'อนุทิน' ลุยเกาะกูด ลั่นเป็นดินแดนไทยทุกตารางนิ้ว พร้อมหนุนท่องเที่ยว
'อนุทิน' ควง 'ซาบีดา' พร้อมคณะผู้บริหารมหาดไทย ลงพื้นที่ 'เกาะกูด' ให้กำลังใจประชาชน-ผู้ประกอบการ ย้ำเป็นดินแดนของไทยทุกตารางนิ้ว ลั่นภาครัฐพร้อมหนุนท่องเที่ยว เสริมแกร่งเศรษฐกิจ เร่งแก้ไขสาธารณูปโภค น้ำ-ไฟฟ้า-พิสูจน์สิทธิ์ที่ดินทำกิน
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่เกาะกูด จ.ตราด น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อม น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นำผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด เพื่อให้กำลังใจ สร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องคนไทย และนักท่องเที่ยว ภายหลังจากการเผยแพร่ข่าวจนก่อให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวดินแดนบริเวณเกาะกูด จนอาจกระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ความเชื่อมั่นต่อผู้ประกอบการและภาคการท่องเที่ยว ซึ่งการลงพื้นที่ของนายอนุทินและคณะครั้งนี้ ได้มอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ พร้อมกับรับฟังปัญหาประชาชนในมิติต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การแก้ไข
นายอนุทิน กล่าวว่า กรณีที่พี่น้องประชาชนได้มีความกังวลใจในว่าจะมีข้อพิพาทเกี่ยวกับเกาะกูดนั้น ขอยืนยันว่าเกาะกูดเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยมานานนับร้อยปีแล้ว มีสถานะเป็นอำเภอ และเป็นอำเภอที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ตนจึงขอทำความเข้าใจให้ทุกท่านได้รับทราบว่าจะไม่มีใครเอาเกาะกูดไปเป็นของประเทศอื่นแม้แต่ตารางนิ้วเดียว และเกาะกูดนั้นสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องแลก Passport หรือขอหนังสือเดินทางใด ๆ เพราะเป็นแผ่นดินไทย
"ในเรื่อง MOU ข้อตกลงที่จัดทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2544 ก็ขอทำความเข้าใจว่า MOU นี้มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการหารือร่วมกันระหว่างคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค ของทั้งสองประเทศ ว่าจะมีแนวทางในการร่วมกันพัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียมใต้ทะเลอย่างไร และจะแบ่งเขตทะเล เขตเศรษฐกิจจำเพาะอย่างไรให้เป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งในเนื้อหานี้ไม่ได้มีการพูดถึงการแบ่งเขตผืนแผ่นดินไทย และรวมไปถึงเกาะกูดแต่อย่างใด" ดังนั้นข่าวลือที่กำลังมีประเด็นข้อพิพาทเกาะกูด ตนขอยืนยันอีกครั้งว่า เกาะกูดยังเที่ยวได้ตามปกติ และมีความสวยงามน่าอยู่เช่นเดิม และตนพร้อมสนับสนุนจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ดำเนินการตามธรรมนูญของเกาะกูดในการดูแลความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ น้ำทะเลที่ใส ดูแลความสะอาดของพื้นที่แห่งนี้ให้ดีที่สุด โดยไม่ให้มีขยะแม้แต่ชิ้นเดียว เพื่อให้เป็นดินแดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยว" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่วันนี้ ยังได้ทราบในเรื่องปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคที่ไม่เพียงพอของคนในพื้นที่ และปัญหาความไม่ชัดเจนการพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินทำกินบนเกาะกูด กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่รับผิดชอบจะได้รับประเด็นปัญหาไปดำเนินการ พัฒนาพื้นที่ให้ทุกคนได้มีน้ำสะอาดใช้ครบทุกครัวเรือน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก และมีที่ดินทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้เร็วที่สุดด้วย
ส่วนนายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า จ.ตราด เป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย ซึ่งมีทรัพยากรทางธรรมชาติ เช่น เกาะกูดที่งดงามและดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมตลอดทั้งปี ซึ่งทางจังหวัดตราดก็ได้ติดตามผลกระทบที่เกิดจากกระแสข่าวในช่วงที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิด และยังคงขับเคลื่อนการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ตลอดจนจัดงานกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง
นายไพรัช สร้อยแสง นายอำเภอเกาะกูด กล่าวว่า อำเภอเกาะกูด ได้มีการนำนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทั้ง 5 ข้อ มาบูรณาการกับส่วนราชการต่าง ๆ ถือปฏิบัติอย่างเต็มความสามารถส่งผลให้อำเภอเกาะกูดมีความปลอดภัยในระดับสูง โดยหลังจากนี้จะได้นำข้อสั่งการของ รมว.มท. ไปปฏิบัติเพื่อดูแลเกาะกูดให้น่าอยู่ และดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างเข้มข้น
น.ส.ไตรศุลี กล่าวด้วยว่า การลงพื้นครั้งนี้ ได้มีผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมในคณะ อาทิ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมีนายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายไพรัช สร้อยแสง นายอำเภอเกาะกูด หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดตราด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ข้อมูลในพื้นที่