กกต.เผยคนชิงนายก อบจ. 192 คน ส.อบจ. 6,815 คน มีไม่ผ่านด้วย เช็คเหตุผลที่นี่
สำนักงาน กกต.แพร่ข้อมูลผู้สมัครรับเลือกตั้ง ‘นายก อบจ.’ 192 คน ขาดคุณสมบัติ-มีลักษณะต้องห้าม 3 คน ส่วน ‘ส.อบจ.’ สมัคร 6,815 คน ไม่รับ 92 คน ส่วนใหญ่เคยถูกตัดสิทธิ-เป็นเจ้าของหุ้นสื่อ-อดีตลูกจ้างหน่วยงานรัฐ
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2568 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 และได้ดำเนินการรับสมัครระหว่างวันที่ 23 - 27 ธันวาคม 2567 เสร็จสิ้นแล้ว นั้น
การพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเมื่อเสร็จสิ้นการรับสมัคร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ตรวจสอบความถูกต้องของการสมัครของผู้สมัคร และตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามว่าผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อเห็นว่าถูกต้องและผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ภายใน 7 วันนับแต่วันปิดรับสมัคร (วันที่ 3 มกราคม 2568 ) ทั้งนี้ หากผู้สมัครผู้ใดไม่มีชื่อในประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครให้ยื่นคำร้องขอให้รับสมัครต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ภายใน 3 วันนับแต่วันที่ประกาศรายชื่อผู้สมัคร (วันที่ 6 มกราคม 2568) ตามมาตรา 52 และมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562
โดยข้อมูลเมื่อ 7 ม.ค. 2568 มีการประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ดังนี้
1.ผู้สมัคร ส.อบจ.มีจำนวน 6,815 คน ไม่รับสมัครเพราะขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม 92 คน ยื่นคำร้องขอให้รับสมัคร ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 55 จำนวน 17 คน
2.ผู้สมัครนายก อบจ.มีจำนวน 192 คน ไม่รับสมัครเพราะขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม 3 คน ยื่นคำร้องขอให้รับสมัคร ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 55 จำนวน 2 คน
สำหรับผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม เกิดจากกรณีอยู่ระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น / เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นสื่อในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชน / เป็นพนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
ในการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเป็นผู้รับคำร้อง เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้งพิจารณาคำร้อง พยานหลักฐาน หรือความปรากฏว่าผู้สมัครไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเสนอความเห็นให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำวินิจฉัยโดยเร็ว และให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำวินิจฉัย
สามารถดูประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่อื่นที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำหนด
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่สนใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลหรือนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหรือนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ที่จะมีการเลือกตั้งในครั้งถัดไป ให้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของตนเองก่อนที่จะสมัครรับเลือกตั้งให้ครบถ้วน ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เพราะถ้าผู้สมัครรับเลือกตั้งขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัคร มีโทษตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 กำหนดว่า ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
สามารถตรวจสอบสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งได้ที่ Application Smart Vote หรือ เว็บไซต์ https://stat.bora.dopa.go.th/Election/enqelectloc/#/ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.ect.go.th
อ่านรายละเอียดทั้งหมด: คลิกที่นี่