'ทักษิณ' โชว์ไอเดีย 'ซื้อหนี้ประชาชน' เตือนรัฐมนตรีช่วยทำงาน

'ทักษิณ' โชว์ไอเดีย 'ซื้อหนี้ประชาชน' เตือนรัฐมนตรีช่วยทำงาน

"ทักษิณ"โชว์ไอเดีย "ซื้อหนี้ประชาชน"ออกจากระบบธนาคาร ชี้วันนี้รัฐบาลหนี้เยอะ ค่อยๆ ขยับแก้ปัญหา เตือนรัฐมนตรีช่วยกันทำงาน

ที่อาคารหอประชุมอนุสรณ์ 100 ปี  มหาวิทยาลัยพิษณุโลก อ.เมือง จ.พิษณุโลก มวลชนเสื้อแดงจากพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร ตาก อุทัยธานี นครสวรรค์ และสุโขทัย เดินทางมารวมตัวกันเพื่อต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างคึกคัก โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ คอยดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการติดตั้งเครื่องสแกนโลหะและตรวจสอบผู้เข้าร่วมงานทุกคน เพื่อให้แน่ใจว่างานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายทักษิณ กล่าวกับคนเสื้อแดงว่า 17 ปีที่รอคอย วันนี้ได้กลับมาหาพี่น้องที่พิษณุโลก ขอบคุณหัวใจพี่น้องทุกคนที่เด็ดเดี่ยว อยากบอกพี่น้องทุกคนว่าวันนี้เราไม่ต้องไปต่อสู้อะไรแล้ว การเมืองวันนี้อยากเห็นทุกฝ่ายมองประเทศไทยเป็นหนึ่ง

"อยากบอกพี่เสื้อแดงทุกคนว่า ไม่ว่าผมจะถูกใส่ร้ายป้ายสีในอดีตอย่างไรก็แล้วแต่ ผมให้อภัย เพราะถือว่าผมคือผม ผู้ซึ่งรักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรม อยากเห็นคนไทยทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ" 

"ผมกลับมาได้เพราะพระเมตตา เพราะฉะนั้นให้รู้เลยว่าชีวิตผมต้องถวายพระเจ้าอยู่หัว เพราะท่านมีพระเมตตาให้ผม ให้ผมได้กลับมาสู่ผืนแผ่นดินไทย ได้กลับมาอยู่กับครอบครัว อยู่กับพี่น้องที่ไม่เคยลืม ผมจะกลับมาทำงานให้กับบ้านเมือง อยากเห็นบ้านเมืองในยุคพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เป็นยุคศิวิไลซ์ เหมือนคำทำนาย เพราะฉะนั้นจะศิวิไลซ์ได้ ต้องอาศัยพลังของพี่น้อง ช่วยกันให้การเมืองแข็งแกร่ง บริหารประเทศด้วยปัญญา ด้วยความถูกต้อง บ้านเมืองจะไปได้ดี ลูกหลานเราก็จะสบาย" นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า "ปัญหาหนี้สินครัวเรือนเยอะเหลือเกิน ทำอย่างไรจะให้หนี้คนไทยลดลงได้ ผมได้คิดดังๆ ย้ำว่าแค่คิดดังๆ ยังไม่ได้ทำ คิดว่าต่อไปเราจะซื้อหนี้ทั้งหมดของประชาชนออกจากระบบธนาคารดีไหม แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน แล้วไม่ต้องชำระเต็มจำนวน มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ ยกออกจากเครดิตบูโรให้หมด ให้เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทำมาหากินใหม่ สิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้เงินรัฐบาล เพราะผมสามารถให้เอกชนลงทุน"

"วันนี้รัฐบาลเป็นหนี้เยอะ เราเข้ามาหนี้ก็บานตะไทแล้ว จะขยับอะไรทีก็เป็นหนี้ไปหมด เราต้องสร้างหนี้ให้น้อยที่สุด แล้วก็สร้างโอกาสให้คนไทยมากที่สุด พูดง่ายแต่ทำยาก แต่ต้องทำ” นายทักษิณกล่าว
 

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า "เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมพูด นายกฯพูด พรรคเพื่อไทยพูด เราทำแน่นอน แต่ทำวันนี้มันไม่เหมือนสมัยอยู่ไทยรักไทย เพราะพรรคเรามีขนาดเล็กลง มีรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงน้อยลง รัฐมนตรีผสม ทำงานด้วยกันไม่คล่องตัว พยายามทั้งนวด ทั้งบีบ ให้ช่วยทำงานหน่อย พ่อมหาจำเริญช่วยทำงานหน่อยเถอะ"

“ที่ผ่านมาใครจะว่าผมอย่างไร ผมปล่อยวางหมดแล้ว โลภโกรธหลง ปล่อยวางไปนานแล้ว อยากบอกให้พี่น้องคนเสื้อแดงทั้งหลาย กลับบ้านไปบอกคนที่บ้าน เรื่องปัญหาของประเทศผมรับไว้ แล้วรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่กระบวนการการแก้ปัญหา ต้องใช้เวลา และยากกว่าเดิม เพราะทหารวางระบบไว้เยอะพอสมควร แย่พอสมควร ปฏิวัติทีก็ถอยไปที ยอมรับว่ายาก แต่ไม่เหนือกว่าความพยายาม เราต้องสู้ เราต้องทำให้ได้” นายทักษิณกล่าว

ต่อมาเวลา 11.00 น. กลุ่มเกษตรกรชาวนาจังหวัดพิจิตร นำโดยนายพิพัฒน์ อายุ 49 ปี เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยพิษณุโลก เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนขอความช่วยเหลือเรื่องเงินค่าข้าวที่ยังไม่ได้รับจากโครงการจำนำข้าวปี 48/49 ซึ่งเป็นจำนวนเงินกว่า 58 ล้านบาท ครอบคลุม 464 ครัวเรือน ใน 7 อำเภอ ของ จ.พิจิตร โดยระบุว่าเงินดังกล่าวติดอยู่ที่องค์การคลังสินค้า และยังไม่ได้รับการจ่ายมาเป็นเวลา 19 ปี (ตั้งแต่ปี 2549-2568)

โดยกลุ่มเกษตรกรชาวนา ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบสกัดไม่ให้เข้าภายในบริเวณงาน แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังตัวแทนของนายทักษิณ เพื่อรับหนังสือร้องเรียนแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบการปราศรัยแล้ว นายทักษิณได้เดินทางไปกราบขอพรพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ และศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯในช่วงเย็น