ไม่หวั่นถูกฟ้อง! 'โรม' ชี้ กฟภ.มีอำนาจตัดไฟได้ แฉ 'ติ่งวิน' ถูกคว่ำบาตรเพียบ

'โรม' สวน 'อนุทิน' กางระเบียบ กฟภ.มีอำนาจตัดไฟผู้ซื้อได้ แฉละเอียด 'ติ่งวิน' เจ้าของบริษัทเมียนมา ถูกหลายประเทศคว่ำบาตร ลั่นไม่ต้องขู่ว่าไม่ได้พูดในสภาฯ ไร้เอกสิทธิ์ สส.รับรอง ต่อให้ถูกฟ้องหมิ่นประมาท ก็หยุดไม่ได้
เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2568 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ยืนยันว่าพร้อมให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตัดไฟฟ้าทันที หากหน่วยงานความมั่นคง แจ้งว่า การจำหน่ายไฟฟ้าให้พม่าเป็นภัยความมั่นคง เพราะ กฟภ.ขายไฟฟ้าตามคำรับรอง และตามข้อสั่งการของหน่วยงานความมั่นคงนั้น
นายรังสิมันต์ ระบุว่า กราบเรียนพี่น้องประชาชน เมื่อวานคุณอนุทิน (ชาญวีรกูล) ได้แบกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์อีกครั้ง ตนเริ่มสับสนแล้วว่าคุณอนุทินทำงานให้ใครกันแน่ ถ้าจำกันได้หนึ่งในบริษัทที่เป็นคู่สัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ชื่อว่า SMTY (Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited) ซึ่งบริษัทนี้เป็นของ พันตรี ติ่งวิน หรือ Saw Tin Win คุณอนุทินบอกว่าบริษัทนี้ขาวสะอาด ป.ป.ส.ได้ทำหนังสือถึงคุณอนุทินว่าไม่พบการกระทำความผิดอะไรเลย ทั้งๆที่ติ่งวินคนนี้มีความสำคัญและถูกจับตามองจากหลายๆประเทศ หลายประเทศได้ตัดสินใจคว่ำบาตรพันตรีติ่งวิน
"ไม่รู้ทำไม ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ประเทศเราถึงได้ทำงานอย่างบกพร่องได้ถึงขนาดนี้ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่สนใจว่าการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะการขายไฟฟ้าให้กับบริษัทเอกชนมันจะนำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติมากมายเพียงใดทั้งปัญหายาเสพติดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์" นายรังสิมันต์ ระบุ
นายรังสิมันต์ ระบุอีกว่า ต่อไปนี้คือข้อมูลรายละเอียดการแซงค์ชั่น (คว่ำบาตร) โดยประเทศต่างๆ จะเห็นได้ว่าพันตรีติ่งวินคนนี้ ถูกคว่ำบาตรจากหลากหลายประเทศอาทิเช่น สหภาพยุโรป ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ และโมนาโก ติ่งวินโดนคว่ำบาตรจากหลากหลายประเทศ แต่เขากลับเป็นคนดีในสายตาของผู้มีอำนาจในประเทศไทย มอบสัญญาขายไฟฟ้า เพื่อให้นำไปใช้สำหรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆตามแนวชายแดน
พันตรีติ่ง วิน ซึ่งเป็นเจ้าของ SMTY เขาเป็นเบอร์ 2 ของ BGF/KNA ซึ่งให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างชเวก๊กโก และ KK Park เช่า BGF/KNA หัวหน้าใหญ่ชื่อหม่อง ชิต ตู ร่วมทุนกับเสอจื้อเจียง (ปัจจุบันถูกจับอยู่ในไทย เป็นที่ต้องการตัวของจีนอย่างมาก) เปิดชเวก๊กโก ปัจจุบันก็เป็นหุ้นส่วนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้
เวลาพวกนี้มาขอซื้อไฟฟ้าจากเรา ก็ต้องอ้างประชาชน อ้างโรงเรียน อ้างโรงพยาบาลเป็นธรรมดา แต่ในทางปฏิบัติมีหรือที่ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้จะไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตัวเองร่วมทุนใช้ไฟฟ้า มีหรือที่เขาจะบอกว่าพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปหาไฟฟ้าเอาเอง มีหรือที่จะบอกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ปั่นไฟเอาอย่างเดียว อย่าอุตริมาใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยโดยเด็ดขาด พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์จงไปใช้ไฟฟ้าจากโซลาเซลเอาเอง
"ถามจริงๆ มันเมคเซ็นหรือครับ คอลเซ็นเตอร์นี่คือธุรกิจของ BGF ที่มีติ่งวินเป็นเบอร์ 2 เขาปกป้องพวกนี้ เป็นบอดีการ์ดให้ทุนจีนเทาที่มาลงทุนในพื้นที่เขา มีหรือเขาจะไม่ช่วยเหลือกันเต็มที่ นี่มันแหล่งรายได้ของพวก BGF เลยนะครับ" นายรังสิมันต์ ระบุ
นายรังสิมันต์ ระบุด้วยว่า ถ้ารัฐบาลจะปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง การตัดไฟฟ้าจะเป็นก้าวแรกในการทำลายโครงสร้างของเครือข่ายพวกนี้ ถ้าก้าวแรกยังเดินกันไม่ได้ ชีวิตของคนไทยทรัพย์สินของคนไทย ก็จะตกอยู่ในความเสี่ยงของอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้ ได้โปรดสงสารประชาชนเถอะครับ ถ้าหนูจะแบกคอลเซ็นเตอร์ขนาดนี้ ได้โปรดท่านนายกรัฐมนตรีช่วยลงมาดูเรื่องนี้จัดการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ให้สิ้นซากเถอะครับ
"อ้อ แล้วไม่ต้องส่งคนมาให้ข่าวทำนองขู่ว่าผมไม่ได้พูดเรื่องนี้ในสภา ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มกันนะครับ เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์เรื่องนี้ผมตั้งใจมาก ต่อให้โดนฟ้องหมิ่นประมาทอย่างไรก็ไม่อาจจะหยุดผมได้หรอกครับ ผมทราบดีว่าตัวผมเองมีโอกาสที่จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ผมทำเรื่องนี้ราวกับว่าเป็นวันสุดท้ายของการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร ผมเองก็นับถอยหลังวันเวลาที่จะอยู่ตำแหน่งนี้อยู่แล้ว ดังนั้นผมก็พร้อมที่จะจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด และธุรกิจผิดกฎหมายใดๆ จนถึงการทุจริตคอรัปชั่นในหมู่ข้าราชการ โดยไม่เกรงกลัวใครทั้งสิ้น จะมีก็แค่ความเสียดาย ถ้าตัวเองมีอำนาจมากกว่านี้ ผมจะไม่มีทางปล่อยให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เสวยสุขง่ายๆแบบนี้แน่นอนครับ" นายรังสิมันต์ ระบุ
ข้อมูลจาก: Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม