สส.ปชน.จี้รัฐบาล อัปเดตปมสอบซื้อไฟฟ้า 3.6 พันเมกะวัตต์ หลังชะลอครบ 1 เดือน

สส.ปชน.จี้รัฐบาล อัปเดตปมสอบซื้อไฟฟ้า 3.6 พันเมกะวัตต์ หลังชะลอครบ 1 เดือน

'ศุภโชติ' สส.ปชน.เรียกร้องรัฐบาล ชี้แจงความคืบหน้าตั้งกรรมการสอบฯ ปมรับซื้อไฟฟ้า 3,600 เมกะวัตต์ไปถึงไหน หลังมติชะลอใกล้ครบ 1 เดือน ยังไร้วี่แววคำสั่งจากนายกฯ 

เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ตั้งข้อสังเกตถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดรอบล่าสุดจำนวน 3,600 เมกะวัตต์ รัฐบาลดำเนินการล่าช้ากว่าปกติหรือไม่ ว่า จากมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 26 ธ.ค. 2567 ที่ให้มีการชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด รอบเพิ่มเติมจำนวน 3,600 เมกะวัตต์นั้น ในตัวมติดังกล่าวยังระบุให้นายกฯ ในฐานะประธาน กพช. แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว 

นายศุภโชติ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ กพช. ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร ว่าปัจจุบันยังไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแต่อย่างใด ต้องรอเป็นคำสั่งจากนายกฯ ในฐานะประธาน กพช. ออกมาก่อน

นายศุภโชติ กล่าวอีกว่า จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาชี้แจงและตอบคำถามกับสังคมใน 2 ประเด็น

(1) จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเมื่อใด และกรอบเวลาการทำงานของคณะดังกล่าวจะเป็นอย่างไร

(2) การตรวจสอบควรขยายผลถึงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในรอบแรกจำนวน 5,200 เมกะวัตต์ด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีปัญหาลักษณะเดียวกันกับรอบ 3,600 เมกะวัตต์ คือการประกาศราคารับชื้อที่แพงเกินจริง กระบวนการที่ส่อทุจริต เช่น การไม่เปิดหลักเกณฑ์การให้คะแนน รวมถึงการมีวิธีที่ดีกว่าอย่าง Direct PPA ในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดของภาครัฐ

นายศุภโชติ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลยังสามารถบรรเทาผลกระทบจากการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดในรอบแรกได้อยู่ เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าบางส่วนยังไม่ได้เข้ามาเซ็นสัญญาซื้อขายกับภาครัฐ อีกทั้งข้อ 39 ในระเบียบการรับซื้อไฟฟ้ารอบ 5,200 เมกะวัตต์ ระบุชัดเจนว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) สามารถยกเลิกการรับซื้อได้ หาก กพช. มีมติ แต่จนถึงขณะนี้ รัฐบาลยังไม่มีท่าทีดำเนินการใดๆ เพื่อยกเลิกโครงการเหล่านี้ ทั้งที่สามารถทำได้ หรือจะเป็นอย่างที่ประชาชนจำนวนมากตั้งข้อสงสัยว่ารัฐบาลชะลอเรื่องนี้เพียงเพื่อหลบเสียงคัดค้านของประชาชน พอเรื่องเงียบก็จะกลับมาเดินหน้า อย่างนั้นหรือไม่