ผ่าธุรกิจ-รู้จัก ‘กฤษอนงค์’ จาก ‘นักขายตรง’ สู่ ‘นักร้อง-นักการเมือง’

ผ่าธุรกิจ-รู้จัก ‘กฤษอนงค์’ จาก ‘นักขายตรง’ สู่ ‘นักร้อง-นักการเมือง’

ผ่าธุรกิจ 3 แห่ง ทำความรู้จัก ‘กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์’ จากอดีตนักธุรกิจขายตรง สู่นักการเมืองหัวหน้าพรรคสุวรรณภูมิ เปิดแฟนเพจให้ความรู้-ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ รับเรื่องร้องเรียนผู้เสียหาย ก่อนประเด็น ‘บอสพอล ดิไอคอนกรุ๊ป’

เป็นอีกตัวละครใหม่ในคดีฉาว “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” สำหรับ “กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” สวมหมวกทางการเมืองเป็นหัวหน้าพรรคสุวรรณภูมิ ส่วนหมวกอีกใบคือนักเคลื่อนไหวต่อต้านธุรกิจแชร์ลูกโซ่ และเจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ “กฤษอนงค์ต้านโกง” 
    
โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา “กฤษอนงค์” ออกมาเคลื่อนไหวอยู่ข้าง “ผู้เสียหาย” ในคดี “ดิไอคอนกรุ๊ป” ถึงขนาดเคยไปแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านรายการชื่อดังช่องน้อยสีมาแล้ว อย่างไรก็ดีถัดจากนั้นไม่นาน มีการปล่อยข่าวมาว่า นักร้องเรียนหญิงรายหนึ่งอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแชร์ ตบทรัพย์จาก ดิไอคอนกรุ๊ป 10 ล้านบาท

ประเด็นดังกล่าวทำให้มีการเชื่อมโยงไปยังนักร้องเรียนหญิงหลายคน ซึ่งทั้งหมดต่างออกมาปฏิเสธ เช่นเดียวกับ “กฤษอนงค์” ที่ให้สัมภาษณ์เปิดเผยผ่านรายการชื่อดังหลายแห่ง ปฏิเสธข้อเท็จจริงเรื่องนี้เช่นกัน แต่ยอมรับว่า เคยรู้จักกับ “บอสพอลวรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของอาณาจักร “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” มานานจริง เนื่องจากเคยเป็นคนวงการเดียวกัน แต่ไม่ได้สนิทสนมกัน นอกจากนี้เธอยังยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับการตลาดแบบตรงจริง แต่เลิกกิจการมานานมากแล้ว

“กฤษอนงค์” ยังยอมรับว่า มีกลุ่มผู้เสียหายมาร้องเรียนตนจริงในประเด็น “ดิไอคอนกรุ๊ป” แต่ยืนยันว่า ไม่เคยเรียกรับเงิน 10 ล้านบาทอย่างแน่นอน พร้อมท้าให้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน หรือเปิดหลักฐานมาได้เลย เพราะที่ผ่านมามีแค่กรณี “บอสพอล” โทรมาเคลียร์เท่านั้น ซึ่งตนแนะนำให้โทรไปเคลียร์กับผู้เสียหายแทน

สำหรับประวัติส่วนตัว “กฤษอนงค์” ชื่อเล่นว่า “พัช” ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ 2 เม.ย. 2566 นอกจากนี้ยังเป็นประธานอำนวยการ ศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ พร้อมกับเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ “กฤษอนงค์ต้านโกง/กฤษอนงค์online/ศคอ.ศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์” โดยเป็นแฟนเพจให้ความรู้คำแนะนำรับเรื่องราวร้องทุกข์ประสานงานหน่วยงานภาครัฐ และภาคีเครือข่ายบูรณาการ

ในมุมธุรกิจ พบว่า “กฤษอนงค์” เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ 2 แห่ง

สำหรับ “ธุรกิจการตลาดแบบตรง” พบว่า “กฤษอนงค์” เคยเป็นกรรมการบริษัท เพาเวอร์ พลัส อินเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ทำธุรกิจ ขายตรงและธุรกิจตลาดแบบตรง ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง แต่ปัจจุบันถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่า “ร้าง” ไปแล้ว

โดยบริษัทแห่งนี้จดทะเบียนเมื่อ 11 ก.ย. 2557 ขึ้นสถานะว่า “ร้าง” เมื่อ 6 ก.พ. 2566 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 244/35 ซอยวิภาวดีรังสิต 43 แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ปรากฏชื่อกรรมการ 2 คน คือ นางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ นายณธกฤษ ชูพานิช

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 20 ธ.ค. 2559 กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ถือหุ้นใหญ่สุด 50% ณธกฤษ ชูพานิช ถือ 40% และศกนรัตน์ ชูจิตร ถือ 10%

นำส่งงบการเงินครั้งล่าสุดเมื่อปี 2559 มีสินทรัพย์รวม 1,051,586 บาท หนี้สินรวม 8,000 บาท มีรายได้รวม 29,700 บาท รายจ่ายรวม 8,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 21,699 บาท

ส่วนธุรกิจอีก 2 แห่งที่ “กฤษอนงค์” ยังดำเนินการอยู่ ได้แก่

  • บริษัท จัดคิวดอทคอม จำกัด

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2563 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 55/6 หมู่ที่ 11 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานีวัตถุประสงค์ ประกอบกิจการให้บริการจัดคิวผู้มาใช้บริการเกี่ยวกับส่วนงายราชการ นางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ นางสาวกันทิมา โสภกุล เป็นกรรมการ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 15 พ.ค. 2563 กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ถือหุ้น 45% กันทิมา โสภกุล ถือหุ้น 45% สิริรัชช์กร อริยธนันกร ถือหุ้น 10%

ยังไม่แจ้งข้อมูลงบการเงิน

  • บริษัท สุวรรณภูมิ 159 จำกัด

จดทะเบียนเมื่อ 1 มิ.ย. 2559 ทุนปัจจุบัน 2 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 69/486 หมู่ที่ 6 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี วัตถุประสงค์ ให้คำปรึกษาแนะนำด้านการตลาดและการจัดจำหน่าย มี ฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 17 ก.ค. 2567 กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ถือหุ้นใหญ่สุด 85.995% สิริรัชช์กร อริยธนันกร ถือ 14% อัมพร บุญรัตนานันท์ ถือ 0.005%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 688,367 บาท หนี้สินรวม 10,000 บาท มีรายได้รวม 255,037 บาท รายจ่ายรวม 355,667 บาท ขาดทุนสุทธิ 100,630 บาท

ทั้งหมดคือข้อมูลเกี่ยวกับ “กฤษอนงค์” หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านแชร์ลูกโซ่ อีกหนึ่งตัวละครล่าสุดในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี ณ ขณะนี้เธอมิได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา หรือถูกแจ้งความร้องทุกข์ในคดีเกี่ยวกับ “ดิไอคอนกรุ๊ป” แต่อย่างใด