สส.ปชน.กังขารัฐบาล ซื้อไฟโซลาร์กลุ่มทุนเพิ่ม ไร้ประมูล-เสี่ยงล็อคโควตา

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2567 นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ตั้งคำถามถึงการรับซื้อไฟฟ้าของรัฐบาล โดยระบุว่า โซลาร์บนหลังคาประชาชน 90MW เต็มแล้ว รัฐบาลไม่ยอมรับซื้อเพิ่ม แต่ของนายทุนรัฐบาลกลับซื้อไฟฟ้าเพิ่มไม่หยุดอีก 2,600MW รู้หรือไม่ ตั้งแต่ปี 65 ถ้าประชาชนติดโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านตัวเอง (Solar Rooftop) นอกจากจะช่วยลดค่าไฟและช่วยลดสภาวะโลกร้อนแล้ว ยังสามารถขายไฟคืนให้รัฐได้ ถ้าวันไหนใช้ไฟที่ผลิตบนหลังคาไม่หมด หรือไม่ได้อยู่บ้านก็ขายคืนไฟฟ้าเป็นรายได้ก็ได้ เรียกว่า โครงการโซล่าร์ประชาชน แต่รัฐบาลที่แล้วอนุมัติปริมาณรับซื้อไฟฟ้าจากหลังคาประชาชนเพียงแค่ 90 MW และมีประชาชนเข้าร่วมโครงการครบแล้ว 90 MW ตั้งแต่ มิ.ย.67 เพราะด้วยค่าไฟที่แพงขึ้น คนจึงอยากจะติดโซลาร์บนหลังคาบ้านตัวเองมากขึ้น

นายวรภพ ระบุว่า แต่รัฐบาลภายใต้การนำพรรคเพื่อไทย แทนที่จะขยายโควต้ารับซื้อไฟฟ้าบนหลังคาประชาชนเพิ่ม์ กลับขยายรับซื้อไฟฟ้าจากนายทุนเพิ่มแทน เพราะ รัฐบาล พึ่งประกาศรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) เพิ่มขึ้นถึง 2,600 MW ! เมื่อเดือน ก.ย. 67 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 MW ถึงแม้ว่าราคารับซื้อไฟฟ้าจาก Solar Rooftop บนหลังคาประชาชน และ Solar Farm ของนายทุน จะราคาเท่ากัน คือ 2.2 บาท/หน่วย แต่ขนาดกำลังการผลิตนั้นแต่ต่างกันมาก คือ Solar Rooftop ต้องมีขนาดไม่เกิน 10 KW (0.01 MW) ในขณะที่ Solar Farm มีขนาดใหญ่สุดได้ถึง 90 MW! ระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า Solar Rooftop เพียงแค่ 10 ปี แต่ Solar Farm มีระยะเวลารับซื้อถึง 25 ปี

นายวรภพ ระบุอีกว่า ต้องอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า การรับซื้อไฟฟ้า Solar Farm จากนายทุน 2,600 MW นั้น ที่จริงเป็นการรับซื้อเพิ่มเติมจากเมื่อ ปี 65 ที่รับซื้อเพิ่มไปแล้วถึง 3,400 MW (โครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 5,200 MW เมื่อปี 65) ชวนพี่น้องตั้งคำถามถึง รัฐบาล และ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า ทำไมถึงไม่ขยายรับซื้อไฟฟ้าบนหลังคาประชาชนเพิ่ม แต่กลับไปรับซื้อไฟฟ้าจากนายทุนเพิ่มแทน เพราะสำหรับพรรคประชาชน เราสนับสนุนให้ขยายการรับซื้อไฟฟ้าบนหลังคาประชาชน แทนที่ การรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชน 3,600 MW ได้เลยด้วยซ้ำ

การรับซื้อไฟฟ้าจากนายทุน 3,600 MW นั้นก็ยังมีข้อพิรุธทุจริตเชิงนโยบายที่ยังไม่มีคำตอบจาก นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ 1. ไม่มีการประมูล 2. ไม่ประกาศหลักเกณฑ์คำนวนคะแนนคัดเลือก เปิดให้มีการใช้ดุลพินิจ สามารถล็อกผู้ชนะได้ 3. ล็อกโควตา ให้เอกชนที่ยื่นโครงการในปี 2565 ได้สิทธิก่อน

"ชวนกันติดตามว่า หลังจากครบ 1 เดือนแล้ว ที่ รัฐมนตรีพลังงาน ตอบกระทู้สด ไว้ว่าจะปรับปรุงให้มีการเปิดประมูล จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพราะการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลง มติ กพช. เท่านั้น ดังนั้นชวนกันติดตามว่า นายกฯ จะมีการนัดประชุม กพช. หลังจากกลับมาจากต่างประเทศเมื่อไหร่ หรือจะไม่ทำอะไรเลย และปล่อยให้กระบวนการรับซื้อไฟฟ้า 3,600 MW เดินหน้าและจะกลายเป็นค่าไฟแพงที่คนไทยจะต้องมาจ่ายโดยไม่จำเป็นไปตลอดอายุสัญญา 25 ปี" นายวรภพ ระบุ

ข้อมูล/ภาพจากเฟซบุ๊ก: วรภพ วิริยะโรจน์