'ประธานรัฐสภา' แนะถกพื้นที่ปลอดภัย หวังฟื้นสันติสุขพื้นที่ใต้
“วันนอร์” มอง พูดคุยสันติสุขยังไปไม่ถึงไหน ชี้ต้องถกข้อตกลงพื้นที่ปลอดภัย พร้อมเผยถกทวิภาคีกัมพูชา ขอไทยเชื่อมทางรถไฟเข้าเขมร อนาคตต่อไปเวียดนาม-จีน
สปป. ลาว นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียนครั้งที่ 45 ซึ่งได้หารือทวิภาคีกับ สมเด็จมหารัฐสภาธิการอธิบดี ควน โซะดารี ประธานสภาแห่งชาติราชอาณาจักรกัมพูชา ว่า กัมพูชาขอให้ช่วยเหลือปรับปรุงการคมนาคมชายแดนของสองประเทศ เพื่อสะดวกในการขนส่งสินค้า การค้าขาย และการท่องเที่ยวมากขึ้น และต้องการเชื่อมระหว่างเส้นทางรถไฟเพิ่มขึ้น เพราะขนส่งทางรถไฟได้จำนวนมาก มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า ต่อไปนี้เส้นทางรถไฟจะเชื่อมโยงระหว่างไทย-กัมพูชาไปถึงเวียดนาม และจีน ส่วนประเทศไทยก็ไปได้ถึงมาเลเซีย-สิงคโปร์ จะได้ครบรอบวง
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ใช้พื้นที่ในกัมพูชา หลอกลวงคนไทยนั้น ทางนายกฯ กัมพูชา ช่วยเรื่องการจับกุมอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ต้องกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงกสทช. แก้ไขเรื่องดังกล่าวต่อไป
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่านอกจากนี้ยังได้หารือทวิภาคีกับ ตัน ศรี ดาโต๊ะ โจฮารี บิน อับดุล ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย โดยฝ่ายไทย ขอให้มาเลเซีย อำนวยความสะดวกในการออกวีซ่า และใบอนุญาตทำงานให้กับคนไทยหรือต่างชาติ ที่ไปทำงานเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารไทย จะได้อยู่แบบไม่ผิดกฎหมาย และไม่ใช่การแย่งงานคนมาเลเซีย เพราะคนที่นั่นไม่ทำ ก็เหมือนคนไทยที่ไม่อยากทำงานบางอย่าง ซึ่งมาเลเซียก็รับว่าจะคุยกับรัฐมนตรีมหาดไทย เพราะอาจต้องแก้ไขกฎหมายบางประการ
"มาเลเซีย อยากให้ไทยแบ่งปันความรู้ด้านความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางการเกษตร และพร้อมให้การสนับสนุนโครงการแลนบริจด์ของไทย หรือ การขุดคอคอกระ เพราะมาเลเซียก็จะได้ผลประโยชน์ไปด้วย หลังจากนี้ทั้งสองประเทศ จะไปจัดทำรายละเอียด เพื่อคุยกันอีกครั้งในการประชุมรัฐสภาอาเซียนครั้งที่ 46 ซึ่งมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม" นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
ประธานรัฐสภา กล่าวต่อว่าส่วนปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รอบนี้ไม่ได้คุยกับมาเลเซีย เนื่องจากมีเวลาจำกัด โอกาสหน้าคงได้หารือกันอีก อย่างไรก็ดีในการคุยสันติสุขที่ไม่คืบหน้านั้น ตนมองว่าต้องคุยกันบ่อยๆ พร้อมหาข้อยุติที่เป็นความก้าวหน้า เช่น การหาพื้นที่ที่จะประกัน การไม่เกิดเหตุด้วยกันทั้งสองฝ่าย หรือพื้นที่ปลอดภัย ถ้าทำได้จะเกิดการลงทุน นักท่องเที่ยวมาเที่ยว เศรษฐกิจดี ความเดือดร้อนประชาชนก็ลดลงไป
“จริงๆ ก็เคยมีพื้นที่กำหนดจังหวัดละ 1 อำเภอ ซึ่งเหตุการณ์ไม่เกิดขึ้น หรือถ้าเกิดก็น้อยมาก แต่พอจะขยายจาก 1 อำเภอ เป็น 2 หรือ 3 อำเภอ ก็ติดขัด ยังไม่ลงตัว แต่ก็อยากให้ขยายครั้งละ 2-3 อำเภอต่อไปจะได้ครบ เมื่อมีพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ความเห็นต่างทางการเมือง การกระจายอำนาจการปกครอง ก็ต้องใช้เวลาคุยกัน แต่ถ้าไม่มีพื้นที่ปลอดภัยเรื่องอื่นก็คุยกันยาก” ประธานรัฐสภา กล่าว
สำหรับ สส. และ สว. ในฐานะสมาชิกรัฐสภาไทย ต่างแยกย้ายไปร่วมประชุมคณะกรรธิการด้านต่างๆ อาทิ กรรมาธิการด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านกิจการสมัชชารัฐสภาอาเซียน และการประชุมยุวชนสมาชิกรัฐสภาอาเซียน
โดย นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการด้านการเมือง ว่า ตนได้หารือในเรื่องความไม่สงบในเมียนมา ที่จำเป็นต้องร่วมกันหาแนวทางแก้ไขผ่านกลไกของอาเซียน เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลง นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีการหารือแนวทางแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนก็ยังประสบปัญหาอยู่เช่นกัน รวมถึงพิจารณาร่างข้อมติว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือของรัฐสภาในการสนับสนุนความเท่าเทียมทางดิจิทัล ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ประชาชน.