เปิดเอกสารลับ อ้าง กอ.รมน.จับตาความเคลื่อนไหว ‘บิ๊กเนมการเมือง’

เปิดเอกสารลับมาก! อ้าง กอ.รมน.ประมาณภัยคุกคามความมั่นคงปี 67-68 จับตาดูความเคลื่อนไหว ‘บิ๊กเนมการเมือง’ เพียบ ‘ทักษิณ-ธรรมนัส-อนุทิน-ณัฐพงษ์-แกนนำพรรคส้ม’ โดนด้วย
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นวันที่ 2 โดยในช่วงหัวค่ำ นายชยพล สะท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ได้อภิปรายถึงประเด็นการปฏิบัติการข่าวสาร (ไอโอ) ของฝ่ายความมั่นคง ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยระหว่างการอภิปรายนั้น ได้มีการพาดพิงถึงสถาบันฯเบื้องสูง รวมถึงบุคคลภายนอกหลายคน จนถูกนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในการประชุม สั่งตัดเวลาการอภิปราย และห้ามไม่ให้เปิดสไลด์โชว์ จนทำให้นายชยพล ต้องออกมาอภิปรายนอกสภาฯนั้น
อ่านข่าว:
'สส.ปชน.' โชว์ผังลัมส้ม ซัด 'แพทองธาร' ก่ออาชญากรรมคนเห็นต่าง
‘ปชน.’ จวก ‘พิเชษฐ์’ ห้ามซักฟอก ‘ไอโอกองทัพ’ คุกคาม นายกฯ-ปชช.
เมื่อเวลา 21.10 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้ชี้แจงถึงกรณีไอโอ ว่า รัฐบาลนี้ หรือผู้บริหารประเทศ เราไม่มีนโยบายตามที่กล่าวมา เพิ่งรับทราบจากท่าน ยอมรับว่าไม่กว้างขวางเท่าท่าน และตนจะไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้ชัดขึ้น ก็คิดว่าสิ่งที่ท่านเล่ามา ตนจะน้อมรับ และไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนในข้อเท็จจริงทั้งหมด และหาหนทางในการแก้ไข ถ้ามันเป็นจริง แต่พูดยาก เพราะนั่งฟังท่านมา ก็สับสนในข้อมูล หลายเรื่องเป็นเรื่องเก่า หลายเรื่องเป็นเรื่องไม่จริง ตนรับฟัง แต่ต้องหาข้อมูลตรวจสอบอีกที ให้เชื่อไปเลยก็ยาก ก็จะขออนุญาตนำไปศึกษาปรับปรุงตรวจสอบ และสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วว่า เรื่องนี้เป็นอย่างไร ให้มารายงานอีกที
ล่าสุด พรรคประชาชน (ปชน.) เผยแพร่เอกสารและข้อมูลต่าง ๆ ที่นายชยพล เตรียมไว้อภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ ต่อสาธารณะ หลังจากถูกตัดเวลาการอภิปรายในสภาฯ และห้ามเปิดสไลด์โชว์ระหว่างการอภิปราย
ในส่วนไฮไลต์สำคัญของเอกสารที่นายชยพล นำมาอภิปรายต่อสภาฯนั้น มีการกล่าวอ้างว่าเป็นเอกสารลับของสำนักข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (สขว.กอ.รมน.) โดยประมาณการภัยคุกคามด้านความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รอบ 1 ปี ห้วง 1 ต.ค. 2567-30 ก.ย. 2568 จำนวน 179 หน้า
สำหรับภารกิจของ สขว.กอ.รมน. คือการกำหนดนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน ควบคุม และกำกับดูแลการดำเนินการด้านการข่าวกรอง และต่อต้านข่าวกรองต่าง ๆ ประเมินสถานการณ์ และแนวโน้มภัยคุกคามด้านความมั่นคง ตลอดจนการดำเนินการในงานข่าวทั้งปวงของ กอ.รมน.
สำหรับสาระสำคัญในเอกสารที่อ้างว่ามาจาก กอ.รมน.แบ่งเป็นหลายหัวข้อ โดยมีการพาดพิงชื่อ ดังนี้
กลุ่มแรก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยเป็นการอธิบายสถานการณ์ของนายทักษิณ ภายหลังกลับเข้ามารับโทษคดีทุจริต และได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ ต้องโทษจำคุก 1 ปี ต่อมานายทักษิณ ได้ถูกอัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนในชั้นศาลอาญา
นอกจากนี้ยังมีการพาดพิงถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ แสดงจุดยืนเรื่องมาตรา 112 ต่อพรรคแกนนำร่วมรัฐบาล ในประเด็นที่นายทักษิณ บิดา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯคนปัจจุบัน ตกเป็นผู้ต้องหาตามมาตรา 112 ขณะเดียวกันยังมีการพาดพิงถึงนายทักษิณ กรณีขออนุญาตศาลอาญา เดินทางออกไปนอกประเทศในเดือน ก.ค. 2567 รักษาอาการป่วย แต่ศาลไม่อนุญาต
บุคคลต่อมาที่ถูกพาดพิงคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคกล้าธรรม เมื่อครั้งเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อ ส.ค. 2567 ที่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับจุดยืนของมาตรา 112
เอกสารที่กล่าวอ้างว่าเป็นของ กอ.รมน. ดังกล่าว ยังพาดพิงถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ให้สัมภาษณ์สื่อ ไม่สามารถสนับสนุนบุคคลมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ตามเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทยที่ออกแถลงการณ์ไว้เมื่อ 15 พ.ค. 2566
กลุ่มสอง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ปชน. ที่ประกาศภายหลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ปชน. โดยพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯในอนาคต นำพาพรรคได้รับชัยชนะการเลือกตั้งปี 2570 พร้อมย้ำว่าพรรคไม่เคยลดเพดานในการแก้ไขมาตรา 112 ยืนยันว่าจะเสนอแก้ไขเพื่อปรับปรุงกฎหมายนี้ ไม่ให้มีปัญหาถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
ต่อมา กอ.รมน.มีการบรรยายถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรค กรณีมีนโยบายหาเสียงเพื่อแก้ไขมาตรา 112 ในการเลือกตั้งปี 2566 โดยสรุปรายละเอียดตอนหนึ่งในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมกับระบุรายชื่อผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจำนวน 11 คน ในจำนวนนี้รวมถึงชื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ด้วย
ในเอกสาร กอ.รมน.ดังกล่าว ยังกล่าวอ้างถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่ม “สหพันธรัฐไท” 4 กลุ่มที่จัดรายการผ่านช่อง Youtube และกลุ่มบุคคลที่พำนักต่างประเทศ และเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่าน Youtube ซึ่งรวมถึง “กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ตลาดหลวง” ใน Facebook ที่มีนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยเกียวโต ผู้ก่อตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กดังกล่าว ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในต่างประเทศเกี่ยวกับสถาบันฯ และนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ลี้ภัยทางการเมืองภายหลังรัฐประหารปี 2557 และเคลื่อนไหวทางการเมืองเกี่ยวกับสถาบันฯ ปัจจุบันพำนักอยู่ในฝรั่งเศสด้วย
นอกจากนี้ยังพาดพิงถึงเพจที่ควรติดตามเฝ้าระวังภายในประเทศ มีจำนวน 58 เพจ ส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ในจำนวนนี้มีกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง เฟซบุ๊กแฟนเพจพรรคก้าวไกล Move Forward Party (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นชื่อพรรคประชาชนแล้ว) กลุ่มราษฎร กลุ่มรักคนเสื้อแดง กลุ่มเยาวชนปลดแอก-Free Youth เป็นต้น
ในเอกสารที่กล่าวอ้างว่าเป็นของ กอ.รมน. ได้ประเมินแนวโน้มสถานการณ์ เกี่ยวกับสถาบันฯ ที่เป็นสถาบันหลักของชาติ ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งที่มีมายาวนาน ซึ่งปัจจุบันมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นปัจจัยเสริมกระตุ้นให้การเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน ได้สร้างความขัดแย้งและแตกแยกขึ้นในสังคมอย่างรุนแรง ซึ่งภาพรวมสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ การเคลื่อนไหวต่อต้านสถาบันฯ มีแนวโน้มลดลงในทุกพื้นที่
ในเอกสารที่กล่าวอ้างว่าเป็นของ กอ.รมน.ดังกล่าว ได้ประเมินสถานการณ์ทางการเมือง ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มี ปชน.เป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้าน โดยการเคลื่อนไหวทางการเมืองในห้วงที่ผ่านมาของพรรคฝ่ายค้าน มุ่งเน้นวิพากษ์วิจารณ์โจมตีประเด็นสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนคู่ขนานไปกับประเด็นเศรษฐกิจตกต่ำ และการดำเนินงานของรัฐบาลไม่เป็นไปตามที่หาเสียง ส่วนความเคลื่อนไหวในสภาฯ มีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เน้นไปที่นายกฯ และรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก เพื่อทำลายกระแสนิยมทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล
เอกสารดังกล่าว ยังอ้างถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ยุบพรรคก้าวไกล และการก่อตั้งพรรคประชาชน (ปชน.) เพื่อมาขับเคลื่อนงานทางการเมืองอีกครั้ง
รวมถึงอ้างคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในข้อหาไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ อีกด้วย
นอกจากนี้ยังเอกสารดังกล่าวยังอ้างถึงคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลอาญารับฟ้อง และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยกรณีศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัวนายทักษิณ คาดว่าจะเป็นประเด็นให้กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม นำไปขยายผลโจมตีพรรคเพื่อไทย รวมถึงบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมว่า 2 มาตรฐาน
ขณะเดียวกันได้ประเมินสถานการณ์การเลือก สว.เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา โดยคนที่ได้รับเลือกไม่ได้มีชื่อเสียงโดดเด่น และพบว่า มีสายสัมพันธ์กับกลุ่มการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย และ สว.ที่ได้รับเลือกจำนวนมากมาจากพื้นที่จังหวัดที่เป็นฐานมวลชนของพรรคภูมิใจไทย เช่น จ.บุรีรัมย์ ที่มี สว.มากสุดในประเทศคือ 14 คน เป็นต้น
ในเอกสารที่อ้างว่าเป็นของ กอ.รมน.ยังมีการพาดพิงบุคคล กลุ่มมวลชน และประเมินสถานการณ์การเมืองไว้อีกจำนวนมาก อย่างไรก็ดี กอ.รมน. ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ออกมายืนยันหรือปฏิเสธถึงการมีอยู่ของเอกสารข้างต้น