จองกฐิน‘ทักษิณ’เรียกแขก 3 ศึกขนาบ พรรคร่วมร้าวลึก

จองกฐิน‘ทักษิณ’เรียกแขก 3 ศึกขนาบ พรรคร่วมร้าวลึก

การที่รัฐบาลนำโดยเพื่อไทย เผชิญปัจจัยกดดันจากศึกหลายด้าน ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทักษิณมีส่วนในการปลุกเร้ากลุ่มต้านคืนชีพ และส่อเค้าว่าจะหนักหน่วง และทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

KEY

POINTS

  • ปฏิเสธไม่ได้ ทักษิณ เป็นจุดศูนย์รวมที่สร้างแรงเสียดทานให้รัฐบาล
  • ด้วยบทบาท การเคลื่อนไหว ปลุกพลังกลุ่มต้าน ปลุกแรงกระเพื่อมให้พรรคร่วมฯ
  • MOU44 ยังเป็นเชื้อไฟชั้นดีให้ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ที่กำลังรอปัจจัยเสริมเพื่อจุดม็อบติด 
  • ประเด็นนายก อบจ. ศรีสะเกษ และ ปราจีนบุรี สะท้อนรอยร้าวระหว่างเพื่อไทย และภูมิใจไทย ได้อย่างดี
  • ศึกเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป คงได้เห็นการฟาดฟันแบบตายกันไปข้าง   

ในจังหวะที่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กำลังเพลิดเพลินในเกมอำนาจ ผ่าน 3 เดือนของนายกฯลูกนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณวันนี้ เคลื่อนการเมืองเต็มกำลัง ในฐานะลมใต้ปีกรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย วาดลวดลายโชว์บารมี ทั้งสนามท้องถิ่น และระดับชาติ

ความเคลื่อนไหวคู่ขนาน กลุ่มที่เคยเดินขบวนต่อต้านทักษิณ มาตั้งแต่สมัยพันธมิตรฯ เสื้อเหลือง หรือม็อบนกหวีด กปปส. กำลังค่อยๆ รวมตัว สะสมกำลังอย่างต่อเนื่อง

เมื่อทักษิณยังผูกโยงกับการเมืองไทย ย่อมมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยอยู่ตรงข้ามเสมอ

การเปิดหน้าชกของ สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำคนเสื้อเหลือง พุ่งเป้า MOU44 ล้มรัฐบาล ขณะที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายคน ก็ขยับในทิศทางของตัวเอง

ล่าสุด นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง ประชาธิปัตย์ โชว์ภาพการรวมตัว“คนไม่เอาทักษิณ” ร่วมรับประทานอาหารกันเมื่อคืนวันพุธ 11 ธ.ค. อาทิ แก้วสรร อติโพธิ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง จตุพร พรหมพันธุ์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมชาย แสวงการ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ พิชิต ไชยมงคล ประสาร มฤคพิทักษ์ วรงค์ เดชกิจวิกรม นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ สาวิทย์ แก้วหวาน เป็นต้น

จองกฐิน‘ทักษิณ’เรียกแขก 3 ศึกขนาบ พรรคร่วมร้าวลึก

จองกฐิน‘ทักษิณ’เรียกแขก 3 ศึกขนาบ พรรคร่วมร้าวลึก

ปฏิเสธไม่ได้ว่า สาเหตุที่ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้โคจรมารวมกันได้ เพราะจองกฐินทักษิณเหมือนกัน

ศึกนอกรัฐบาลกำลังก่อตัวถาโถม อาจจะเหลือแค่รอเหตุปัจจัยบางอย่างเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นแนวร่วมให้ลุกฮือ

เช่น ทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือพลาดท่าเสียทีเพื่อนบ้านเรื่องผลประโยชน์ทางทะเล

ศึกนอกที่พยามเผด็จศึกรัฐบาล ยังมีศึกในสภาฯรอลากแพทองธาร และคณะขึ้นเขียงซักฟอก นำโดยพรรคประชาชน ช่วงต้นปีหน้า ประเด็นชั้น 14 น่าจะยังตามหลอกหลอน

ถึงแม้เสียงของรัฐบาลอาจการันตีว่าจะผ่านไปได้ฉลุย แต่การโดนเปิดแผล ขยี้จุดเปราะบางของรัฐบาล ย่อมเข้าทางเกมนอกสภาฯ และอาจส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่มากก็น้อย

ไหนจะศึกระหว่างพรรคร่วมฯ มวยคู่เอกระหว่างเพื่อไทย และภูมิใจไทย ที่เห็นสัญญาณไม่ค่อยกินเส้น แต่ต้องเล่นบทถ้อยทีถ้อยอาศัย ตบจูบ ฉุดกระชากลากถูกันไปแบบนี้

เกมขัดแข้งขัดขาระหว่างเพื่อไทย และภูมิใจไทย สั่งสมความไม่พอใจกันมาตลอด โครงการสำคัญ หรือร่างกฎหมายที่เพื่อไทยผลักดัน อีกฝ่ายก็ไม่เล่นด้วย

ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบกลาโหม ต้านรัฐประหาร ตามที่อนุทิน ชาญวีรกูล ออกตัวไม่เห็นด้วย ก่อนชี้นิ้วไปที่นักการเมือง “ต้องทำตัวให้ดี อย่าสร้างเงื่อนไข ไม่ขี้โกง ไม่ทำให้แตกความสามัคคี” ทำเอาทักษิณ สวนทันควัน “พูดเอาหล่อเร็วไป ขอให้หล่อช้าๆ หน่อย” พออนุทินได้ยินแบบนั้น ก็ต่อปากต่อคำสร้างสีสัน บอกว่าตัวเอง “ยังไม่หล่อ หล่อช้าไปด้วยซ้ำ ขอเอาแค่ดูดีจีบสาวได้ก็พอ”

ทั้งเพื่อไทย และภูมิใจไทย รู้ดีว่าต่างฝ่ายต่างเป็นคู่แข่งสำคัญในการเลือกตั้งครั้งหน้า สะท้อนความเข้มข้นผ่านสนาม นายก อบจ.ตั้งแต่วันนี้

ศึกที่ศรีสะเกษ บ่งบอกอะไรได้เป็นอย่างดี หรือศึกนองเลือดที่ปราจีนบุรี โกทร สุนทร วิลาวัลย์ แชมป์เก่านายก อบจ.ปราจีนฯ จากค่ายน้ำเงิน ที่กำลังเจอมรสุมช่วงเปลี่ยนผ่าน หลังเกิดเหตุยิง สจ.โต้ง ลูกบุญธรรม ซึ่งเป็นมือขวาโกทรดับคาบ้านใหญ่ 

สาเหตุสำคัญอาจหนีไม่พ้นปัญหาความไม่ลงตัวในการเมืองท้องถิ่น เมื่อ สจ.โต้ง พยามดัน สจ.จอย ภรรยา ลงนายก อบจ.ปราจีนฯ แทนโกทร ที่เตรียมวางมือ

ทักษิณ เองก็ยอมรับว่า สจ.โต้ง อยากให้ภรรยาลงในนามพรรคเพื่อไทย และได้มีการคุยกับโกทรแล้ว

ตรงนี้อาจเข้าใจได้ว่า เป็นความความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรค ผ่านบ้านใหญ่ และการเมืองใหญ่ จนซึมลึกไปทุกระดับ

การที่รัฐบาลนำโดยเพื่อไทย เผชิญปัจจัยกดดันจากศึกหลายด้าน ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทักษิณมีส่วนในการปลุกเร้ากลุ่มต้านคืนชีพ และส่อเค้าว่าจะหนักหน่วง และทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ