‘นายกฯ’ สั่ง ยกเครื่องมาตรการตรวจสอบตึก รับแผ่นดินไหว

“นายกฯ” เผย ขีดเส้น90วันสร้างโมเดล หาเหตุ “ตึกสตง.” ถล่ม สั่งยกเครื่อง มาตรการตรวจสอบตึก รับ แผ่นดินไหว ลั่น ไร้วิ่งเต้น เขี่ย รมต.
ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมเพื่อรับฟังรายงานผลการตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ หลัง ตึก สตง. ถล่ม เหตุการณ์"แผ่นดินไหว" โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยหลังการประชุม นายกฯ แถลงว่า วันนี้ได้หลายข้อสรุป ขอให้ความมั่นใจประชาชน กฎหมายที่ออกมาเกี่ยวกับการสร้างอาคารสามารถรองรับในเรื่องแผ่นดินไหวแบบที่เกิดขึ้นมาได้ ถ้าเกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงเท่าเดิมก็จะไม่ทำให้ตึกเกิดการถล่ม แต่ตึกเหล่านั้นต้องทำตามกฏหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งเราจะเห็นว่าไม่มีตึกไหนจะมีความเสียหายที่มากมีเรื่องของการกระเทาะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตึกๆที่ถล่มมีเพียงตึกเดียวที่เราเอามาดูในเรื่องข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเมื่อสักครู่พอได้คุยกันก็ได้ข้อสงสัยหลายเรื่องเป็นข้อสงสัยที่ค่อนข้างสำคัญอย่างมากตั้งแต่เริ่มต้น และอีกอย่างที่ต้องทำคือว่าไซต์งานก่อสร้างที่เกิดเหตุยังต้องใช้เวลาในการเคลียร์พื้นที่ 1 เดือน
นายกฯ กล่าวต่อว่าโดยที่ประชุมฯในวันนี้ได้ข้อเราจะใช้ 4 สถาบันการศึกษาและกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อทำโมเดลจำลองเหตุการณ์ตึกถล่มที่เกิดขึ้นจริง เพื่อที่จะให้รับทรายว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ตึกถล่ม เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับชีวิตคน
ทั้งนี้ รัฐบาลติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และพูดคุยกับคณะทำงานแล้วบอกว่าโมเดลที่จะทำจากแต่ละสถาบันใช้เวลาประมาณ 90 วัน แต่ดิฉันบอกว่าเร็วกว่านี้ได้หรือไม่ ซึ่งความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดและมีหลายข้อที่ทำให้ตึกถล่ม เพื่อความแน่ชัด ผู้เกี่ยวข้องจะใช้เวลาประมาณ 90 วัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและความโปร่งใสในการตรวจสอบ ให้ประชาชนได้เข้าใจว่าเราใช้วิศวกรจาก 4 สถาบันการศึกษาต่างๆกัน เข้ามาทำแยกกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและมั่นใจได้
นายกฯ กล่าวอีกว่า ตึกทุกตึกที่สร้างตามกฏหมายที่กำหนดขอบเขตครอบคลุมมาเป็นอย่างดี ไม่อยากให้ประชาชนต้องหวาดกลัวว่าตึกของเราจะเป็นอย่างไร เราจะเห็นเลยว่าทุกตึกที่เกิดแผ่นดินไหวไม่มีตึกถล่มมีเพียงจุดเดียวเท่านั้น ตนขอให้ความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตามข้อสงสัยที่ได้รับมาในตอนนี้ รอให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน และอีกอย่างเมื่อเคลียร์พื้นที่ไซต์ก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้วก็จะได้ข้อมูลเพิ่มเติม และเก็บข้อมูลไปพร้อมกันๆ นอกจากนี้จะต้องทบทวนกระบวนการตรวจสอบเรื่องของตึกและอาคารใหม่ทั้งหมดทั้งของเอกชนและของราชการ ซึ่งดิฉันบอกแล้วว่าเคยสร้างตึกในภาคเอกชน มีข้อต้องได้รับการอนุมัติมากมาย เราต้องมาทบทวนกันใหม่ว่าการอนุมัติเรานั้นปลอดภัยใช่หรือไม่ กระบวนการต่างๆเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ และอาคารของราชการเราต้องดูต้องเพิ่มอะไรเข้าไปหรือไม่ แต่อาคารของเอกชนและราชการเราสามารถเพิ่มในเรื่องมาตรการรองรับแผ่นดินไหวเข้าไปเพิ่มได้ด้วย ฉะนั้น การทบทวนกระบวนการเหล่านี้ทำให้คล่องตัวและตรงประเด็นมากยิ่งขึ้น ไม่อยากให้มีกระบวนการมากมายเกินไปและไม่เกิดประโยชน์ ส่วนการจะเพิ่มมาตรการอย่างไรเพื่อรองรับตึกที่สร้างในอนาคตไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก นี่คือ ข้อสรุปจากการประชุมฯ
เมื่อถามว่ามีข้อสงสัยเรื่องคุณภาพเหล็ก ที่นำมาใช้ก่อสร้างได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ว่ามีความคืบหน้ามากน้อยแค่ไหน นายกฯกล่าวว่า ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยอันนี้เป็นข้อมูลเรื่องของวัสดุต่างๆเกี่ยวข้องแน่นอน โดยสถาบันต่างๆมาช่วยกันดูประกอบว่า สิ่งใดบ้างที่ทำให้เกิดเหตุนี้ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดในเรื่องโครงสร้าง จะให้ทางคณะกรรมการวิชาชีพชี้แจง
“ผลการตรวจสอบสาเหตุจะต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน และเราได้ดูแล้วว่าระหว่างทางกว่าที่จะได้โมเดลจำลอง เหตุการณ์ตึกถล่มใน 90 วัน เราจะดูว่ามีสิ่งใดบ้างที่ทำแล้วผิดกฎหมาย หรือผิดมาตรฐานหรือผิดกระบวนการก็ผิดกฎหมายอยู่ดี เรื่องไหนที่ผิดกฎหมายเราดำเนินคดีควบคู่กันไปอยู่แล้ว แต่ผลสรุป 100 เปอร์เซ็นต์ จะทำให้ทราบว่าทั้งตึกเป็นเพราะอะไรจึงเกิดการถล่ม”นายกฯ กล่าว
เมื่อถามอีกว่าจะมีการดำเนินการกับบริษัทที่ผลิตเหล็กหรือไม่ ภายหลังจากที่ออกมาข่มขู่จะย้ายรมว อุตสาหกรรมที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว นายกฯ ย้อนถามว่าใครจะย้ายรัฐมนตรีอุตสาหกรรม บริษัทจะย้ายรัฐมนตรีอาจจะไม่ถูกต้องในเรื่องกฎหมายหรืออำนาจความจริงรัฐมนตรีที่รับผิดชอบทุกคน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ไม่มีใครโอเค กลับเรื่องการวิ่งเต้น และไม่สนับสนุนเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งตอนยังไม่เคยพูดคุยกับบริษัท บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับกระบวนการก็ต้องพูดคุย