'รัฐสภา' พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม รัฐสภาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ธ.ค.นี้

'รัฐสภา' พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม รัฐสภาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ธ.ค.นี้

"รัฐสภา" พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม รัฐสภาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกว่าด้วยความมั่นคงด้านสุขภาพระดับโลก 2-3 ธ.ค.นี้ รองรับ 40 ประเทศ ด้าน "วันนอร์"ลั่น ไทยจะกลายเป็นฮับด้านสุขภาพ หลังคุมโควิดอยู่ 

ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา พร้อมด้วย สมาชิกรัฐสภา ร่วมกันแถลงข่าวประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐสภาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ว่าด้วยความมั่นคงด้านสุขภาพระดับโลก ซึ่งรัฐสภาไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับสหภาพรัฐสภา (IPU) และองค์การอนามัยโลก (WHO) วันที่ 2-3 ธ.ค. 67 ที่ โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน

โดยนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ในโอกาสที่ประเทศไทยและรัฐสภาได้รับความไว้วางใจและได้รับเกียรติจากรัฐสภาโลกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมว่าด้วยความมั่นคงด้านสุขภาพ ในระดับเอเชียแปซิฟิกที่มีประเทศต่างๆเข้าร่วมประชุม 40 กว่าประเทศ นับว่าเป็นเกียรติสำหรับประเทศไทยและรัฐสภาไทยโดยเฉพาะวงการสาธารณสุขของประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่มีการบริการทางด้านสาธารณสุขในระดับชั้นนำของโลก ไม่เกินลำดับ 5 ของโลก รัฐบาลไทยมีนโยบายอย่างชัดเจน ที่เป็นฮับเกี่ยวกับสาธารณสุขของโลกนอกจากฮับทางด้านการท่องเที่ยว และฮับทางด้านวัฒนธรรม 

ประธานรัฐสภา กล่าวต่อว่า การที่ไทยได้รับมอบหมายให้จัดประชุมครั้งนี้เพราะเห็นว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมานั้นประเทศไทยคือเป็นประเทศที่มีการจัดการป้องกัน การแพร่ระบาดหรือชะลอการแพร่ระบาดได้อย่างดีที่สุด และยังมีระบบสาธารณสุขของไทยที่จะเป็นตัวอย่างให้กับประเทศอื่น เช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เครือข่ายสาธารณสุขที่มีทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ อย่าง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)  ดังนั้นการประชุมดังกล่าวจะสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขภาพ นอกจากนนี้รัฐสภาจะช่วยออกกฎหมายที่เกี่ยวกับสุขภาพของประชาชน สนับสนุนในด้านงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อดูแลประชาชน

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้จะมีการการพาคณะที่เข้าร่วมประชุมไปศึกษาดูงานที่ศูนย์การแพทย์และฟื้นฟูบึงยี่โถ จ.ปทุมธานี และ BDMS wellness clinic รวมทั้งพาผู็เข้าร่วมประชุมล่องเรือพระน้ำเจ้าพระยา ชมสถานที่ท่องเที่ยวในวันสุดท้ายของการประชุม ซึ่งการประชุมครั้งนี้เราจะได้ประโยชน์จากการประชาสัมพันธ์หลายอย่าง ทั้งด้านการรักษาสุขภาพ ด้านการท่องเที่ยวด้วย

ด้านนายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการ เรื่องการแพทย์และความปลอดภัยในการประชุม กล่าวถึงความพร้อมและการรักษาความปลอดภัยในการจัดการประชุม ว่า ได้หารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ที่จะต้องเป็นไปในระดับสากล และการจราจรไปในที่ต่างๆ จะต้องสมเกียรติ และต้องไม่กระทบกับการสัญจรไปมาของประชาชน รวมทั้งจะต้องใช้งบประมาณเป็นไปอย่างประหยัดคุ้มค่า 

ขณะที่ นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สว. ในฐานะอนุกรรมการด้านเนื้อหาสารัตถะ ของการประชุม กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของการประชุมดังกล่าว คือการแลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือของรัฐสภา ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ในการระบาดใหญ่ของโรคในอนาคต และความมั่นคงด้านสุขภาพในระดับภูมิภาค