'พิธา' เผยถ้า 'ก้าวไกล' เป็นรัฐบาล ดัน 4 เสาหลักเป็นวาระสำคัญแล้ว

'พิธา' เผยถ้า 'ก้าวไกล' เป็นรัฐบาล ดัน 4 เสาหลักเป็นวาระสำคัญแล้ว

'พิธา' เผยถ้า 2 ปีที่แล้ว 'ก้าวไกล' ได้เป็นรัฐบาล ดัน 4 เสาหลัก 'ปฏิรูปสถาบันการเมือง-ปรับสมดุลพลเรือนกับกองทัพ-กระจายอำนาจ-สร้างประเทศมีเสถียรภาพ เป็นวาระสำคัญไทย

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2568 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ระบุว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเยือน Pacitan บ้านเกิดของ ดร.สุซิโล บัมบัง ยูโดโยโน (SBY) อดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ผู้มีบทบาทสำคัญในการนำพาประเทศผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ด้วยภาวะผู้นำที่มั่นคง รอบคอบ และตั้งมั่นในหลักประชาธิปไตยที่ยังเป็น แรงบันดาลใจในระดับอาเซียน

นายพิธา ระบุอีกว่า ในฐานะนักการศึกษา (Visiting Fellow) มีความสนใจและอยากกลับมาอินโดนีเซียอีกครั้ง เพื่อเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และทบทวนบทเรียนร่วมกัน ในช่วงเวลาที่ภูมิภาคของเรากำลังเผชิญกับความท้าทายรอบใหม่ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ตนทำงานเป็นที่ปรึกษาธุรกิจ (Management Consulting) เคยมีโอกาสร่วมงานกับรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานภาครัฐ และธนาคารในอินโดนีเซีย ประสบการณ์เหล่านั้นทำให้ได้เห็นรากฐานสำคัญที่หล่อหลอมประเทศแห่งนี้อยุ่บ้างในอดีต

ตนได้พบกับท่าน SBY ครั้งแรกเมื่อปี 2009–2010 ขณะเป็นนักศึกษาที่ Harvard Kennedy School และได้ฟังบรรยายของท่านเกี่ยวกับภาวะผู้นำและการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย ต่อมาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปบรรยายที่ Stanford University และที่นั่นเองที่ได้พบกับ คุณกีตา วิริยาวัน อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ในรัฐบาลของท่านอดีตประธานาธิบดี ซึ่งนำไปสู่การพบปะและการสนทนาในวันนี้

เราร่วมกันแลกเปลี่ยนบทเรียนสำคัญ 4 ประการที่เปลี่ยนโฉมอินโดนีเซีย 1.Reformasi: การเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยหลังยุคอำนาจเบ็ดเสร็จ 2.Dwifungsi: หรือ dual function คือการปฏิรูปบทบาทของกองทัพให้อยู่ภายใต้ระบอบพลเรือน หยุดบทบาทหลากหลายของกองทัพให้เป็นมืออาชีพและออกห่างจากการเมือง 3.Decentralisasi: การกระจายอำนาจจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างประชาธิปไตยฐานราก 4.Masa Keemasan: “ยุคทอง” ที่อินโดนีเซียมีเสถียรภาพทางการเมือง เศรษฐกิจเติบโต และมีบทบาทระดับโลกที่เข้มแข็งขึ้น

\'พิธา\' เผยถ้า \'ก้าวไกล\' เป็นรัฐบาล ดัน 4 เสาหลักเป็นวาระสำคัญแล้ว

"แน่นอนว่าบริบทและช่วงเวลาของแต่ละประเทศย่อมไม่เหมือนกัน แต่หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เสาหลักทั้งสี่เหล่านี้ — การปฏิรูปสถาบันการเมือง, การปรับสมดุลพลเรือนกับกองทัพ, การกระจายอำนาจ และการสร้าง ประเทศที่มีเสถียรภาพและความหวัง — ก็คงเป็นวาระสำคัญของไทยเช่นเดียวกัน" นายพิธา ระบุ

อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุอีกว่า ในช่วงเวลาที่บทบาทของอาเซียนกำลังถูกทดสอบจากการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ การเดินทางครั้งนี้จึงมีความหมายเป็นพิเศษโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ การเมืองเชิงอำนาจ (power-based diplomacy) กำลังเบียดบัง การทูตบนกฎกติกา (rule-based diplomacy) — เมื่อฝ่ายเดียวมาก่อนพหุภาคี การแข่งขันมาก่อนความร่วมมือ และชาตินิยมมาก่อนการพึ่งพาอาศัยกัน การสร้างภูมิภาคที่ตั้งอยู่บนหลักการจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็น

"ผมจะได้พบกับกับ ดร.มาร์ตี นาตาเลกาวา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ผู้ซึ่งยืนหยัดขับเคลื่อน ความเป็นกลางเชิงรุก การสร้างพหุภาคี และ การเสริมสร้างบทบาทอาเซียน — เสียงที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนจากการทูตบนกฎกติกาไปสู่การเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยอำนาจครับ" นายพิธา ระบุ