสนับสนุนจาก “เพื่อไทย” อย่างเต็มที่ มีการจัดทัพเปิดหน้าสู้ “คำรณวิทย์” โดยมีบัญชาจาก “นายใหญ่” แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า ให้ล้างแค้นเจ้าของวลี “มีวันนี้เพราะพี่ให้” แต่กลับมาแตกหักกันภายหลัง

“ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ลงทุนร่วมงานบวชของลูกชาย “นายกเบี้ยว” จนเป็นเหตุนำมาสู่การฟ้องร้องต่อ กกต. 

“นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในขณะนั้นยังไม่นั่งเก้าอี้นายกฯ เอาจริงไม่แพ้กัน ร่วมลงพื้นที่หาเสียงช่วย “ชาญ” หลายรอบ

เนื่องจากทุกองคาพยพของ “ตระกูลชินวัตร” ทุกตระกูลดังเมืองปทุมธานี ต้องการคว่ำ “คำรณวิทย์” พร้อมทั้งต้องการสั่งสอน “บิ๊กสีน้ำเงิน” ส่งผลเป็นแรงเหวี่ยงให้ “ชาญ” สามารถบริหารจัดการแต้มจนคว้าชัยไปได้

ทว่า พิษงานบวชรุนแรงกว่าที่คิด ระหว่างการพิจารณาของ กกต. “วอร์รูมเพื่อไทย” ลุ้นให้โดนใบแดงเสียด้วยซ้ำ เพราะจะสามารถเปลี่ยนตัวผู้สมัครลงมาสู้แทน “ชาญ” ได้ แต่เมื่อ กกต. แจกใบเหลือง ผู้สมัครคนเก่าต้องมาแข่งกันใหม่ มองเหลี่ยมไหนแล้ว “ชาญ” มีโอกาสแพ้ยับ ทำให้ “ชินวัตร-เพื่อไทย” ต้องยกทัพถอย

ขณะเดียวกัน “ชาญ” ยังมีบ่วงคดีทุจริตถุงยังชีพในปี 2555 ซึ่งโดน ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งประทับฟ้องคดีนี้แล้ว และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาในเดือน ก.ย. นี้

ทั้งปัจจัย “ชินวัตร-เพื่อไทย” ถอยทัพ และคดีถุงยังชีพ ทำให้ “บ้านใหญ่ปทุมธานี” ที่เคยผนึกกันช่วย “ชาญ” ต้องล่าถอย เพราะหาก “ชาญ” ชนะก็ต้องยังลุ้นด่านคดีอีกทอด

แตกต่างจากฝั่ง “คำรณวิทย์” ทุกองคาพยพ แพ็กรวมสนับสนุนกันอย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะเครือข่าย “สีน้ำเงิน” แถมยังมี “ตระกูลอยู่บำรุง” มาช่วยแบบเปิดหน้า หลังแตกหักกับ “ชินวัตร-เพื่อไทย” ทำให้ “วัน อยู่บำรุง” ต้องโบกมือลา

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาเกมของ “ชินวัตร-เพื่อไทย” เพราะการพ่ายศึกครั้งนี้ ตอกย้ำแค้นให้เจ็บปวดมากกว่าเก่า แถมรู้กันดีว่า “บิ๊กสีน้ำเงิน” เป็นคนวางเกม-วางหมาก จนต้องมีการจัดเลือกตั้งซ่อม ด้วยการมัดมือชก เปลี่ยนผู้สมัครไม่ได้จนต้องแพ้น็อกคาเวที