ยื่น อสส.ชงศาล รธน.ชี้ขาด 'อุ๊งอิ๊ง' ตั้ง 'เต้น' ที่ปรึกษานายกฯ ขัด กม.หรือไม่
'สนธิญา' ยื่น อสส.ส่งศาล รธน.ตีความปม 'แพทองธาร' แต่งตั้ง 'เต้น ณัฐวุฒิ' นั่งที่ปรึกษาของนายกฯ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ชี้ในอดีตมีพฤติการณ์เคยหนุนม็อบราษฎร ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไป 10 ปี เคยร้องไปแล้วหลายครั้งแต่เรื่องเงียบ
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2568 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนเเจ้งวัฒนะ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด (อสส.) ขอให้ตรวจสอบพิจารณาส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา เข้าข่ายกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากนายณัฐวุฒิถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี เคยถูกจำคุก 2 ปี 8 เดือน กรณีบุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ นอกจากนี้ยังเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
นายสนธิญา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ยื่นร้องเรียนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปรับนายณัฐวุฒิ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2567 หลังการแต่งตั้ง 7 วัน ขณะเดียวกันในส่วนของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียน โดยการตรวจสอบของกฤษฎีกาทั้ง 3 คณะ ผลตรวจสอบออกมาว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นข้าราชการการเมือง ขณะที่กรณีนายณัฐวุฒิ กล่าวหานายกรัฐมนตรีกระทำผิดรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในมาตรา 160 เรื่องความซื่อสัตย์ สุจริตจริยธรรม และคุณธรรม และมาตรา 164 และมาตราอื่น ๆ ประกอบ
นายสนธิญา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยแจ้งความดำเนินคดีกับนายณัฐวุฒิ เมื่อปี 2550 กรณีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการบุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี ฯ โดยศาลพิพากษาจำคุก นายณัฐวุฒิ เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน และได้ติดกำไร EM ออกมา หลังได้รับการปล่อยตัว โดยในคดีดังกล่าวศาลยังมีคำพิพากษาให้ตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปีด้วย และเมื่อออกมาจากเรือนจำนายณัฐวุฒิได้ประกาศชัดว่า สนับสนุนกลุ่มราษฎรเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563 โดยกลุ่มราษฎรดังกล่าวมีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” โดยในส่วนของเพนกวินตนได้ยื่นร้องเกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 ประมาณ 5 คดี ปัจจุบันเพนกวินไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี และปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีคดีความผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 จำนวน 25 คดี พฤติกรรมของนายณัฐวุฒิจึงเป็นการเซาะ กร่อน บ่อนทำลายเกี่ยวกับสถาบัน เป็นการกระทำที่รุนแรงต่อกฎหมายความมั่นคง
นายสนธิญา กล่าวด้วยว่า ตนร้องไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้คัดชื่อนายณัฐวุฒิ ออกไปภายใน 1 อาทิตย์ กระทั่งผ่านมาถึงวันนี้เป็นเวลา 3 เดือน 11 วัน ไม่มีการคัดชื่อนายณัฐวุฒิออกแต่อย่างใด ประกอบกับกฤษฎีกาทั้ง 3 คณะชี้ว่ากรณีของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นข้าราชการทางการเมือง ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกัน กับนายณัฐวุฒิตนจึงนำเข้าสู่กระบวนการยื่นให้อัยการสูงสุดชี้ว่า การกระทำของ น.ส.แพทองธาร ขัดต่อรัฐธรรมนูญตามที่ตนกล่าวหาหรือไม่ อย่างไร บทสรุปสุดท้ายสำนักงานอัยการสูงสุด จะต้องสรุปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถ้าไม่ยื่น ตนจะใช้สิทธิ์ภายใน 60 วันยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยต่อไป
นายสนธิญา อธิบายว่า กระบวนการที่จะเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญได้มี 2 ช่องทาง คือ ผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด กกต. หรือผู้ตรวจการแผ่นดิน ตนเลือกใช้วิธียื่นผ่านสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อโปรดพิจารณา ทั้งนี้หากใครจะเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มราษฎรหรือมีความเห็นอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่กรณีของนายณัฐวุฒิเป็นผู้ประกาศสนับสนุน กลับมาแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ทั้งที่นายกรัฐมนตรีจะต้องตรวจสอบคนที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้ เพราะฉะนั้นนายณัฐวุฒิและนายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิเสธได้ สำหรับการแต่งตั้งดังกล่าวมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงลายมือชื่อ แต่งตั้งด้วยตัวเองเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง
"สุดท้ายตอนฝากไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่มีนักร้องมาร้องเรียนมากมายนั้น ขอเรียนว่า จะไปถอนในการร้องเรียนต่อ กกต. 2 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ และนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ประธาน กกต.ได้ชี้แจงมาแล้ว แล้วตนเห็นว่าไม่เข้ากระบวนการก็จะถอนให้ 2 เรื่อง เพราะท่านเป็นบุคคลที่อยู่นอกการเมืองแต่เข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมือง ร้องเรียนในส่วนที่เห็นว่าชัดเจน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวินิจฉัยชี้แจง และยื่นไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป ไม่ได้ทำด้วยความเกลียดชังหรือความโกรธแต่อย่างใด" นายสนธิญา กล่าว