ประกาศิต ‘ผู้ช่วยหาเสียง’ รัฐขยับตาม ‘ทักษิณ’

ประกาศิต ‘ผู้ช่วยหาเสียง’  รัฐขยับตาม ‘ทักษิณ’

คำปราศรัยของ “ทักษิณ” ที่เปรียบดั่งประกาศิตให้ “รัฐมนตรี” ใน “รัฐบาลแพทองธาร” เร่งดำเนินการ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ก่อนต่อยอดมาเป็นคะแนนเสียงให้กับ “พรรคเพื่อไทย”

KEY

POINTS

  • แปลกแต่จริง!!! ที่ผู้ช่วยหาเสียงชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ปราศรัยหาเสียง แต่กลับมีพลังให้ “รัฐบาล-รัฐมนตรี” เร่งขับเคลื่อนนโยบายทันควัน
  • นโยบายแจกเงิน 10,000 เฟสสอง ถูกผลักดันทันที นโยบายปราบปรามยาเสพติด มีบรรดา สส. รับหน้าขับเคลื่อนต่อในพื้นที่
  • คำปราศรัยของ “ทักษิณ” ที่เปรียบดั่งประกาศิตให้ “รัฐมนตรี” ใน “รัฐบาลแพทองธาร” เร่งดำเนินการ

แปลกแต่จริง!!! ที่ผู้ช่วยหาเสียงชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ปราศรัยหาเสียงเชียร์ “ศราวุธ เพชรพนมพร” ผู้สมัครนายก อบจ. อุดรธานี จากพรรคเพื่อไทย แต่กลับมีพลังให้ “รัฐบาล-รัฐมนตรี” เร่งขับเคลื่อนนโยบายทันควัน

นั่นเพราะ “ทักษิณ” ในฐานะ “พ่อนายกฯ” คอยคอนโทรลพรรคเพื่อไทยอยู่ฉากหลัง ทั้งการเลือกคนเข้าดำรงตำแหน่งต่างๆ การวางนโยบาย การเลือกผู้สมัครเลือกตั้งระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น ต่างผ่านหูผ่านตา “นายใหญ่” แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า

การปราศรัยที่วัดศรีนคราราม ต.กุมภวาปี อ.กุมภาวปี จ.อุดรธานี นอกจากจะแนะนำตัว “ศราวุธ” ให้กับชาวอุดรธานีเลือกใช้บริการแล้ว “ทักษิณ” ยังฉายภาพนโยบาย “รัฐบาลแพทองธาร” ที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนด้วย

โฟกัสไปที่นโยบายแจกเงิน 10,000 เฟสสอง โดยจะแจกให้กับประชาชนอายุเกิน 60 ปี หลังเฟสแรกแจกให้กับกลุ่มเปราะบางไปแล้ว ซึ่งสามารถกระตุ้นความนิยมของ “แพทองธาร-พรรคเพื่อไทย” มาได้พอสมควร

จากนั้น “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯ รมว.คลัง ออกมารับลูกทันที โดยระบุว่า “หลังจากนั้นเรามาดูอีกกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนไม่เยอะ และไม่ได้อยู่ในกลุ่มเปราะบาง แต่มีปัญหาสภาพคล่อง ดังนั้นเราจะคัดคนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน

นโยบายหวย โฟกัสที่สลากออมทรัพย์เพื่อการเกษียณ หรือ หวยเกษียณ นั้น กระทรวงการคลังได้ทบทวนการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ แล้วเสร็จ และได้ทำการส่งเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงนำความเห็นและข้อเสนอแนะภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (บอร์ด กอช.) ในวันที่ 11 พ.ย.2567 ที่จะรวมไปเสนอในที่ประชุมครม.ภายในเดือนพ.ย. จากนั้นจะเป็นไปตามกระบวนการของสภาผู้แทนราษฎร โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายหวยเกษียณได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2568

โดย กอช. มีการปรับเกณฑ์หวยเกษียณโดยการขยายอายุผู้ซื้อจากเดิมจำกัดอายุไว้ที่ 16-60 ปี ปัจจุบันขยายโอกาสให้ผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี สามารถซื้อหวยเกษียณได้ โดยไม่จำกัดอายุสูงสุด

ทั้งนี้ นโยบายหวยเกษียณ เป็นอีกหนึ่งกลไกสร้างแรงจูงใจในการออม โดยรัฐช่วยใส่เงินสมทบในการออกรางวัล โดยไม่ว่าผู้ซื้อจะถูกรางวัล หรือไม่ถูกรางวัล เงินที่ซื้อสลากทุกบาท จะถูกเก็บไว้เป็ยเงินออมสะสมในบัญชี กอช. และจะสามารถถอนออกมาใช้ได้เมื่ออายุ 60 ปี เพื่อการออมทรัพย์รองรับการเกษียณ แต่หากถูกรางวัลสามารถถอนรางวัลออกได้ทันที

นโยบายแก้หนี้ครัวเรือน เน้นช่วยเหลือ กลุ่มเปราะบาง ทั้งรายย่อย และเอสเอ็มอีรายเล็ก ซึ่งจะให้พักชำระดอกเบี้ยยาว 3 ปี และปรับการผ่อนเงินต้นยาวขึ้น และเหลือครึ่งเดียว จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นปี 2568 เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

โดยกลุ่มที่เข้าเกณฑ์การช่วยเหลือครั้งนี้ คือกลุ่มสินเชื่อรายย่อย ต้องค้างชำระหนี้ และเป็นหนี้เสียไม่เกิน 1 ปี ก่อน 31 ต.ค. 2567 โดยกำหนดการช่วยเหลือสำหรับลูกหนี้บ้าน วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน ส่วนสินเชื่อรถยนต์ วงเงินไม่เกิน 7 แสนบาท ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีต้องมีวงเงินสินเชื่อค้างชำระไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อสถาบันการเงิน

นโยบายปราบปรามยาเสพติด “ทักษิณ” ประกาศชัด “เกลียดพ่อค้าขายยา” หากยังจำกัดได้ในช่วงรัฐบาลทักษิณ มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างหนักหน่วง จนเกิดการ “ฆ่าตัดตินพ่อค้ายา” จำนวนมาก เพื่อไม่ให้สาวถึง “บิ๊กบอสตัวจริง” ในหลายพื้นที่

อย่างไรก็ตามข้อมูลจาก สส. อีสาน เสิร์ฟถึงมือ “ทักษิณ” รับรู้ตรงกันว่า จำนวน “ผู้ยาเสพ” ยาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสานเพิ่มขึ้นมาก และทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” จึงต้องเอาจริงเอาจัง

ย้อนดูตัวเลขาเกี่ยวกับยาเสพติด ปี 2562 ยาเสพติดมี 363,769 คดี ผู้ต้องหา 385,771 คน ผู้เข้าบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติด 229,680 ราย ผู้ผ่านการบำบัดที่ได้รับการติดตาม 182,885 ราย

ปี 2563 ยาเสพติดมี 323,903 คดี ผู้ต้องหา 337,399 คน ผู้เข้าบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติด 190,395 ราย ผู้ผ่านการบำบัดที่ได้รับการติดตาม 193,003 ราย

ปี 2564 ยาเสพติดมี 336,582 คดี ผู้ต้องหา 349,511 คน ผู้เข้าบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติด 168,569 ราย ผู้ผ่านการบำบัดที่ได้รับการติดตาม 154,051 ราย

ปี 2565 ยาเสพติดมี 258,190 คดี ผู้ต้องหา 265,728 คน ผู้เข้าบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติด 130,560ราย ผู้ผ่านการบำบัดที่ได้รับการติดตาม 103,553 ราย

ตัวเลข “ผู้ต้องหา-ผู้เสพ” ยาเสพติด เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งปัญหาดังกล่าวฝังรากลึกในพื้นที่ ดังนั้นจึงเป็นบทพิสูจน์ของ “รัฐบาลแพทองธาร” ร่างเงาของ “ทักษิณ” จะใช้นโยบายยาแรงระดับใดในการกวาดล้างยาเสพติด

นโยบายหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ โอท็อป "ทักษิณ" ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์เอามาดู สงสัยต้องปรับปรุงครั้งใหญ่ หากโอท็อปได้รับการปรับปรุงเหมือนสมัยที่ตนอยู่ แต่เอาเรื่องสมัยใหม่เข้ามาไว้คงจะขายได้เยอะ อยากทำให้พี่น้องมีรายได้เพิ่มขึ้น

"ผมใช้เงินส่วนตัว 300 ล้านบาทจ้างชาวต่างชาติ ปรับปรุงโอท็อปครั้งใหญ่ อีกไม่นานเขาจะเปิดตัวว่าจะต้องรื้อไปทำอะไร และเพื่อปรับปรุงโอท็อปไปขายทั่วโลก แล้วจะมาเสนอนายกฯอิ๊งค์ โดยที่ไม่เก็บเงิน เพราะผมจ่ายเงินไปแล้ว"

"ทักษิณ" เชื่อว่ากลางปีหน้าพี่น้องประชาชนจะเห็นแสงสว่าง ปลายปีจะเห็นเศรษฐกิจที่คึกคักมาก

ทั้งหมดคือนโยบายจากคำปราศรัยของ “ทักษิณ” ที่เปรียบดั่งประกาศิตให้ “รัฐมนตรี” ใน “รัฐบาลแพทองธาร” เร่งดำเนินการ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ก่อนต่อยอดมาเป็นคะแนนเสียงให้กับ “พรรคเพื่อไทย”