ปม‘อัลไพน์’ล็อกเป้า‘ชินวัตร’ แผนรุกนายกฯคู่ขนาน ‘ทักษิณ-แพทองธาร'

ปม‘อัลไพน์’ล็อกเป้า‘ชินวัตร’ แผนรุกนายกฯคู่ขนาน ‘ทักษิณ-แพทองธาร'

‘คดีอัลไพน์’ล็อกเป้า‘ชินวัตร’ แผนรุก‘นายกฯคู่ขนาน’ เผือกร้อนในมือ‘ชำนาญวิทย์’ วัดพลัง‘พท.-ภท.’ เอายังไง ‘สนามกอล์ฟ-เขากระโดง’

KEY

POINTS

  • ล่วงเลยไปแล้วราว 4 เดือนเศษ หลังอดีตรัฐมนตรี “ชาดา” พ้นตำแหน่ง จู่ ๆ กลับมีข่าว“เพิกถอน” กรรมสิทธิ์ที่ดิน “สนามกอล์ฟอัลไพน์”เล็ดลอดปรากฎออกมา ในช่วงที่การเมืองกำลังถูกจับตาไปที่สารพัดเกมชิงไหวชิงพริบ เหมือนจะเจาะจงล็อกเป้าไปที่ “นายกฯอิ๊งค์” 
  • ต้องไปถาม มท.3 ก่อนว่าจะยืนตามคำสั่งที่ลงนามโดย "ชาดา"  หรือไม่  ซึ่งตนได้ถาม “ทรงศักดิ์” แล้ว ยืนยันว่า ยืนตาม"  :   “รองปลัดชำนาญวิทย์”  ระบุ 
  • “รองปลัดชำนาญวิทย์”  ผู้นี้ กำลังจะเกษียรอายุราชการในเดือนก.ย.ที่จะถึงนี้ จึงต้องจับตาว่าถึงที่สุดประเด็นดังกล่าวจะกลายเป็นปมร้อนทิ้งทวนอายุราชการของรองปลัดผู้นี้หรือไม่ อย่างไร
  • สัญญาณการเปิดฉากต่อรองระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” ที่มีหัวหน้าพรรคชื่อ “แพทองธาร” และ“พรรคภูมิใจไทย” ที่คุมกระทรวงคลองหลอดอาจกำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้ง อย่าลืมว่า “ภูมิใจไทย” เองก็มีกรณี “เขากระโดง” โยงบ้านใหญ่บุรีรัมย์
  • ภายใต้เกมขู่ท่ามกลาง “สัญญาณลี้ลับ”ที่คอยมอนิเตอร์ตลอดเวลา เอาเข้าจริงฝั่ง “ทักษิณ” ผู้ช่ำชองอ่านการเมืองรู้ดูการเมืองเป็นอย่างดี อาจต้องเตรียมแผนตั้งรับ กรณีเกิดเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย

จู่ๆ ก็มีข่าวเซ็งแซ่ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” อดีต รมช.มหาดไทย เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีคุม “กรมที่ดิน” ได้ลงนามคำสั่ง “เพิกถอน” การจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดิน “สนามกอล์ฟอัลไพน์” กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร ตามที่กรมที่ดินเสนอ ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2567 ทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่ง ในวันที่ 6 ก.ย.2567 เพียง 3 วัน 

พลันที่มีกระแสข่าว แน่นอนว่า ประเด็นนี้มีการพุ่งเป้าไปที่ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร รวมถึงคนในตระกูลชินวัตร ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญในฉับพลัน

ถึงนาทีนี้แม้ทั้ง “นายกฯอิ๊งค์” จะบอกว่า “ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายพอ”

ไม่เว้นแม้แต่ “พรพจน์​ เพ็ญพาส” อธิบดีกรม​ที่ดิน​ ที่ชิงออกมาสยบลือว่า การเซ็นมอบนโยบายในการกำกับอาจจะจริง แต่อำนาจการเซ็นที่มีผลทางกฎหมาย เป็นอำนาจของ “ชำนาญวิทย์ เตรัตน์” รองปลัดมหาดไทย ที่กำกับดูแลในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เซ็น 

ปม‘อัลไพน์’ล็อกเป้า‘ชินวัตร’ แผนรุกนายกฯคู่ขนาน ‘ทักษิณ-แพทองธาร\'

แต่น่าสนใจว่า หากนับตามวันเวลาดังกล่าวจนถึงเวลานี้ถือว่า ล่วงเลยไปแล้วราว 4 เดือนเศษ หลังอดีตรัฐมนตรี “ชาดา” พ้นตำแหน่ง จู่ ๆ กลับมีข่าวเล็ดลอดปรากฎออกมา ในช่วงที่การเมืองกำลังเกิดเกมชิงไหวชิงพริบ 

ไม่ว่าจะเป็นข่าวคราวการ “ปรับครม.” ท่ามกลางการปล่อย “สูตรเปลี่ยน-สมการใหม่” ที่มีออกมาเป็นระยะ  สอดรับกับสัญญาณการปรากฎตัวแบบถี่ยิบของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี จนถูกเปรียบเปรยว่าเป็น “นายกฯคู่ขนาน” 

 จึงมีการจับตาว่า ภายใต้แรงต่อรองที่เกิดขึ้นนี้เองจะส่งผลไปถึงกระแสปรับครม.ที่คาดว่า จะเกิดขึ้นไม่เกินต้นไตรมาส 2 มากน้อยเพียงใด แม้ก่อนหน้า “นายกฯอิ๊งค์” จะออกมาปฏิเสธสไตล์การทำงานต่างจาก “ทักษิณ” ผู้เป็นพ่อ ที่ต้องปรับครม.ทุก 3 หรือ 6 เดือนก็ตาม

สอดคล้องกับเกมสภาที่เริ่มเห็นสัญญาณเปิดฉาก “วาระร้อน” ในช่วงเวลาอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นการยื่น “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล  ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้

ต้องจับตาไปที่ “รัฐมนตรีกลุ่มเสี่ยง”  ไม่เว้นแม้แต่ตัว “นายกฯอิ๊งค์”  ที่ถูกล็อกเป้าเป็นพิเศษไปที่ประเด็นการถือหุ้น โอนหุ้นในลักษณะนิติกรรมอำพราง 

ยิ่งล่าสุดมีการปล่อยข่าวเพิกถอน กรรมสิทธิ์ที่ดิน“สนามกอล์ฟอัลไพน์” ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับตระกูลชินวัตรด้วยแล้ว กลับยิ่งเป็นเกมเข้าทางฝ่ายค้านที่จะหยิบประเด็นดังกล่าวมาเป็นประเด็นขยี้แผลในสภา ซ้ำยังอาจเข้าทางกลุ่มที่รอจังหวะผสมโรงเพื่อสร้างแรงต่อรองอีกทางหนึ่งด้วย

ปม‘อัลไพน์’ล็อกเป้า‘ชินวัตร’ แผนรุกนายกฯคู่ขนาน ‘ทักษิณ-แพทองธาร\'

 

 “พท.-ภท.”เอายังไง? “อัลไพน์-เขากระโดง”

เช่นนี้ต้องจับตา ล่าสุด “ชำนาญวิทย์ เตรัตน์” รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีอำนาจในประเด็นดังกล่าว  ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวอิศรา” วันที่ 15 ม.ค. ชี้แจงว่า สาเหตุที่ประเด็นนี้ยืดเยื้อมากว่า 4 เดือน เป็นเพราะขณะนั้น มีการปรับรัฐบาลเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่ มีการเปลี่ยนรมช.มหาดไทยที่รับผิดชอบกรมที่ดิน จาก “ชาดา”  เป็น “ทรงศักดิ์ ทองศรี”  มท.3 คนปัจจุบัน ก็ต้องไปถาม มท.3 ก่อนว่าจะยืนตามคำสั่งที่ลงนามโดย "ชาดา" หรือไม่ 

ซึ่งตนได้ถาม “ทรงศักดิ์” แล้ว ยืนยันว่า ยืนตาม จึงเสียเวลาไปในช่วงเวลานั้น ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยและมีการนัดประชุมวันที่15ม.ค. 

 แน่นอนว่า หากจับประเด็นตามที่ “รองปลัดมท.” ระบุ สรุปง่ายๆคือ รมช.มหาดไทยมีคำสั่งให้ “เพิกถอน”ไปแล้ว เพียงแต่ในเวลานี้กระบวนการยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด โดยคำสั่งจะมีผลในทางกฎหมายก็ต่อเมื่อ “รองปลัดมท.” ซึ่งมีอำนาจเต็มมีการลงนาม 

ที่น่าสนใจคือ บทสรุปของประเด็นนี้จะจบอย่างไร หรือใช้เวลานานแค่ไหน  เพราะแม้แต่ตัว "รองปลัดชำนาญวิทย์"  ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า “เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมา 20 ปีแล้ว จะให้ทำในวันเดียวได้อย่างไร ใครทำอะไรไว้บ้างยังไม่รู้ ต้องดูทั้งหมดว่ามีที่มาอย่างไร ไปซี้ซั้วจิ้ม ๆ ก็จะมีปัญหา” 

ปม‘อัลไพน์’ล็อกเป้า‘ชินวัตร’ แผนรุกนายกฯคู่ขนาน ‘ทักษิณ-แพทองธาร\'

เผือกร้อนในมือ“ชำนาญวิทย์” ทิ้งทวนเกษียร? 

เหนือไปกว่านั้น “เวิร์ดดิ้ง”สำคัญอยู่ตรงที่ ข้อสงสัยที่ว่า เมื่อ “รมช.ชาดา”ลงนามแล้ว และ “รมต.ทรงศักดิ์” ก็ยืนยันตามเดิมแล้ว รองปลัดฯ มีอำนาจ “กลับคำสั่ง” ได้หรือไม่?  “รองปลัดชำนาญวิทย์” ตอบชัดว่า “อำนาจอยู่ที่ตนอยู่แล้ว” 

จากนี้จึงต้องจับตาเมื่อเผือกร้อนถูกยัดใส่มือ “รองปลัดมหาดไทย” แทนที่จะเป็นรัฐมนตรี แน่นอนต้องลุ้นสัญญาณที่จะถูกส่งออกมาระหว่างทางหลังจากนี้

ที่สำคัญ “รองปลัดชำนาญวิทย์”  ผู้นี้ กำลังจะเกษียรอายุราชการในเดือนก.ย.ที่จะถึงนี้ จึงต้องจับตาว่าถึงที่สุดประเด็นดังกล่าวจะกลายเป็นปมร้อนทิ้งทวนอายุราชการของรองปลัดผู้นี้หรือไม่ อย่างไร

เพราะแม้แต่เจ้าตัวเอง ยังตัดพ้อในทำนองที่ว่า “ท่านเห็นใจผมไหม เรื่องนี้อยู่กันมาตั้ง 20 กว่าปีแล้ว แล้วก็มาลงที่ผม ผมจะเกษียณแล้วในเดือนกันยายนนี้ ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะเซ็นไหม ท่านอยากให้ผมเซ็นไหม ถ้าอยากจะให้เซ็น ผมจะเซ็นให้ จะได้ไม่มีปัญหา”

ปม‘อัลไพน์’ล็อกเป้า‘ชินวัตร’ แผนรุกนายกฯคู่ขนาน ‘ทักษิณ-แพทองธาร\'

เหนือไปกว่านั้นที่ต้องลุ้นคือ สัญญาณการเปิดฉากต่อรองระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” ที่มีหัวหน้าพรรคชื่อ “แพทองธาร” และ“พรรคภูมิใจไทย” ที่คุมกระทรวงคลองหลอดอาจกำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้ง 

อย่าลืมว่า “ภูมิใจไทย” เองก็มีกรณี “เขากระโดง” โยงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ที่จนถึงเวลานี้ยังคาราคาซังมาเป็นเวลานาน หลังคณะกรรมการสอบสวน ตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน มีมติ “ไม่เพิกถอน”หรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิตามคำพิพากษาศาลฎีกาและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่วินิจฉัยให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นของการรถไฟแห้งประเทศไทย(รฟท.)

จนถึงเวลานี้ยังต้องลุ้น“คำสั่งศาลปกครอง”หลัง รฟท.ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่เพิกถอนของอธิบดีกรมที่ดินซึ่งตามกระบวนการ ซึ่งมีกรอบระยเวลา 60 วัน

ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า “วงเพื่อไทย” ก็เคยหยิบยกประเด็น“เขากระโดง”มาหารือทว่าสัญญาณกลับกลายเป็นว่าโยนไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการ ไม่ใช่การออกหน้าในนามพรรค

 ทำให้ท่าทีของ“สุริยะ ” ในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นเพียงไฟต์บังคับในฐานะเจ้ากระทรวงคมนาคม ที่ต้องออกมาแอ็กชั่น เพื่อเลี่ยงถูกกระสุนตกใส่ ด้วยการถูกฟ้องตาม ม.157แต่เพียงเท่านั้น 

นิติสงคราม เล็งเป้านายกฯคู่ขนาน

จากนี้ต้องจับตาสารพัดเกมที่กำลังรุกไล่ในเวลานี้ ดูเหมือนว่าเป้าใหญ่จะอยู่ที่ตัว “นายกฯอิ๊งค์” โดยเฉพาะในห้วงที่ “ทักษิณ” ผู้เป็นพ่อกำลังโชว์บทบาท “นายกฯคู่ขนาน”  ยังเป็นจังหวะเดียวกันกับที่บรรดา “นิติสงคราม” กำลังตีขนาบประชิด “2พ่อลูกชินวัตร” เช่นเดียวกัน

อย่าลืมว่า กรณีที่ดิน“สนามกอล์ฟอัลไพน์” หากถึงที่สุดกรมที่ดินมีการ “เพิกถอน” การจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ บทสรุปจะไม่ได้จบแค่นั้น  แต่ยังอาจสุ่มเสี่ยงไปสู่ข้อร้องเรียนการตรวจสอบการถือครองในฐานะเป็น“ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” 

ปม‘อัลไพน์’ล็อกเป้า‘ชินวัตร’ แผนรุกนายกฯคู่ขนาน ‘ทักษิณ-แพทองธาร\'

โดยเฉพาะประเด็นจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งมีโทษรุนแรงอาจถึงขั้น“ประหารชีวิตการเมือง”ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับบรรดานักการเมืองในช่วงที่ผ่านมา

ชั่วโมงนี้แม้ “นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า” ยังเชื่อในชุดข้อมูลที่ได้รับว่า กรณีดังกล่าวจะไม่เป็นผลลบต่ออนาคตการเมืองของ“นายกฯอิ๊งค์”ผู้เป็นลูกสาว

แต่ภายใต้เกมขู่ท่ามกลาง “สัญญาณลี้ลับ”ที่คอยมอนิเตอร์ตลอดเวลา เอาเข้าจริงฝั่ง “ทักษิณ” ผู้ช่ำชองอ่านการเมืองรู้ดูการเมืองเป็นอย่างดี อาจต้องเตรียมแผนตั้งรับ กรณีเกิดเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายอีกทางหนึ่งเป็นได้