สส.ปชน.สวน 'สุชาติ' ปูด 'นาย ธ.' หน้าห้องอดีต รมต.พันซื้อตึก 7 พันล.

เมื่อช่วงดึกคืนวันที่ 10 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจาก 2 สส.พรรคประชาชน (ปชน.) ที่เดินเรื่องตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) มาตลอด โดยนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สหัสวัต คุ้มคง ตอบโต้นายสุชาติ ชมกลิ่น อดีต รมว.แรงงาน (ปัจจุบันเป็น รมช.พาณิชย์) ที่ออกชี้แจงอธิบายข้อเท็จจริงเรื่องการใช้งบประมาณของ สปส. ว่า จากที่นายสุชาติ อดีต รมว.แรงงาน ออกมาโต้ตนและไอซ์ (รักชนก ศรีนอก) กรณีการซื้อตึกย่านพระราม 9 ราคา ประมาณ 7,000 ล้านบาทนั้น ขอตอบเป็นประเด็นดังนี้ครับ 

1.ประเด็นการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการนั้น นาย "รู" คนนี้นั้น อดีตเคยเป็นหน้าห้องอดีตปลัดเก่าคนหนึ่งในปี 2563 มีการย้ายไปอยู่หน้าห้องของรัฐมนตรีสุชาติ มีข่าวว่า ปลายปี 2564 นายรูคนนี้ก็ไปอยู่ฝ่ายบริหารความเสี่ยงของสำนักงานประกันสังคม แต่เหมือนว่าคำสั่งตามมาทีหลังในปี 2565 จากนั้นในเดือนสิงหาคม ก็มีการแต่งตั้งนาย"รู"คนนี้ เข้าไปอยู่ในคณะอนุกรรมการที่ปรึกษา สินทรัพย์นอกตลาด ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าว ไม่ได้เป็นแค่ที่ปรึกษาเหมือนชื่อ แต่มีอำนาจในการตัดสินใจ ว่าจะลงทุนจะซื้ออะไร เคาะอะไร   

2.ความแปลกประหลาดคือ ปกติเวลาเราตั้งข้าราชการ ไปนั่งในคณะกรรมการต่างๆ เราจะระบุเพียงตำแหน่ง แต่สำหรับกรณีนาย "รู" คนนี้กับระบุชื่อเจาะจงไปเลย ไม่ได้ระบุเพียงตำแหน่ง อยากถามว่าแบบนี้เป็นความจงใจหรือไม่

3.สำหรับกรณีที่ปรึกษาของรัฐมนตรีนั้น ไม่ว่าจะเป็นบอร์ดมาก่อน เป็นอะไรมาก่อน แต่การที่รัฐมนตรีอนุญาตให้ที่ปรึกษาที่เป็นทางการของตัวเอง ไปนั่งอยู่ในอนุกรรมการที่มีอำนาจในการตัดสินใจลงทุนแบบนี้ ย่อมเป็น conflict of interest อยู่แล้วชัดเจน ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ครับ

4.ประเด็นเรื่องราคา ถ้าไปดูในงบการเงินของบริษัท AGRE 101 หรือบริษัทที่เป็นเจ้าของตึกเดิมเมื่อไม่กี่ปีมานี้ จะเห็นว่าตึกนี้มีมูลค่าอยู่ประมาณ 3,000 กว่าล้าน จริงๆ ไปเอาเอกสารมาดูเลย ไม่นับว่า บริษัทนี้มีหนี้สินอยู่ด้วย

5.เรื่องการลงทุน ที่คุณสุชาติบอกว่าทั้งผมทั้งรักชนกไม่มีความรู้นั้น เดี๋ยวผมจะเปิดอีกทีแล้วกันครับว่าการซื้อตึกนี้ถ้าไม่ใช่ซื้อและจ้างคนมาบริหารแบบขาดความรู้ยิ่งกว่าเพราะมันเละเทะมาก ก็ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรระหว่างขาดความรู้กับรู้ดีเกินกลัวคนจะจับอะไรได้เลยทำให้มันซับซ้อนเข้าไว้

"สำหรับประเด็นสุดท้าย ก็อยากจะตอบคุณสุชาติ ที่ถามว่าไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะผมไปแข่งขันอะไรกับท่านในชลบุรีหรือไม่ ผมก็อยากจะบอกว่า ผมไม่ได้ทำธุรกิจหรือทำมาหากินแบบเดียวกับท่าน ส่วนท่านทำมาหากินแบบไหนบ้างนั้นคนชลบุรีเค้ารู้ดีทั้งจังหวัดครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง ผมไม่แข่งขันกับท่านแบบนั้นแน่นอนครับ" นายสหัสวัต ระบุ

ขณะเดียวกัน น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก รักชนก ศรีนอก - Rukchanok Srinork ตอบโต้นายสุชาติเช่นกัน ระบุว่า ลื้อดูร้อน 1) รัฐมนตรีไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งในบอร์ด เลขาประกันสังคมเป็นคนดูแลทั้งหมด ตอบ : อันนี้น่าจะเข้าข่ายโกหกคำโตแล้วหรือไม่คะ ถ้าเจ้ากระทรวง บริหารงานในกระทรวงไม่ได้ ประเทศนี้จะมีเจ้ากระทรวงเอาไว้ทำอะไร 

รัฐมนตรีไม่มีสิทธิยุ่งในบอร์ด ถ้าหมายถึงไม่มีสิทธิเข้าไปประชุมก็ใช่อยู่ แต่รัฐมนตรีไม่ต้องไปนั่งในบอร์ดเองหรอกค่ะ เพราะสามารถออกนโยบายให้ฝ่ายข้าราชการดำเนินตามแนวนโยบายได้ เพราะสัดส่วนในบอร์ด ฝ่ายข้าราชการโดยตำแหน่งก็ 1ใน 3 แถมในยุคที่ผ่านมา บอร์ดก่อนหน้านี้ในยุครัฐประหารก็มีมาจาก ม44 และยุคถัดมาก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งทางตรงแบบทุกวันนี้ ที่เป็นบอร์ดกันมาในอดีต อาจจะไม่ใช่ทุกคนแต่กว่าครึ่งก็พรรคพวกกันทั้งนั้น คุมเสียงไว้หมดแล้ว เพิ่งจะมาเป็นไตรภาคีจริงๆตอนมีเลือกตั้ง

"น่าสนใจที่ตอบแบบนี้ อีกนัยนึงคงแปลได้ว่า พี่บุญสงค์ อดีตเลขาประกันสังคม เตรียมตัวซวยคนเดียวเลยนะคะ เค้าโยนเผือกร้อนไปให้พี่รับคนเดียวแล้ว" น.ส.รักชนก ระบุ

2) คนที่ออกมาพูดเรื่องนี้ไม่มีความรู้ : ไม่ต้องมีความรู้เรื่องการลงทุนก็ได้ ดิฉันเชื่อว่าวิญญูชนที่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนก็ไม่มีใครที่ไหนเค้าซื้อของมุลค่า 3000ล้าน ในราคา 7000ล้าน หรอก การจ่ายที่ไม่สมเหตุสมผลเช่นนี้ ไม่มีคนดีดีที่ไหนเค้าทำ นอกจากว่าจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง 

ดิฉันก็อยากขอส่งสาสน์ถึงผู้ที่มีความรู้ในด้านการลงทุนทั่วประเทศ ท่านใดใจดีมีเวลา อยากให้ช่วยกันอธิบายให้เป็นวิทยาทาน ว่าเรื่องนี้มันผิดปกติอย่างไร เห็นแก่ผู้ใช้กรรมกรแรงงาน พนักงานออฟฟิตที่ทำงานส่งประกันสังคมกันงกๆๆโดยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลยเถอะ ความรู้ของท่านมีค่าออกมาพูดกันเยอะๆ

3) ไม่ทราบเรื่องการซื้อตึก ไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว : อมพระมาพูดเนอะ การลงทุนจำนวนขนาดนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไม่รู้แล้ว .. ที่ไหนมันควรจะรู้ มีเหตุผลอะไรที่ต้องให้ นาย ธ. ซึ่งเดิมเป็นหน้าห้อง คุณสุชาติ ย้ายข้ามห้วยเข้ามาทำงานในสำนักงานประกันสังคมในกองบริหารการลงทุน ? จนผลักดันการซื้อตึกผ่านแล้วถึงได้ย้ายไปทำงานต่างประเทศ ? 

"แล้วมันเหมาะเจาะอะไรขนาดนั้น การซื้อตึกที่น่าสงสัยว่ามีส่วนต่างถึง 4,000 ล้าน เสร็จสิ้นในช่วงในปีใกล้เลือกตั้งพอดีเลย ไม่อยากคิดแบบนี้เลย คงไม่ใช่ว่าคนจากพรรคเดียวกันเล่นแร่แปรธาตุพยายามจะช่วยกันหาเงินหาทองสู้ศึกเลือกตั้งหรอกใช่ไหมนะ บ้าหน่าไม่หรอก ไม่อยากคิดแบบนั้นเลย" น.ส.รักชนก ระบุ