'นิกร' ชงทางสายกลางประชามติ หวังเป็นทางออก หวั่น2สภายื้อ ดับฝันมี 'สสร.'

นายนิกร จำนง ฐานะเลขานุการกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่...) พ.ศ.... โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ระบุถึงการเสนอคำแปรญัตติต่อที่ประชุมกมธ.วันนี้ (20 พ.ย.) เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาเป็นทางสายกลาง หลังจากที่กมธ.ฝั่ง สส. และกมธ.ฝั่งสว. ยืนยันในความเห็นต่างของตนเองในหลักเกณฑ์การผ่านประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญว่า ข้อเสนอ คือ การแก้ไขมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ในการออกเสียงที่จะถืออว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ  ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง และมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งข้างมากของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น โดยเสียงข้างมากต้องสูงกว่าคะแนนเสียงไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่จัดทำประชามติ 

" นี่คือทางออกแบบทางสายกลาง โดยผมยังเพิ่มการเสนอแก้ร่างของวุฒิที่มีข้อบกพร่องในร่างของวุฒิสภาบางกรณีที่ลักลั่น  ทั้งนี้ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ให้สัญญากับตัวเองไว้หลังจากรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี40ถูกฉีกไปว่า จะพยายามช่วยกันผลักดันให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนขึ้นใหม่ให้ได้" นายนิกร ระบุ

นายนิกร ระบุด้วยว่า ขณะนี้เกิดความเห็นแย้งกันหนักระหว่างสองสภาในร่างพ.ร.บ.ประชามติ ที่เป็นกุญแจดอกสำคัญอันจะไขไปสู่รัฐธรรมนูญประชาชนฉบับใหม่ ซึ่งอาจนำไปสู่การหักกันและแขวนไปอีก180วัน ทั้งนี้ตนมองว่าเวลาการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่จะหายไป รวมถึง300 วัน

"เมื่อนับเวลาสภาชุดนี้ที่เหลืออยู่แล้วอย่าว่าแต่รัฐธรรมนูญใหม่เลย แม้แต่การมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ อาจจะไม่สำเร็จได้เช่นกันถ้าไม่ประคับประคองกันให้ดี ดังนั้นในโอกาสที่มีอยู่ของผมผมจะเสนอทางออกที่เป็นสายกลางเผื่อว่าจะนำไปสู่ทางออกได้บ้าง  แม้ความคาดหวังจะมีไม่มากนัก ถ้าไม่สำเร็จก็ค่อยลุกขึ้นทำใหม่ในโอกาสต่อไปครับ จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่เราคาดหวังกัน" นายนิกร ระบุ