'ภูมิธรรม'ปัด แก้พรบ.กลาโหม ล้วงลูกโผทหาร

“ภูมิธรรม” ชี้ ต้องฟังผลศึกษา หลัง สส.พท.ชงแนวคิด แก้กม.กลาโหม ให้อำนาจ ครม.ตั้งนายพล-ลดอำนาจรัฐประหาร ลั่น ไม่ล้วงลูก เชื่อกองทัพ-การเมือง คุยกันดี
เมื่อเวลา 08.45 วันที่ 9 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ เสนอให้มีการรับฟังความเห็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…) พ.ศ. … โดยให้อำนาจคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เพื่อสกัดการรัฐประหาร ว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองกรองกฎหมาย ต้องรอดูเหตุและผลในที่ประชุม และขณะนี้เรื่องเข้าสู่สภากลาโหม แล้ว ต้องดูว่าจะมีข้อคิดเห็นและข้อแนะนำปรับปรุงอะไร ต้องดูหลักการและความเป็นจริงว่าจะจัดการอย่างไร การเปลี่ยนแปลงที่ดีทุกคนปรารถนาอยู่แล้ว แต่จะเปลี่ยนให้ได้ถึงขนาดไหน อย่างไร ต้องดูข้อเท็จจริงและดูความเห็นจากทุกฝ่ายฝ่าย
เมื่อถามว่าเห็นด้วยกับหลักการที่ นายประยุทธ์ เสนอหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเป็นประธานที่ประชุมจึงไม่อยากพูดคุยไปก่อน ขอฟังทุกอย่างก่อน
เมื่อถามว่าแนวคิดดังกล่าวอาจจะเป็นการลดอำนาจของทหาร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่าจะออกมาอย่างไร อย่าเพิ่งไปคิดว่าลดหรือไม่ เพราะตนไม่มีเจตนาลดอำนาจทหารอยู่แล้ว เขามีกฎระเบียบกฎหมายของเขาในการควบคุมดูแลเหมือนพลเรือน หากมีปัญหาต้องแก้ไข เมื่อถามย้ำว่า แนวคิดการให้อำนาจ ครม.ตั้งนายพล แล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปคิดแทนที่กฎหมายมี
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งข้อสังเกตว่าหาก พ.ร.บ.ดังกล่าว ผ่านจริง และหากรัฐประหารจะรุนแรงกว่าที่ผ่านมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่เคยเห็นรายงานว่ามีใครพูด และยังไม่มีการคุยเรื่องนี้กับผู้บัญชาการเหล่าทัพคนใด ฉะนั้นขอสื่ออย่าคิดไปก่อนว่าจะเกิดขึ้น พร้อมย้ำว่าขอรอฟังความเห็นจากคณะกรรมการกลั่นกรองก่อน อย่ามองว่าจะมีข้อสรุปอย่างนั้นอย่างนี้
เมื่อถามว่าหวั่นว่าจะเป็นประเด็นรอยร้าวระหว่างการเมือง กับกองทัพ หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นและยืนยันว่ากองทัพกับการเมืองตอนนี้คุยกันดี ตนอยู่กระทรวงกลาโหมได้รับการต้อนรับและสนับสนุนการทำงาน ไม่มีเหตุอะไรที่จะไปล้วงลูกฝ่ายข้าราชการประจำ ทุกอย่างเป็นไปตามหลักเหตุผล อย่าไปคิดอะไรกันเลยเพราะจะสร้างแต่ความขัดแย้ง ขอให้พูดแต่ประเด็นที่เป็นจริง มีอะไรเกิดขึ้นแล้วค่อยมาถาม ไม่ใช่ถ้าอย่างโน้นถ้าอย่างนี้ เพราะเป็นการคิดฝันไปเอง ดังนั้นขอให้อยู่ในข้อเท็จจริง