‘มงคลกิตติ์’ นำทีม ปชป. ลงพื้นที่ช่วยประชาชนที่ประสบอุทกภัย จ.นราธิวาส
‘มงคลกิตติ์’ นำทีม ปชป. ลงพื้นที่ช่วยประชาชนที่ประสบอุทกภัย จ.นราธิวาส แนะควรรับฟังสถานการณ์สภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐ เร่งแก้ปัญหาดินสไลด์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.ภคอร จันทรคณา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าที่ ร.ต.ธนิตศักดิ์ ดารามั่น อดี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตต์ นายรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม น.ส.กฤษยากร สรชัย คณะทำงานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางจากท่าอากาศดอนเมือง ไปยังจังหวัดนราธิวาส เพื่อลงพื้นที่ให้กำลังใจและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์และคณะฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อแจกจ่าย น้ำดื่ม ถุงยังชีพ พร้อมพูดคุยให้กำลังใจประชาชน ทั้งหมด 2 จุด
จุดที่ 1 บ้านรอตันบาตู ต.กะลุวอ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส โดยนายมูหามะอาสมี เจะเตะ นายก อบต.กะลุวอ ให้การต้อนรับ และ สรุปสภาพปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จากนั้นมอบน้ำดื่ม 100 แพ็ค 1,200 ขวด ข้าวหมกไก่ 250 ชุด
จุดที่ 2 ตำบลนานาค อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดย นางสาวเสาวนีย์ อาแวเต๊าะ รองนายก อบต.นานาคให้การต้อนรับ จากนั้นเดินทางไปต่อที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว อบต.นานาค บ้านแฆแบ๊ะ ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พร้อมพบปะพี่น้องประชาชนให้กำลังใจ มอบน้ำดื่ม 100 แพ็ค 1,200 ขวด+ น้ำบาดาลจาก ทสจ.นราธิวาส และ ข้าวหมกไก่ 250 ชุด
สภาพเดิมน้ำท่วมสูง 1-3 เมตร ท่วมทั้งหมด 13 อำเภอ อำเภอเมืองนราธิวาส,ตากใบ,บาเจาะอำเภอยี่งอ,ระแงะ,รือเสาะ,ศรีสาคร,แว้ง,สุคิริน,สุไหงโก-ลก,สุไหงปาดี,จะแนะ,เจาะไอร้อง
วันนี้ ที่จังหวัดนราธิวาส หลังฝนหยุดแล้ว 2 วัน สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เริ่มมีแสงแดดเป็นวันแรก แต่ยังมีน้ำท่วมขังสูงพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก และ อำเภอตากใบ
จุดที่ 3 แวะเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่จาก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เนื่องจากพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมประมาณ 80 เซ็นติเมตร เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายหลายอย่าง
โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตนกล้าพูดได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองแรกๆ ที่ลงไปให้กำลังใจและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตั้งแต่ทราบว่า มีการเกิดอุทกภัยในพื้นที่
ทั้ง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส. อดีต สส. และ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ต่างลงไปช่วยเหลือและซับน้ำตาพี่น้องประชาชน อย่างไม่ขาดสาย ซึ่งในวันนี้ตนและคณะฯได้ลงพื้นที่ 3 จุด 2 อำเภอ คือ อำเภอเมืองนราธิวาสและอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยจากการลงพื้นที่ปรากฏว่า ถึงแม้ว่าฝนจะทิ้งช่วงจนบางพื้นที่มีระดับน้ำลดลง และแต่ละคนก็ต้องการกลับไปบ้านเพื่อเร่งทำความสะอาดบ้านที่ถูกน้ำท่วม แต่ตนขอให้ประชาชนรับฟังข่าวสารการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด เพราะทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ขอให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังอีกช่วงในระยะ 10 วันข้างหน้านี้ สำหรับบางพื้นที่ที่ยังเกิดดินสไลด์และถนนเป็นหลุมเป็นบ่อนั้น ตนก็ขอให้ทางหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เร่งสร้างทางสัญจรชั่วคราว และเมื่อเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขอให้มีการเร่งสำรวจความเสียหายโดยด่วน
"ส่วนการเยียวยาที่จะมีขึ้นหลังจากนี้ ทางกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยกระทรวงมหาดไทย มีระเบียบฯเยียวยาน้ำท่วมตามหลักเกณฑ์เดียวกับทุกภาคที่ประสบภัยในช่วงที่ผ่านมา สูงสุดครัวเรือนละ 9,000 บาท การประเมินความเสียหายจะใช้ 2 หลักเกณฑ์ คือ น้ำท่วมฉับพลัน ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย น้ำท่วมขังไม่เกิน 7 วัน และ กรณีน้ำท่วมขังเกิน 7 วัน
- กรณีบ้านได้รับความเสียหายเกิน 70% ได้รับงบประมาณเยียวยาสูงสุดหลังละ 230,000 บาท
- กรณีบ้านได้รับความเสียหายเกิน 30–70% ได้รับงบประมาณเยียวยาสูงสุดหลังละ 70,000 บาท
- กรณีบ้านได้รับความเสียหายน้อยกว่า 30% ได้รับงบประมาณเยียวยาสูงสุดหลังละ 15,000 บาท
ส่วนการเยียวยาด้านพืช เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร ก่อนเกิดภัย การให้ความช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เสียหายจริง ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ในอัตรา ดังนี้
1.ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท
2. พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท
3.ไม้ผล ไม้ยืนต้น และอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท อื่นๆ
ซึ่งทางท้องถิ่น อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องช่วยประชาชนทำเอกสารเพื่อแจ้งต่อ นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เพื่อเร่งรัดขอการชดเชยเยียวยาตามมาตรการต่างๆ ส่วนถนน เส้นทางคมนาคม คลองชลประทาน อื่นๆ ที่เสียหาย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต้องเร่งประสานงานของบประมาณเพื่อซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด และเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องก็คือการป้องกันภัยจากกระแสไฟฟ้า เนื่องจากว่าที่ผ่านมาถึงแม้ว่า จะมีการประชาสัมพันธ์เน้นย้ำในเรื่องของการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่เกิดอุทกภัย แต่ยังมีเหตุการณ์อันน่าสลดใจขึ้น เพราะฉะนั้น ผมจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้ามาสำรวจซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในบ้านของประชาชนภายหลังน้ำลดให้เร็วที่สุดด้วย" นายมงคลกิตติ์กล่าว