‘น้ำ’ท่วมเมืองคอน หลอน‘ค่ายสีฟ้า’ เอฟเฟกต์เขย่าแดนสะตอ-ภท.รอรุก

ปรากฎการณ์ “น้ำท่วมเมือคอน” โดย “น้ำ” ที่ว่าไม่ได้หมายถึงภัยพิบัติ  แต่หมายถึง “น้ำ” วาริน ชิณวงศ์ กลุ่มนครเข้มแข็ง ว่าที่นายกอบจ.นครศรีธรรมราช ที่สร้างปรากฎการณ์ ล้มแชมป์เก่าอย่าง “ป้าต้อย” กนกพร เดชเดโช อดีตนายกอบจ. นครศรีธรรมราช และเป็นแม่ของ “ชัยชนะ เดชเดชโช” สส.นครศรีธรรมราช และเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ ตระกูลบ้านใหญ่ที่ผูกขาดสนามเมืองคอนมาอย่างยาวนาน

มีการวิเคราะห์ไปต่างๆนานา ถึงเหตุและปัจจัยความพ่ายแพ้ของ “บ้านใหญ่เมืองคอน”

ปัจจัยแรก มาจากการ  “โหวตสั่งสอน” พรรคประชาธิปัตย์ ที่พลิกขั้วไปร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

สะท้อนชัดจากคำให้สัมภาษณ์ของ “แทน ชัยชนะ” ที่ยอมรับว่า  มีประชาชนบางส่วนมีความรู้สึกต่อเรื่องนี้

ปัจจัยที่สอง กระแสโซเชียล ที่โหมกระพือประเด็นจุดเปลี่ยนเมืองคอน เห็นได้ชัดจากหลากหลายไวรัล โดยเฉพาะวรรคทองที่ “น้ำ วาริน” ใช้เป็นลูกอ้อนขอคะแนนวันสุดท้าย “เลือกน้ำไปทำแทน”

ปัจจัยที่สาม การเมืองรุมกินโต๊ะ อย่างที่รู้กันว่า สนามอบจ.รอบนี้ แม้ฝั่ง “กนกพร”จะสลายขั้วสีฟ้าด้วยการผนึกกำลังกับ “ชินวรณ์ บุญยเกียรติ” ซึ่งเป็นคู่แข่งในรอบที่แล้ว

ในส่วนของ “น้ำ วาริน” นอกจากได้แรงหนุนจากภูมิใจไทย ซึ่งมี “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เป็นแม่ทัพภาคใต้แล้ว ยังมีฐานเสียงจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะเป็น  “สส.ปุ้ย” พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช 4 สมัย อดีตรมว.อุตสาหกรรม ซึ่งมี “แรงแค้นฝังลึก” กับ“บ้านใหญ่เดชเดโช” เมื่อครั้งอยู่ภายใต้ชายคาสีฟ้า ที่เปิดหน้าสนับสนุนอย่างชัดเจน

ยังไม่นับกลุ่มนักการเมืองทั้ง อนันต์ ทองอุ่น อำนวย ยุติธรรม และสายัณห์ ยุติธรรม 2 พี่น้องอดีตผู้สมัคร สส.นครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ และสนั่น พิบูลย์ ก็มาช่วยน้ำตั้งแต่แรก

การล้มแชมป์ครั้งนี้ ย่อมทำให้สนามเมืองคอนกลายเป็นโจทย์สำคัญ ที่ทำให้  “บิ๊กสีฟ้า”ต้องต้องขบคิดอย่างหนัก จากเดิมหวังใช้โมเดล “บ้านใหญ่” สู้ “กระแส” เหมือนดังเช่นที่บางพรรคการเมืองเคยทำสำเร็จ ทำไปทำมาอาจไม่ได้ผล

เอฟเฟกต์จากสนามเมืองคอน แน่นอนว่า นาทีนี้ “คอการเมือง” แดนสะตอ กำลังจับตาไปที่สนามเลือกตั้งอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ 

โดยเฉพาะสนามเลือกตั้งสงขลา อีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์สำคัญของ “ค่ายสีฟ้า” และเป็นฐานที่มั่นของ “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา “นายกชาย” ออกมาปล่อยซีนชื่นมื่น สยบร้าวสลายขั้วสีฟ้า ในภาพมีทั้งนายกชาย ขนาบข้างด้วย "นิพนธ์ บุญญามณี"  อดีตรมช.มหาดไทย เปิดตัว "สุพิศ พิทักษ์ธรรม"อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรลงชิงนายกอบจ.สงขลา 

จากเดิมที่ “นิพนธ์” ฟอร์มทีม สจ.สงขลา หวังยึดคืนเก้าอี้นายกฯ แต่ด้วยปัญหาคุณสมบัติ ยังมีคดีที่รอเคลียร์ จึงใส่เกียร์ถอยในท้ายที่สุด 

ไม่ต่างไปจาก“ไพเจน มากสุวรรณ์” นายกอบจ.สงขลา คนปัจจุบัน ซึ่ง “บิ๊กสีฟ้า” ส่งสัญญาณเคลียร์จบ “นายกไพเจน”พร้อมถอย ไม่ลงชิงตำแหน่งในครั้งนี้ 

ทำให้ถูกจับตาว่า จากเดิมที่มีการเซ็ตทีม “รวมพลังร่วมสร้างสุข”  มีสมาชิกสภาอบจ. 27 คน หลังจาก“นายกไพเจน”ตัดสินใจถอย สมาชิกสภาอบจ.ทั้ง 27 คน จะมีทิศทางทางการเมืองต่อไปอย่างไร หลังจากนี้ 

ไม่กี่วันที่ผ่านมา “ไพเจน” ร่อนจดหมายเปิดผนึก ประกาศไม่ลงสมัคร นายกอบจ.สงขลา สมัย 2 เนื้อหาสาระระบุถึงเหตุผลว่า อยากเห็นชาวสงขลาทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

ตามรายงานข่าวจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า การตัดสินใจใส่เกียร์ถอยของ“ไพเจน” เกิดขึ้นหลังการเจรจากับ"เดชอิศม์"ภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อ และเพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณทั้งสองคนคือ "เดชอิศม์“ และ ”สุพิศ" ซึ่งได้ชักชวนเข้าสู่วงการเมือง รวมถึง"จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์"อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้การสนับสนุน จะได้จบกันไป ไม่ต้องมาทวงบุญคุณกันอีกต่อไป

วันก่อน “นายกชาย” โพสต์ภาพพร้อม“นายกไพเจน” พร้อมแคปชั่น "ไม่ว่าใครจะมองอย่างไรแต่เราเข้าใจกันเสมอ เปิดบ้านให้การต้อนรับนายกไพเจน มากสุวรรณ์ และภรรยา ร่วมรับประทานอาหารและพูดคุยกันอย่างมีความสุข  ผมและพี่ไพเจนพร้อมทำงานการเมืองร่วมกันเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไปครับ #นายกชาย #คบแล้วจะรักรู้จักแล้วจะชอบ"

ถึงนาทีนี้ ยังต้องลุ้นต่อว่า แม้ศึกชิงนายกอบจ.สงขลารอบนี้ “ค่ายสีฟ้า”ภายใต้การนำของ “เดชอิศม์” จะเคลียร์กลุ่มก๊วนในพรรคจบ แต่ด้วยบทเรียนในสนามเมืองคอน ก็ใช่ว่า “สุพิศ” จะวางใจได้อย่างสนิท

ยังมีการส่งสัญญาณเปิดฉาก จากพรรคคู่แข่ง โดยเฉพาะ“ภูมิใจไทย” ล่าสุดมีข่าวว่า “นายกแบน” ประสงค์ บริรักษ์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเขารูปช้าง อดีตผู้สมัครสส.พรรคภูมิใจไทย จะลงชิงตำแหน่ง 

ส่วนอีกกระแสหนึ่ง ก็มีการประเมินในเชิงพื้นที่ว่าชื่อของ “นายกแบน”จะขายได้หรือไม่ เวลานี้จึงยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นที่แน่ชัด  ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการเฟ้นหาบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่า พรรคภูมิใจไทยจะส่งผู้สมัครในสนามดังกล่าว 

สอดรับกับสัญญาณ การเปิดตัวทีม ส.อบจ.อาทิ  อาคม ประสมพงศ์ ส.อบจ. อำเภอนาหม่อม รอบที่แล้วอยู่ในทีมนายกไพเจน ล่าสุดเปิดตัวเป็นผู้สมัคร ส.อบจ.อำเภอนาหม่อม ภายใต้ทีมภูมิใจสงขลา 

เวลานี้ “ค่ายสีน้ำเงิน” กำลังฮึกเหิมจากนครศรีโมเดล และก่อนหน้านี้ ยังกำชัย จ.ระนอง มาแล้ว หากหวังขยายฐานเพิ่มในพื้นที่ภาคใต้ ปูทางไปสู่สนามใหญ่ในอนาคต จำเป็นต้องเจาะนครศรีธรรมราช สงขลา รวมถึงสุราษฏร์ธานี ที่มี สส.20 กว่าคนให้ได้ 

ที่ไม่ควรมองข้าม คือ"พรรคประชาชน" ที่เพิ่งเปิดตัว 17 ผู้สมัครนายกอบจ. ซึ่งจำนวนนี้ มี "นิรันดร์ จินดานาค" ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา รอชิงอีกราย

จะว่าไปแล้ว การเมืองนครศรีฯ และสงขลา ก็มีทั้งบริบทที่ “เหมือน” และ “ต่าง” แต่จาก"เอฟเฟกต์สนามเมืองคอน"ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนมายังพรรคสีฟ้า ย่อมเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทำให้ “บิ๊กเนม”ต้องขบคิดอย่างหนัก 

เพราะ 2 จังหวัดนี้ เป็นฐานที่มั่นสำคัญของประชาธิปัตย์ ที่มีสส.มากที่สุด และต้องรักษาไว้ให้ได้มากที่สุด