รู้จัก บ.โฆษณา ‘ยังบลัด พท.’ หลัง ‘สามีนายกฯ’ ปล่อยกู้ 12.7 ล. ถูกร้อง ป.ป.ช.สอบ
ทำความรู้จัก ‘วินน์ แคปปิตอล’ บริษัทโฆษณาเครือข่าย ‘ยังบลัดเพื่อไทย’ หลัง ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’ สามี ‘นายกฯอิ๊งค์’ ทยอยให้กู้ยืมเงิน 8 รายการ ระหว่างปี 64-65 รวมกว่า 12.7 ล้านบาท ล่าสุดถูก ‘เรืองไกร’ ร้อง ป.ป.ช.สอบแล้ว
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ในการให้กู้ยืมเงินแก่บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการโฆษณา ของเครือข่าย “ยังบลัด” ในพรรคเพื่อไทย อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จำนวน 8 รายการ รวมวงเงิน 12.7 ล้านบาทเศษ ระหว่างวันที่ 8 มิ.ย. 2564-23 ม.ค. 2565
โดยนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักร้องเรียน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยนั้น พบว่า มีหลายหลายการที่ควรตรวจสอบ ซึ่งในวันนี้เป็นการขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเงินให้กู้ยืมของคู่สมรสที่ให้บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด กู้ยืมจำนวน 8 รายการ (ลำดับที่ 2 – 9) โดยเกิดขึ้นระหว่างปี 2564 – 2565 รวมเป็นเงิน 12,770,000 บาท และมีการแจ้งรายได้ดอกเบี้ย 383,100 บาท ถูกต้องสัมพันธ์กันกับข้อมูลของบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด หรือไม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แจ้ง ป.ป.ช. ว่า คู่สมรส ชื่อ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ อยู่กินกันฉันสามีภรรยา ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานการลงทุนและการเงิน บริษัท เรนด์ดีเวล ลอปเมท์ จำกัด
2.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แจ้ง ป.ป.ช. ว่า คู่สมรส มีรายได้หลายรายการ รายการหนึ่งคือดอกเบี้ยจำนวน 383,100 บาท
3.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งบัญชีรายการเงินให้กู้ยืมแก่บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด ของคู่สมรสจำนวน 8 รายการ (ลำดับที่ 2 – 9) โดยเกิดขึ้นระหว่างปี 2564 – 2565 รวมเป็นเงิน 12,770,000 บาท
4.จากการขอคัดหนังสือรับรองบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด ณ วันที่ 6 มกราคม 2568 พบว่า กรรมการของบริษัทมี 5 คน คือ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายฤภพ ชินวัตร ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช และ นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์
5.จากการขอคัดสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5) ณ วันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 30/04/2567 พบว่า บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท มีผู้ถือหุ้นคนไทยรวม 14 คน คือ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ถืออยู่ 7,000 หุ้น น.ส.สุทิษา ประทุมกุล ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายพงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิสกุล ถืออยู่ 7,000 หุ้น นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายวิม รุ่งวัฒนจินดา ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ นายต้น ณ ระนอง ถืออยู่ 7,000 หุ้น ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายมิตติ ติยะไพรัช ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายฤภพ ชินวัตร ถืออยู่ 7,000 หุ้น ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช ถืออยู่ 9,000 หุ้น นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น และ น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร ถืออยู่ 7,000 หุ้น รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
6.จากหมายเหตุประกอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ของบริษัทฯ ข้อ 9 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน ระบุว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ มีเงินกู้ยืมจากกรรมการ จำนวน 12.77 ล้านบาท (2565: 12.77 ล้านบาท) คิดดดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี และมีกำหนดชำระคืนเมื่อมีการทวงถาม
7.งบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ของบริษัทฯ ได้แสดงรายการค่าใช้จ่ายทางการเงินของปี 2566 เป็นเงิน 383,100 บาท และของปี 2565 เป็นเงิน 379,680.81 บาท
8.จากการที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แจ้ง ป.ป.ช. ว่า คู่สมรส มีรายได้อดอกเบี้ยจำนวน 383,100 บาท จึงสอดคล้องกับรายการดอกเบี้ยร้อยละ 3 ของยอดเงินกู้ 12,770,000 บาท แต่มีข้อสังเกตที่ต่างกันคือ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ ไม่มีชื่อเป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นของบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด แต่อย่างใด ทั้งที่หมายเหตุข้อ 9 ระบุว่ายอดเงินกู้ 12,770,000 บาทของบริษัทฯ เป็นเงินกู้ยืมจากกรรมการ
9.ดังนั้น จึงมีเหตุอันควรขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบรายการเงินให้กู้ยืมของคู่สมรส จำนวน 12,770,000 บาท ถูกต้องหรือไม่ คู่สมรสเป็นกรรมการบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด หรือไม่ มีการนำดอกเบี้ยไปเสียภาษีรวมกับรายได้อื่นครบถ้วน หรือไม่ บริษัทฯ ผู้จ่ายดอกเบี้ยมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือไม่ และดอกเบี้ยดังกล่าวต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือไม่ การแจ้งรายการดังกล่าวถูกต้องครบถ้วน หรือไม่ ทั้งนี้ได้แนบสำเนาข่าวของสำนักข่าวอิศรามาประกอบด้วยแล้ว
“วันนี้จึงได้ยื่นหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ทำการตรวจสอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 ว่า การแจ้งบัญชีรายการเงินให้กู้ยืมของคู่สมรส เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 หรือไม่” นายเรืองไกร ระบุ
สำหรับ บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2562 ทุนปัจจุบัน 10 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 1010 อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ห้องเลขที่ 3013-เอ ชั้นที่ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ กิจกรรมตัวแทนสื่อโฆษณา
รายชื่อกรรมการ
นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ (เพื่อนสนิท น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายปิฎก สุขสวัสดิ์)
นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ (ลูกสาวนางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวนายทักษิณ)
นายฤภพ ชินวัตร (ลูกชายนายพายัพ ชินวัตร น้องชายนายทักษิณ)
ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช (ลูกชายนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย แกนนำพรรคเพื่อไทย)
นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ (ผู้อำนวยการโครงการมูลนิธิไทยคม และครอบครัวชินวัตร)
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด 30 เม.ย. 2567 มี ร.ท. ปรีชาพล พงษ์พานิช ถือหุ้นใหญ่สุด 9% ที่เหลือถือคนละ 7% อยู่ในชื่อของ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นางสาว ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย (ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) นางสาว สุทิษา ประทุมกุล (ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) นายพงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล (อดีตรองหัวหน้าพรรค ทษช.) นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ (ภรรยานายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ)
นายวิม รุ่งวัฒนจินดา (อดีตคณะทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ (อดีตผู้ประกาศข่าว อดีตโฆษกพรรค ทษช.) นายต้น ณ ระนอง (บุตรชายนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย) นายมิตติ ติยะไพรัช (บุตรชายนายยงยุทธ ติยะไพรัช ปัจจุบันเป็นประธานสโมสรฟุตบอลสิงห์เชียงรายยูไนเต็ด) นายฤภพ ชินวัตร (ลูกชายนายพายัพ ชินวัตร) นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ และนางสาว สุณีย์ เหลืองวิจิตร (อดีต สส. อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อดีตรองหัวหน้าพรรค ทษช.)
นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 4,848,745 บาท มีหนี้สินรวม 13,751,440 บาท มีรายได้รวม 288.30 บาท มีรายจ่ายรวม 134,080 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 383,100 บาท ขาดทุนสุทธิ 516,891 บาท
โดยบริษัทแห่งนี้นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2562 ในการส่งงบการเงินแต่ละปียังไม่เคยได้กำไรแม้แต่ครั้งเดียว ไล่เรียงมาตั้งแต่ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 230,990 บาท ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 3,631,246 บาท ปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 12,853,954 บาท ปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 1,669,612 บาท และปี 2566 ขาดทุนสุทธิ 516,891 บาท