‘สมช.’ชี้ ‘คาร์บอมบ์ตากใบ’ สร้างสถานการณ์ ให้รู้ยังมีตัวตน ช่วงเปลี่ยนแปลง

‘สมช.’ชี้ ‘คาร์บอมบ์ตากใบ’ สร้างสถานการณ์ ให้รู้ยังมีตัวตน ช่วงเปลี่ยนแปลง

“รองเลขาฯสมช.“ เชื่อ ”คาร์บอมบ์“ ตากใบ หวัง สร้างสถานการณ์ต่อเนื่อง ให้รู้ยังมีตัวตน เพื่อเป้าบางอย่าง ในจังหวะเปลี่ยนแปลงหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้ เหตุปล้นปืน ที่ ฮาลา-บาลา ข้อมูลระบุเป็นไปได้ คนในชี้เป้า ย้ำ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้เท่าที่จำเป็น ต้องดูปัจจัยรายพื้นที่

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายฉัตรชัย​ บางชวด​ รองเลขาธิการ​สภาความมั่นคง​แห่งชาติ​ (สมช.​) เป็นประธาน​ในพิธีทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา​สำนักงานสภาความมั่นคง​แห่งชาติ​ ครบรอบปีที่​ 65  โดยมีอดีตเลขาฯสมช.เข้าร่วมอย่าคึกคัก​ อาทิ​ พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ พล.อ.สมศักดิ์​  รุ่งสิตา​  พล.อ.วัลลภ​ รักเสนาะ​  พล.ท.พงศกร​ รอดชมภู พล.อ.วินัย​ ภัททิยกุล​ เป็นต้น ขณะที่ พล.ต.อ.รอย​ อิงคไพโรจน์​  เลขาฯสมช.​คนปัจจุบัน ที่เกษียณอายึราชการวันนี้ (30ก.ย.) ไม่ได้มาร่วมงาน โดยแจ้งว่าติดภารกิจ 

ทั้งนี้ นายฉัตรชัย ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุคาร์บอมบ์ อ.ตากใบ​ จ.นราธิวาส​ เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า​ มีการรายงานให้รับทราบในเบื้องต้นแล้ว​ สาเหตุนั้นมีหลายปัจจัย ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ อาจเป็นการก่อเหตุต่อเนื่อง​ และช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลง​ทั้งฝ่ายรัฐบาล​ ทหาร​ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง​ จะมีการเปลี่ยนถ่ายผู้ที่มีตำแหน่งใหม่เข้าไปในพื้นที่​ จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งในวงรอบ​ 

เมื่อถามว่า เหตุการณ์​ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะพูดคุยหรือไม่​ นายฉัตรชัย​ กล่าวว่า​ ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน​ว่าเป็นแนวคิดเช่นนั้นหรือไม่​ แต่เชื่อว่าเป็นการดำรงความต่อเนื่อง​ในพื้นที่ก่อเหตุเพื่อให้รู้ว่ายังมีตัวตนอยู่​ และยังต้องการขับเคลื่อนเป้าหมายบางอย่างอยู่​ 

ผู้สื่อข่าวถามถึง การก่อเหตุปล้นปืน​ที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา อ.แว้ง จ.นราธิวาส​ มีความคืบหน้าอย่างไรหรือไม่  นายฉัตรชัย​ กล่าวว่า  ตนอยากตั้งข้อสังเกต​ว่า​ บริเวณดังกล่าวไม่ค่อยมีเหตุอะไรเกิด​ขึ้น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว​ ซึ่งก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นการแสดงเชิงสัญญลักษณ์​หรือไม่​ เนื่องจากอาวุธที่ปล้นไปเป็นปืนลูกซอง​ ไม่ใช่อาวุธสงคราม​ จึงต้องมีการตรวจสอบต่อไป​ ว่าเป็นความขัดแย้งภายใน​หรือไม่ เนื่องจากอาจเชื่อมโยงกับหลายส่วน​   

”มีชุดข้อมูลที่ระบุถึงความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับคนใน​เป็นคนชี้เป้าให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาในพื้นที่​ โดยจะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด“ นายฉัตรชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการสะท้อน​ว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังคงมีความจำเป็นต่อผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่​ นายฉัตรชัย​ กล่าวว่า​ ยังคงยึดหลักการพิจารณาเป็นรายพื้นที่ไป​ ซึ่งต้องดูจากหลายอย่างทั้งสถิติการก่อเหตุ​ และหลายปัจจัยประกอบกัน​ แต่จะใช้เท่าที่จำเป็น​ เพื่อยับยั้งและตรวจสอบไม่ให้เกิดเหตุ แต่อย่างที่ทราบรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะยกเลิกการประกาศบังคับใช้ในอนาคต​ แต่ขณะนี้ยังมีเหตุจึงยังต้องประกาศใช้อยู่​ 

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่รัฐบาลจะยกเลิกการประกาศใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉินในปี 2570 นายฉัตรชัย​ กล่าวว่า​ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบ หากบรรยากาศการพูดคุยดีขึ้น และการก่อเหตุลดลงก็อาจจะมีการยกเลิก โดยใช้วิธีการค่อยๆปรับลดไป