'รัศม์' ยันทุกชาติในอาเซียนเห็นชอบให้ไทยเป็นเจ้าภาพแก้ปัญหา 'เมียนมา'
"รัศม์" ผช.รมต.กต.ย้ำข้อเท็จจริงรัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพหารืออาเซียนเรื่องแก้ปัญหาในเมียนมาทุกประเทศเห็นชอบ ชี้หากดำเนินการพลการอาจถูกมองแทรกแซงได้
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ระบุถึงกรณีมีผู้ให้ความเห็นกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ขัดขวางความพยายามของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จะแก้ไขปัญหาเมียนมาโดยการนำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) รวมทั้งการที่รัฐบาลไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมหารือไม่เป็นทางการของอาเซียนในเรื่องเมียนมาในเดือนธันวาคมนี้ จะเป็นการแทรกแซงกิจการภายในเมียนมาหรือไม่ โดยระบุว่า ตามข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 กระทรวงการต่างประเทศ ได้ไปให้ความเห็นต่อรัฐสภาในเรื่องนี้ ตามคำเชิญว่า แนวคิดของฝ่ายนิติบัญญัติบางส่วนที่ต้องการให้ไทยเป็นผู้เสนอให้มี Emergency Item on Myanmar ในการประชุม IPU ที่นครเจนีวานั้น อาจทำให้เป็นการส่งสัญญาณว่า ไทยกำลังเลือกข้าง ที่อาจกระทบต่อความพยายามโน้มน้าวพูดคุยกับฝ่ายต่าง ๆ ในเมียนมาในฐานะคนกลาง รวมทั้งกระทบความพยายามแก้ไขปัญหาข้ามแดนต่าง ๆ ทั้งเรื่องอาชญากรรม และสิ่งแวดล้อมด้วย
นายรัศม์ ระบุว่า ในวันนั้นนั้น รัฐสภาเสียงส่วนใหญ่ ได้เห็นด้วยตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจร่วมกันของฝ่ายนิติบัญญัติทั้งหมด และไม่ใช่กระทรวงการต่างประเทศมีอำนาจหน้าที่ไปขัดขวางตามที่ได้มีการเขียนบิดเบือนข้อเท็จจริงแต่อย่างใด
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า ในการดำเนินแก้ไขปัญหาเมียนมานั้น จำเป็นต้องทำอย่างรัดกุม และมีการหารือร่วมกันกับประเทศสมาชิกอาเซียนก่อน ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลไทยดำเนินการโดยกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งการจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียนดังกล่าว เป็นที่รับรู้และยอมรับโดยประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมด จึงไม่ได้เป็นการแทรกแซงกิจการภายในเมียนมา ตามที่มีผู้แสดงความเห็นแต่อย่างใด และในทางตรงกันข้าม หากไทยดำเนินการตามลำพังโดยไม่ได้หารือกับประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกันก่อน อาจมีผลเสีย รวมทั้งอาจถูกมองว่า เป็นการแทรกแซงได้