'พริษฐ์' กังขา กกต.เคาะเลือกตั้งนายก อบจ.เป็นวันเสาร์ 1 ก.พ. วอนทบทวนด่วน
'ไอติม พริษฐ์' กังขา กกต.เคาะแผนวันเลือกตั้งนายก อบจ.เป็นวันเสาร์ 1 ก.พ. ไม่ใช่วันอาทิตย์ หวั่นประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลำบาก ชี้เรื่องเร่งด่วน วอนทบทวน ก่อน กมธ.พัฒนาการเมืองฯ นัดเข้าพบ 28 พ.ย.
เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2567 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และ ส.อบจ. เป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2568 ว่า เป็นเรื่องน่ากังวลที่ กกต. มีมติเห็นชอบวันเลือกตั้ง อบจ. เป็นวันเสาร์ 2 ประการ คือ คนส่วนมากทำงานวันเสาร์ และวันอาทิตย์ลางานไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง สำหรับผู้ที่ทำงานวันจันทร์ถึงวันศุกร์ แต่ไม่ได้อยู่ในภูมิลำเนา หากวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ เวลาเดินทางก็จะถูกบีบให้แคบลง นอกจากนี้ ยังไม่เห็นเหตุผลชี้แจงว่า ทำไม กกต. ถึงเลือกวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ เพราะจากสถิติของทุกการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 จะเป็นวันอาทิตย์ทั้งหมด จึงอยากให้ กกต. ทบทวน และเปลี่ยนวันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ เพื่อความสะดวกให้กับประชาชนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
เมื่อถามว่า ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร จะมีการเชิญให้ กกต. มาชี้แจงกรณีดังกล่าวหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากรรมาธิการของเราต้องการให้ กกต. มาชี้แจง นับไม่ถูกว่ากี่เดือนกว่าที่ กกต. จะตอบรับคำเชิญ และล่าสุด กกต. ได้ออกหนังสือว่า หากจะต้องเชิญให้เชิญมาชี้แจง ควรแจ้งก่อน 1 เดือนล่วงหน้า กรรมาธิการของเราจึงได้ทำหนังสือขอเข้าพบ กกต. ในช่วงปิดสมัยประชุม ก่อนได้คำตอบรับว่า ให้เข้าพบในวันที่ 28 พ.ย.นี้ จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าเป็นวันที่ 7 พ.ย.
“เรามีนัดเข้าพบกับ กกต. และจะนำทุกประเด็นเข้าหารือ แต่ในเรื่องนี้มีความจำเป็นเร่งด่วน จึงหวังว่า กกต. จะทบทวนการตัดสินใจ ก่อนวันที่ 28 พ.ย.นี้” นายพริษฐ์ กล่าว
สำหรับข้อสังเกตกรณีที่ นายก อบจ. ทยอยลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ จะเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การลาออกก่อนครบเป็นการเพิ่มงบประมาณให้สูงขึ้น ที่ผ่านมากรรมาธิการพยายามศึกษากฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นในหลายประเด็น รวมถึงเรื่องนี้ พบว่าทางออกที่พอเป็นไปได้ คือให้วาระของนายก อบจ. และ ส.อบจ. ทุกจังหวัดเกิดขึ้นพร้อมกันทุก 4 ปี หากมีฝ่ายบริหารลาออกก่อน เช่น นายก อบจ. ก็ให้รองนายก อบจ. มาทำหน้าที่แทน
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า หากเป็นแบบนี้ จะได้ประโยชน์หลายเท่า คือประชาชนจะมีความสะดวกมากขึ้นในการออกมาใช้สิทธิ เพราะทุกจังหวัดเลือกตั้งวันเดียวกัน ได้เลือกตั้งนายก อบจ. กับ ส.อบจ. พร้อมกัน และเป็นประโยชน์ต่อผู้จัดการเลือกตั้งที่สามารถประหยัดงบประมาณ รวมถึงประโยชน์ต่อสื่อมวลชน เพราะการรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นจะง่ายขึ้น หากวันเลือกตั้งเป็นวันเดียวกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ ก็จะง่ายขึ้นกับการวางแผนทำงาน