เกมลึกภูมิใจไทยเบียด ‘ลุง 3 ป.’ บทพิสูจน์อหังการ์ ‘เนวิน’

เกมลึกภูมิใจไทยเบียด ‘ลุง 3 ป.’ บทพิสูจน์อหังการ์ ‘เนวิน’

เกมลึกภูมิใจไทยเบียด ‘ลุง 3 ป.’ บทพิสูจน์อหังการ์ ‘เนวิน’ เบอร์หนึ่งพรรคอนุรักษนิยม ค่ายแดง”รุกดูด สส. – “นายทุน” เปิดดีล สว.

KEY

POINTS

  • ครบ 66 ปี "เนวิน ชิดชอบ" ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ยังต้องเจอกับบทพิสูจน์ทางการเมืองอีกหลายด่าน
  • แม้จะมีฐานกำลัง สส. แม้ "สว." บางส่วนจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอยู่ภายใต้การคอนโทรลของ "สีน้ำเงิน" แต่ต้องไม่ลืมว่า "นายใหญ่" มีหนี้แค้นที่ต้องชำระกับ "อดีตลูกน้อง
  • ทิศทางการเมืองของ "ภูมิใจไทย" พยายามปั้นพรรคให้ยึดหัวหาดเบอร์หนึ่ง "พรรคอนุรักษ์นิยม" เป็นตัวแทนเครือข่ายอำนาจ "ลุง 3 ป." ที่เคยยิ่งใหญ่

4 ต.ค.2565 วันคล้ายวันเกิดครบรอบ 66 ปี "เนวิน ชิดชอบ" ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย แต่ปีนี้เจ้าตัวไม่ได้จัดงานใหญ่

การจัดงานวันเกิด “ครูใหญ่เนวิน” จะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์การเมือง อย่างปี 2565 ใกล้เลือกตั้งทั่วไป จึงจัดงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่ เชิญสื่อไปทำข่าวอึกทึกครึกโครม

วันนั้น “เนวิน” ประกาศว่า พรรคภูมิใจไทยต้องได้ 100 ที่นั่งขึ้นไป แต่ก็ได้มา 71 ที่นั่ง ซึ่งแกนนำสายครูใหญ่รู้ดี แบรนด์สีน้ำเงินขายยาก ต้องอาศัยกลยุทธ์เฉพาะแบบบ้านใหญ่ จึงฝ่ากระแสแดง-ส้ม เข้าสภาฯได้

ทว่า ความพ่ายแพ้ของ “3 ป.” ชัยชนะของ “สีส้ม” เป็นแรงบีบ-แรงเหวี่ยงให้ “เนวิน” ต้องนำพรรคภูมิใจไทย มาจับมือพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาลกับ “พรรคเพื่อไทย” ภายใต้การคอนโทรลของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ

ยี่ห้อ “เนวิน” พยากรณ์การเมืองแม่นยำ รู้ดีว่ายี่ห้อ “ทักษิณ” มีแค้นต้องชำระจากวลี “มันจบแล้วครับนาย” ก่อนนำ สส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ออกจากพรรคพลังประชาชน เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 

เมื่อ “เนวิน” และ “ทักษิณ” ยังพอมีผลประโยชน์ร่วมกันอยู่ จึงต่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ร่วมประคับประคองรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ให้อยู่รอดปลอดภัย

แต่การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” จึงต้องเสริมความแข็งแกร่ง ด้วยการแก้โจทย์-แก้สมการ การเลือกตั้ง 200 สว. จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า สภาสูงกลายเป็นฐานอำนาจของภูมิใจไทย ว่ากันว่ามี สว.สีน้ำเงินในคาถากว่า 170 คนด้วยซ้ำ

“บ้านใหญ่”เริ่มคุมยาก

อย่างไรก็ตามในฐานกองกำลัง สส. “เนวิน” ช่ำชองกลยุทธ์การเมืองย่อมรู้ว่า จำนวน สส.ทั้ง 71 คน แยกเป็น สส.เขต 68 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 3 คน ฝ่าฟันกระแสส้ม-แดง เข้าสภาฯ มาได้แบบไหน

เนื่องจากเรตติ้ง“พรรคภูมิใจไทย” ในช่วงการเลือกตั้ง ติดอยู่ในแดนลบ จากการโดนโจมตีปม “กัญชาเสรี” ยิ่งทำให้กระแสจมดิ่ง แต่ด้วยความแม่นยำของผลโพล “บ้านบุรีรัมย์” คำนวณรู้ว่า ต้องเติมทรัพยากรในพื้นที่ให้ดี อ่านออกว่าต้องเทพื้นที่ไหน เพื่อไม่ให้สิ้นเปลือง ทำให้ “พรรคภูมิใจไทย” กวาด สส.เขตมาได้ตามเป้า

สูตร “บ้านใหญ่” เสริมด้วยทรัพยากรทางการเมือง ทำให้ “พรรคไร้กระแส” ยังมีที่ยืนทางการเมือง แต่ต้องไม่ลืมว่า การได้คุม “กระทรวงหูกวาง” ทำให้ “พรรคสีน้ำเงิน” มีทรัพยากรอู้ฟู่

ตรงกันข้ามกับเวลานี้ ที่ได้คุม “กระทรวงคลองหลอด” แม้จะมีเครือข่ายอำนาจระดับพื้นที่ แต่ไม่มีทรัพยากรทางการเมืองมากพอ ที่จะรั้ง สส. เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานพื้นที่

มีกระแสข่าวว่า “บ้านใหญ่” หลายบ้าน แม้ยังสังกัด “ค่ายสีน้ำเงิน” แต่ปัจจุบัน เริ่มปันใจให้กับ “ค่ายสีแดง” เสียแล้ว

ว่ากันว่าระยะหลัง “สส.สีน้ำเงิน” ไม่ค่อยพอใจการบริหารงานสไตล์ “ครูใหญ่” ที่มักจะขีดเส้นให้เดิน สั่งการให้เคลื่อนเกม จนมี “สส.บางคน” สะท้อนปัญหาภายในพรรคออกมาภายนอก จนถูก “ครูใหญ่” เตะออกจากกลุ่มไลน์ พร้อมประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย

“ค่ายสีแดง”รุกดูด“บ้านใหญ่”

ปัญหาภายใน “ค่ายสีน้ำเงิน” ได้มี “บิ๊กเนม”จากค่ายสีแดงคอยจับตาอยู่ตลอดเวลา มีกระแสข่าวว่า “สส.บ้านใหญ่” หลายตระกูล เปิดบ้าน-เปิดดีลกับ “บิ๊กเนม” จากค่ายสีแดง บางคนขอกลับเข้าสังกัด “นายใหญ่-เพื่อไทย” ทันที  อีกหลายราย ขอรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม

ทั้งนี้ คาดว่าหาก “บ้านใหญ่” ค่ายสีน้ำเงิน จะหันหลังให้“ครูใหญ่” อาจต้องรอเวลาใกล้ครบเทอมสภาฯ ในช่วงปี 2570 เพราะการคุม“สภาสูง” อาจจะทำให้ “องค์กรอิสระ” ซึ่งอยู่ในมือ“ครูใหญ่” กลายเป็นภัยต่อกลุ่มที่คิดตีจาก จึงต้องประเมินสถานการณ์ให้รอบคอบเสียก่อน

ขณะเดียวกัน เริ่มมีกระแสเล็ดลอดออกมาว่า “สว.สีน้ำเงิน” มี “นายทุน” เปิดดีล-เปิดโปรย้ายค่าย ย้ายสังกัด แต่บรรดา สว.ซึ่งยังอยู่ในช่วงฮันนีมูน จึงทำให้ค่อนข้างยากที่ใครจะเจาะไข่แดงได้ แต่ความเคลื่อนไหวนี้ยังมีอยู่ คาดการณ์ว่าผ่านพ้นช่วง 1 ปี อาจมีดีลที่ “สว.สีน้ำเงิน” ยากจะปฏิเสธได้ เป็นแรงจูงใจ

ว่ากันว่า เริ่มเห็นสัญญาณ “สว.สีน้ำเงิน” แตกแถว ไม่เข้าร่วมประชุมนัดพิเศษนอกสถานที่ บริเวณซอยรางน้ำ ในบางครั้งบางคราว จน “ครูใหญ่” ต้องสั่งตามตัว

ปั้นแบรนด์ชิงเบอร์หนึ่งขั้วอนุรักษ์

ในวันที่นายใหญ่ บ้านจันทร์ส่องหล้าคุมรัฐบาลเพื่อไทย และนายกฯแพทองธาร มีคะแนนนิยมดีวันดีคืน เพราะแจกเงินหมื่น ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของกลุ่มบ้านใหญ่ เตรียมสลัดทิ้งเสื้อน้ำเงิน ดังนั้น ครูใหญ่เนวิน จึงต้องแสดงพลังอำนาจพิเศษให้ สส.ได้มีความมั่นใจ ในแบรนด์สีน้ำเงิน ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์แทนที่กลุ่ม 3 ป.

ยุทธศาสตร์การเมืองของ “เนวิน” ที่มีเป้าหมายสร้างให้ “พรรคภูมิใจไทย” ขยับขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในขั้วพรรคอนุรักษนิยม เพื่อเก็บแต้มจากกระแสอนุรักษ์ ผนึกกับกลุ่มการเมือง “บ้านใหญ่” ซึ่งจะทำให้พรรคภูมิใจไทยมีโอกาสคว้าเก้าอี้ สส.ได้มากขึ้นกว่าเดิม

ชื่อของ “เนวิน ชิดชอบ” โลดโผนบนถนนการเมืองมาอย่างยาวนาน อยู่ทั้งฉากหน้า-ฉากหลัง เป็นนักยุทธศาสตร์การเมือง ควบคุมเกม ที่หาตัวจับยาก จึงน่าจับตาว่า เขาจะสามารถนำพา “พรรคภูมิใจไทย” และเครือข่ายสีน้ำเงิน ไปได้ไกลอีกนานแค่ไหน